ราคาน้ำมันร่วง ปิดตำนาน ‘ซิงหลง’

ราคาน้ำมันร่วง ปิดตำนาน ‘ซิงหลง’

"โอเค ลิม" นักธุรกิจชื่อดังของสิงคโปร์ สร้างอาณาจักรน้ำมัน "ซิงหลง" ด้วยความมานะบากบั่นและกล้าได้กล้าเสีย เรื่องราวของเขากลายเป็นตำนานสู้แล้วรวย แต่แล้วทุกสิ่งก็พังทลาย เมื่อตลาดน้ำมันผันผวนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!

โอเค ลิม นักธุรกิจชื่อดังของสิงคโปร์ สร้างอาณาจักรน้ำมันซิงหลงด้วยความมานะบากบั่นและกล้าได้กล้าเสีย เรื่องราวของเขากลายเป็นตำนานสู้แล้วรวยในบรรดาผู้ค้าน้ำมัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล่มสลายลงเมื่อตลาดน้ำมันผันผวนอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ทั้งนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่ากดความต้องการน้ำมันส่งผลให้ราคาร่วงลงอย่างหนัก รวมถึงการจัดการแบบหมกเม็ดของ "ลิม" เองก็มีส่วนสำหรับหายนะครั้งนี้ด้วย

ตามคำให้การฉบับช็อกโลกที่ AFP รับรู้มา คือ ลิมเผยว่า แท้จริงแล้วบริษัทค้าน้ำมันชื่อดังของเขา ไม่มีกำไรเลยในช่วง 2-3 ปีหลัง!!

นักธุรกิจรายนี้ฉายภาพตัวเองว่าเป็นคนติดติน แต่บุคคลใกล้ชิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพีว่า เขาคือจอมเสี่ยง เดือนที่แล้วเขายื่นเรื่องต่อศาลขอคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์บริษัทซิงหลงเทรดดิง ซึ่งก็คือการเข้าสู่กระบวนการล้มละลาย

ลิม อพยพจากจีนมาอยู่สิงคโปร์แล้วก่อตั้งซิงหลงเทรดดิงขึ้นในทศวรรษ 60 กิจการเติบโตเป็นบริษัทค้าน้ำมันรายใหญ่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ตามคำให้การฉบับช็อกโลกที่เอเอฟพีรับรู้มา ลิมเผยว่า แท้จริงแล้วบริษัทค้าน้ำมันชื่อดังของเขา “ไม่มีกำไรเลยในช่วง 2-3 ปีหลัง” แม้รายงานทางการบอกว่า ซิงหลงเทรดดิงทำกำไรดีมากในปี 2562

ลิมยอมรับว่า ปกปิดผลขาดทุน 800 ล้านดอลลาร์มาหลายปี ทั้งยังเป็นหนี้ธนาคารอีกเกือบ 4,000 ล้านดอลลาร์ แต่เขาสั่งไม่ให้รายงานความเสียหายเหล่านี้

..เท่านั้นยังไม่พอลิมยังแอบขายน้ำมันในคลังที่ต้องใช้ค้ำประกันสินเชื่อด้วย

ย้อนกลับไปสมัยวันวานยังหวานอยู่ ลิม อูนควิน ย้ายมาอยู่สิงคโปร์หลังเป็นเอกราชในปี 2508 ได้ไม่นาน เขาเริ่มต้นตั้งบริษัทด้วยรถบรรทุกส่งของเพียงคันเดียว จากนั้นเติบโตขึ้นเป็นซัพพลายเออร์น้ำมันสำหรับเรือรายใหญ่ ความรุ่งเรืองของซิงหลงดูๆ ไปคล้ายกับการเติบโตของสิงคโปร์ จากท่าเรือบ้านๆ สู่ศูนย์กลางการเงินมั่งคั่ง

นักสังเกตการณ์กล่าวว่า ซิงหลงมีบทบาทสำคัญผลักดันให้ประเทศเล็กๆ แห่งนี้เป็นท่าเรือเติมน้ำมันชั้นนำของโลก จากนั้นขยายกิจการสู่การเช่าเหมาลำเรือ โดยดูแลร่วมกับบริษัทลูกที่มีกองเรือมากกว่า 150 ลำ

