ไทยคลายล็อกมาตรการ หวั่นเงินไม่พอหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม

ไทยคลายล็อกมาตรการ หวั่นเงินไม่พอหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่ม

โฆษก ศบค. เผยความคืบหน้าคลายล็อกมาตรการป้องแพร่ระบาดโควิด-19 หวั่นหากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มหลักหมื่น- แสนคน ประเทศจะมีเงินไม่พอดูแล ระบุต้องพิจารณารอบด้าน ย้ำประชาชนให้ความร่วมมือ พร้อมฝากสร้างวิถีชีวิตใหม่รับมือโควิด

ไทยเงินไม่พอดูแลผู้ป่วยหลักหมื่น-แสน

วันนี้ (24 เมษายน 2563) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่าสำหรับการคลายล็อกมาตรการต่างๆ นั้น เรื่องนี้ ต้องมีการตัดสินใจอย่างรอบด้าน ซึ่งจะต้องมีการประชุม และนำเข้าคณะรัฐมนตรีเพื่อประกาศได้อย่างชัดเจน

รวมถึงขณะนี้มีการตั้งศูนย์บริการการแพร่ระบาด โดยมีสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมชาติ มีภาคธุรกิจเข้ามาร่วมมาก เพื่อมองหาแนวทางที่จะช่วยธุรกิจ ช่วยเศรษฐกิจของประเทศ เพราะจากการควบคุมโรคให้ได้ ต้องเริ่มจากคุมคน และเมื่อคุมคนย่อมกระทบต่อเศรษฐกิจ  ถ้าจะเกิดการผ่อนคลายต้องปรึกษากัน และจะนำเสนอชุดข้อมูลต่างๆ ดูกิจการ กิจกรรมใดที่จะทำได้หรือไม่ได้ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ถูกคิด ถูกกรองอย่างรอบด้าน ออกมาแล้วมาตรการต้องไม่กระทบต่อการแพร่ระบาดของโรค

158771455122

“ตอนนี้เรามีเงินไม่พอ ดังนั้น การจะคลายล็อกมาตรการต่าง แล้วทำให้เกิดการระบาดของคลื่นภูเขารอบที่ 2 หรือ 3 ไม่ได้ เพราะจะเกิดการสูญเสียงบประมาณจำนวนมาก และสิ่งที่ทำไปก็เสียเปลี่ยน เนื่องจากการดูแลผู้ป่วย 1 ราย  มีการประมาณการณ์ว่าต้องเสียเงินประมาณ  1 ล้านบาท ตอนนี้เรามีคนป่วยไป 2,000 กว่าราย หมายความว่าเสียเงินไป 2,000-3,000 ล้าน แล้ว ถ้าตัวเลขผู้ป่วยหลักหมื่นหลักแสนเหมือนบางประเทศไม่ได้”นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว 

ดังนั้น การเสียเงินในการรักษาเพื่อจะทำให้ติดเชื้อไม่มาก ถึงจะกระทบต่อเศรษฐกิจก็ต้องทำ ประเทศไทยอยากให้ทุกคนทั้งผู้ติดเชื้อและไม่ติดเชื้ออยู่ในประเทศต่อไป เราไม่สามารถปล่อยให้ผู้ติดเชื้อ หรือใครเสียไปได้ หรือต้องมาตัดสินว่าใครควรอยู่หรือไป  เรื่องนี้จึงต้องคิดแบบรอบคอบในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามผมเชื่อว่าคนไทยรักกันและสามัคคี เราจะคิดและนำพาไปอยู่รอด ปลอดภัยไม่ติดโรค

ปรับลดด่าน มีผู้กระทำผิดเคอร์ฟิวน้อยลง

โฆษก ศบค. กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์จากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง วันที่ 24 เมษายน ยังมีผู้กระทำความผิดออกนอกเคหสถาน ถูกดำเนินคดี 446 ราย ตักเตือน 36 ราย และชุมนุม มั่วสุม ถูกดำเนินคดี 39 ราย ซึ่งจะเห็นได้ว่าจำนวนของผู้ฝ่าฝืน หรือผู้กระทำผิด ลดน้อยลงจากทุกครั้ง เพราะได้มีการลดด่าน แต่เน้นการดูแลเชิงรุกลงไปในพื้นที่นั้นๆ  106 คน

158771256094

ทั้งนี้ เมื่อเป็นภาค เป็นจังหวัด ก็ยังพบว่าจังหวัดที่มีผู้ฝ่าฝืน ก็ยังคงเป็นจังหวัดที่มีชื่อช้ำๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ ภาคใต้ จ.ภูเก็ต ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สุรินทร์ หรือสลับกับบางจังหวัด แต่รายชื่อก็ซ้ำกัน และภาคกลาง จ.ปทุมธานี ซึ่งอยากจังหวัดที่มีรายชื่อซ้ำๆเหล่านี้ ควรหามาตรการ หรือปรับมาตรการ เพื่อลดจำนวนผู้ฝ่าฝืนให้ได้

