พบเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่มากที่สุดในรอบ 20 ปีหลังปิดหาดเพราะโควิด

พบเต่ามะเฟืองขึ้นวางไข่มากที่สุดในรอบ 20 ปีหลังปิดหาดเพราะโควิด

หลังชายหาดและสถานที่ธรรมชาติปิดรับนีกท่องเที่ยว นักวิทยาศาตร์พบมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่ตามหาดต่างๆ มากที่สุดในรอบ 20 ปี ในขณะที่บางอ่าว สัตว์ทะเลหายาก รวมทั้งฉลามหูดำฝูงใหญ่โผล่หากิน

โดยหลังจากที่ทั่วโลกมีการรายงานการฟื้นตัวของสภาพธรรมชาติตามที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมูป่าที่ออกมาเดินเพ่นพ่านในเมืองของอิสราเอล หรือกวางที่ออกมาเดินตามท้องถนนในกรุงลอนดอน ตามชายหาดของประเทศไทยที่ร้างนักท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นที่จังหวัดพังงาหรือภูเก็ต เพราะการระบาดของโรคโควิด-19 นักวิทยาศาสตร์พบว่า มีเต่ามะเฟืองขึ้นมาทำรังและวางไข่ถึง 11 รังนับตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในรอบ 20ปี โดยรังของเต่ามะเฟืองไม่เคยถูกพบมากว่าห้าปีแล้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (ภูเก็ต) นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์กล่าวกับเดอะการ์เดี้ยน


“มันเป็นสัญญาณที่ดีมากสำหรับเราเพราะที่วางไข่หลายแห่งคือที่ที่เคยถูกคนรบกวนและทำให้เสียหาย
“ถ้าเราเทียบกับห้าปีก่อน เราจะไม่เห็นการขึ้นมาวางไข่ของแม่เต่ามากขนาดนี้ เพราะมีโอกาสสูงมากที่แม่เต่าจะได้รับบาดเจ็บจากเครื่องมือประมงหรือถูกรบกวนโดยนักท่องเที่ยว” ผอ.ก้องเกียรติกล่าว


เต่ามะเฟืองนับเป็นเต่าทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มันเป็นสัตว์สงวนของไทย และอยู่ในบัญชีสัตว์ที่ถูกคุกคามโดย IUCN หรือ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ


กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รายงานว่า การบูรณาการของหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่ประกอบด้วย กรม ทช. ฐานทัพเรือพังงา อุทยานฯ อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน บ.TOT และพี่น้องประชาชน ที่ร่วมปฏิบัติงานภายใต้ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์เต่ามะเฟือง จ.พังงา และ จ.ภูเก็ต รวม 7 แห่ง ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา มีส่วน ทำให้สามารถเฝ้าระวัง ดูแล และอนุบาลลูกเต่ามะเฟือง โดยมีลูกเต่ามะเฟืองฟักเป็นตัวและปล่อยคืนลงสู่ทะเลอันดามันได้รวม 351 ตัว จาก 11 รัง นับเป็นผลสำเร็จอย่างมากที่สุดในรอบ 20 ปี โดยสถิติเดิมที่เต่ามะเฟืองเคยขึ้นมาวางไข่มากสุดในปี 2542 อยู่ที่ 9 รัง

ที่เกาะห้อง ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี จังหวัดกระบี่ มีจุดเด่นคือชายหาดด้านหน้าเกาะที่โค้งเกือบจะเป็นครึ่งวงกลม ร่มรื่นด้วยแนวป่าชายหาดด้านหลังฉลามหูดำกว่า 50 ตัวได้ว่ายเข้ามาหากินที่น้ำตื้นชายหาดในอาทิตย์นี้ หลังปิดอุทยานฯ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19

โดยนายจำเป็น ผอมภักดี หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ธบ.1เกาะห้องรายงานว่า พบฉลามตลอดแนวชายหาดประมาณ 30 ตัว และมีที่อยู่รวมกันเป็นฝูงอีกประมาณ 20 ตัว

การปิดสถานที่ท่องเที่ยวตามธนรมชาติหลายแห่งทั่วโลก ทำให้ธรรมชาติมีโอกาสพีกหื้นตัว และมีรายงายการพบสัตว์ป่าออกมาหากินและใช้ชีวิตในพื้นที่มากขึ้น รวมทั้งสัตว์หายากอย่างเต่ามะเฟือง