ส่วนภาพลักษณ์ของลิมที่ตอนนี้อยู่ในวัย 70 เศษค่อนข้างซับซ้อน นัยหนึ่งเขาเป็นคนโลว์โปรไฟล์ พยายามแสดงให้ใครๆ เห็นถึงความอ่อนน้อมถ่อมตน คนที่รู้จักลิมบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ถ้าเห็นเขาเดินอยู่ตามถนนจะไม่รู้เลยว่านี่คือนักธุรกิจมหาเศรษฐี แต่อีกนัยหนึ่งเขากุมอำนาจในซิงหลงอย่างเด็ดขาด

ผู้ค้าน้ำมันรายหนึ่งในสิงคโปร์กล่าวถึงลิมว่า ตัดสินใจบริหารธุรกิจครอบครัวแบบชายเป็นใหญ่ตามสไตล์ของคนเอเชีย

จอร์จ มองเตพีค ผู้บริหารตลาดน้ำมันมากฝีมือที่เคยทำธุรกิจกับลิมมานับสิบปีถึงปี 2544 กล่าวว่า ผู้ก่อตั้งซิงหลงอาจดูเหมือนแทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการประชุม ราวกับว่าไม่รับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“แต่จริงๆ แล้วเขารู้ทุกอย่าง เขาคือคนที่กล้าได้กล้าเสียตัวจริง”

การล้มละลายของซิงหลงเป็นเหตุให้ตำรวจต้องเข้าไปสอบสวนและส่งผลสะเทือนไปทั่ววงการการเงิน ร้อนถึงหน่วยงานรัฐบาลสิงคโปร์ต้องรับประกันว่า ธุรกิจค้าน้ำมันของประเทศยังไปต่อได้

“ไม่มีใครเคยคิดว่าจะมีเรื่องผิดปกติเกิดขึ้น ทุกคนเชื่อว่าซิงหลงใหญ่เกินกว่าจะล้มละลาย” แหล่งข่าวรายเดิมกล่าว

แต่ดูเหมือนว่าความกล้าได้กล้าเสียไปทุ่มซื้อน้ำมันในช่วงขาลงย้อนกลับมาทำลายซิงหลงเอง

บริษัทถูกกระหน่ำโดยมรสุมสองลูก ทั้งสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียกับรัสเซีย และไวรัสระบาดทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจหยุดชะงัก ความต้องการน้ำมันทั่วโลกหายไปราว 1 ใน 3

ก่อนร้องขอคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์จากศาล ซิงหลงรายงานข้อมูลต่อเจ้าหนี้ว่า บริษัทมีหนี้สินรวม 4.05 พันล้านดอลลาร์ ทรัพย์สิน 714 ล้านดอลลาร์ หนี้ก้อนใหญ่สุดคือหนี้ธนาคารมูลค่า 3.85 พันล้านดอลลาร์ บรรดาเจ้าหนี้ เช่น เอชเอสบีซี เอบีเอ็นแอมโรของเนเธอร์แลนด์ และโซซิเอเต เจเนอราลของฝรั่งเศส

“สิ่งที่ทำให้หลายๆ คนอึ้ง คือ ซิงหลงไม่มีเงินสด ทั้งๆ ที่เป็นบริษัทใหญ่มาก” แหล่งข่าวย้ำ

ลิมลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการและกรรมการผู้จัดการแล้ว แต่ถึงขณะนี้ยังไม่มีใครทราบว่าชะตากรรมของซิงหลงจะเป็นอย่างไรต่อไป

เหล่านักสังเกตการณ์กล่าวว่า เดิมทีซิงหลงหวังว่า จีนจะสกัดไวรัสได้ และความปั่นป่วนในตลาดน้ำมันเป็นแค่ระยะสั้น ด้วยกลยุทธ์ดังกล่าว มองเตพีคมองว่า ซิงหลงจึงทุ่มสินทรัพย์ทั้งหมดลงไป แต่เมื่อเขาได้อ่านคำสารภาพของลิมแล้ว มองเตพีคพูดได้คำเดียวว่า

"เกมของซิงหลงจบแล้ว!"