ทั้งนี้  สำหรับเที่ยวบินนำคนไทยที่ตกค้างกลับไทย วันนี้ (24 เมษายน) มีคนไทยตกค้างในประเทศญี่ปุ่นและจากแคนาดา 31 คน เวลา 15.30 น. และพระภิกษุ (104 รูป) และแม่ชี ผู้ปฎิบัติธรรม จากประเทศอินเดีย 171 คน เช่าเหมาลำ เวลา 15.10 น. วันที่ 25 เมษายน  มีนักศึกษาไทยค้างจากประเทศอิหร่าน 21 คน เวลา 07.25  และพระภิกษุ (122 รูป) แม่ชี ผู้ปฎิบัติธรรมจากอินเดีย 171 คน เช่าเหมาลำเวลา 15.10 น. ซึ่งทั้งหมดจะต้องเข้ากระบวนการ State Quarantine ในสถานที่ที่รัฐจัดให้ โดยทางมหาเถรสมาคม ได้อนุโลมให้พระภิกษุ ได้พักอาศัยในสถานที่ที่ไม่ใช่วัด เพื่อกักตัว 14 วัน

158771255856

ผู้ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว เป็นกลุ่มเดียวกับอายุกลุ่มเสี่ยง

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่าจากประชากรช่วงอายุกลุ่มเสี่ยง 20-29 ปี ที่มีโอกาสติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมากนั้น เมื่อมาพิจารณาร่วมกับกลุ่มประชากรที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว กลับพบว่าเป็นกลุ่มที่มีอายุในช่วงเดียวกัน คือ กลุ่มวัยรุ่นและวันทำงาน โดยจากการวิเคราะห์ผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำผิดโดยการรวมกลุ่มมั่วสุม ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคได้นั้น 

พบว่า  จำนวนผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดรวมกลุ่ม ชุมนุม มั่วสุม ตั้งแต่วันที่ 3-22 เมษายน รวม 1,972 ราย เป็นเพศชาย 1,352 ราย เพศหญิง 620 ราย  ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีอายุ ไม่เกิน 18 ปี และกลุ่มอายุ 19-30ปี  ซึ่งเป็นกลุ่มวัยรุ่นหรือวัยทำงาน สะท้อนให้เห็นว่าการรวมกลุ่มของคนกลุ่มนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคได้ ก็อยากขอความร่วมมือจากทุกคน เพราะหากกลุ่มนี้ติดเชื้อก็อาจจะนำเชื้อกลับบ้านไปสู่คนในครอบครัวได้เช่นกัน

ถ้าเข้าข่ายนิยามผู้สงสัย ตรวจโควิด-19 ฟรี

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่าในส่วนของผู้ที่ต้องการตรวจเชื้อโควิด-19 ฟรีนั้น ขอให้ดูว่าตัวเองมีอาการอย่างใดอย่างไหนบวกกับอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือบวกกับปัจจัยเสี่ยงตามนิยามผู้สงสัยติดเชื้อ ที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรค คือ อาการและอาการแสดง 1.ประวัติมีไข้ อุณหภูมิกายตั้งแต่ 37.5 องศา  2.มีอาการไอ น้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อย หรือหายใจลำบาก หรือผู้ป่วยโรคปอดอักเสบ ต้องไปตรวจ

158771276376

รวมถึงอาจจะมีปัจจัยเสี่ยง  การมีประวัติในช่วง 14 วัน ก่อนวันเริ่มป่วย อย่างใดอย่างหนึ่ง มีประวัติเดินทางไปยัง หรือมาจาก หรืออยู่อาศัยในพื้นที่เกิดโรคติดเชื้อ ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกันนักท่องเที่ยว สถานที่แออัด หรือติดต่อคนจำนวนมาก ไปในสถานที่ชุมนุม หรือสถานที่ที่มีการรวมกลุ่ม เช่น ตลาดนัด ห้างสรรพสินค้า หรือขนส่งสาธารณะ และสัมผัสกับผู้ป่วยยืนยันโรคโควิด-19

โดยขณะนี้ในการตรวจนั้นมีความพร้อมอย่างมาก มีพื้นที่ให้บริการตรวจกว่า 100 แห่ง มีการผลิตชุดตรวจได้ด้วยบริษัทของคนไทย ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้ กระทรวงสาธารณสุข(สธ.)และทุกส่วน ร่วมมือกันทำเต็มที เพื่อดูแล หากใครสงสัยว่าตนเองติดเชื้อ ขอให้เข้ามาตรวจ