เกษตรฯ จ่อดันพรบ.กองทุนประมง อัดเงินฟื้นอาชีพหลังโควิด-19

เกษตรฯ จ่อดันพรบ.กองทุนประมง อัดเงินฟื้นอาชีพหลังโควิด-19

กระทรวงเกษตร ดัน พ.ร.บ. กองทุนและสภาการประมง หนุน เงินลงทุน หลังโควิด-19 คลี่คลาย เชื่อ ทั่วโลกจะตระหนักเรื่องความมั่นคงด้านอาหาร

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการพิจารณาแก้ไขปรับปรุงหรือดำเนินการทางกฎหมายด้านการประมง ผ่านระบบคอนเฟอเรนว่า ได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติสภาการประมง พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติกองทุนประมงแห่งชาติ พ.ศ.... เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมศักยภาพด้านการประมงและผู้ประกอบการเอกชนด้านการประมง ซึ่งจะสนับสนุนด้านการเงิน แก้ไขปัญหา มีงบประมาณในการชดเชยเยียวยากรณีเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชาวประมงและผู้ประกอบการภาคเอกชนในการขับเคลื่อนนโยบายภาคการประมงของประเทศไทย

ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติกองทุนประมงแห่งชาติ พ.ศ. ..... ประกอบด้วย 6 หมวด 35 มาตรา ขับเคลื่อนโดยกองทุนประมงแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานของรัฐ มีฐานะเป็นนิติบุคคลที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการสนับสนุน ส่งเสริม และพัฒนา ผู้ประกอบกิจการด้านการประมง ให้มีศักยภาพในการทำการประมง รวมทั้งใช้ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ

158755262092

สำหรับร่างพระราชบัญญัติสภาการประมง พ.ศ....ประกอบด้วย 6 หมวด 41 มาตรา และบทเฉพาะกาล 4 มาตรา ขับเคลื่อนโดยสภาการประมงแห่งประเทศไทย ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นตัวแทนของสมาชิกผู้ประกอบกิจการด้านการประมง ในการเสนอความเห็น และสนับสนุนการดำเนินงานด้านนโยบายระหว่างภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวกับกิจการด้านการประมง 

158755265146

รวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนการอนุรักษ์และบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำให้อยู่ในภาวะที่เหมาะสมและสามารถทำการประมงได้อย่างยั่งยืน และดำเนินกิจการอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อภาคการประมง โดยสมาชิกสภาจะมาจากผู้แทนในทุกภาคส่วนด้านการประมง ซึ่งร่าง พ.ร.บ. ทั้งสองฉบับที่ได้ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากคณะกรรมการฯ แล้ว จะนำเสนอคณะรัฐมนตรีก่อนเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรตามระเบียบต่อไป

“สถานการณ์ การแพร่ระบาด COVID-19 ที่ทำให้ทั่วโลกต้องกลับมาตระหนักถึงความมั่นคงทางอาหารเพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหารซึ่งประเทศไทยจะต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อนานาชาติ จึงจำเป็นต้องมีกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชาวประมง ทั้งในด้านการเงิน และการให้ชาวประมงมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนโดยสมบูรณ์”