นายกฯ ย้ำ 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ยังจำเป็น มอบส่วนราชการศึกษาปลดล็อกเปิดสถานที่

นายกฯ ย้ำ 'พ.ร.ก.ฉุกเฉิน' ยังจำเป็น มอบส่วนราชการศึกษาปลดล็อกเปิดสถานที่

โฆษก ศบค. เผย นายกฯ ย้ำ พ.ร.ก.ฉุกเฉินยังจำเป็น มอบส่วนราชการ-ผู้ประกอบการ ศึกษาปลดล็อกเปิดสถานที่ หามาตรการให้อาชีพครอบคลุม

เมื่อวันที่ 20 เม.ย. 63 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมศบค. โดยมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ ศบค. เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมมีหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ร่วมประชุม โดยในการประชุมนายกรัฐมนตรีชื่นชมประชาชนที่มีช่วยกันทำให้ตัวเลขด้านการติดเชื้อลดลงเหลือ 2 หลัก ชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกระดับ อยากให้ดูแลเบี้ยเลี้ยงค่าใช้จ่าย ให้หัวหน้าส่วนราชการดูแลอย่างดี และเชื่อมั่นว่าหัวหน้าส่วนราชการมีวิจารณญาณในการร่วมแก้ปัญหา และขอให้กำลังใจในการดูแล

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวว่า ในเรื่องของการคงอยู่พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ยังมีความจำเป็นในสถานการณ์นี้ ซึ่งรัฐบาลจะหารือในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระถัดไป ในส่วนของการมีมาตรการผ่อนคลายต้องมีมาตรการออกมาก่อน จึงมอบให้ส่วนราชการและผู้ประกอบการต่างๆ ไปปรึกษาหารือและเสนอขึ้นมาว่าจะมีมาตรการอย่างไร ให้อาชีพครอบคลุม โดยมีการยกตัวอย่างเช่น สนามกีฬา ตลาดสด ว่าต้องมีการจัดระเบียบอย่างไร พื้นที่ไหนปลอดภัย พื้นที่ไหนไม่ปลอดภัย เช่นจังหวัดไหนไม่มีการติดเชื้อเลยก็อาจจะผ่อนคลาย รวมทั้งไปศึกษาบทเรียนจากต่างประเทศที่ผ่อนคลายว่ามีมาตรการอย่างไร และต้องนำบทเรียนมา และต้องมีสมดุลระหว่างการติดเชื้อกับเศรษฐกิจให้เดินด้วยกันอย่างปลอดภัย โดยกรณีของทางเศรษฐกิจต้องใช้บิ๊กดาต้าให้เกิดขึ้นจริงจากส่วนราชการที่มีข้อมูล ต้องบูรณาการข้อมูลให้เป็นชุดเดียวกันเพื่อแก้ไขได้สำเร็จ

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้คาดการณ์การติดเชื้อในปัจจุบัน อยู่ในอัตรา 1 : 1.2 คน ฉะนั้นอัตาการเกิดเชื้อต่ำ คาดการณ์ว่าประมาณเดือนมิ.ย.ก็จะมีคนติดเชื้อตามระบาดวิทยาประมาณ 200 คนต่อสัปดาห์ และเหลือประมาณ 22 คน ในเดือนมิ.ย. แต่ถ้าเพิ่มขึ้นไป คือ 1 คนนั้น คุมไม่ดี อาจจะเพิ่มเป็น 1:1.8 คน ซึ่งตัวเลขาต่างกันเพียงทศนิยม แต่ตัวเลขคนละเรื่อง เพราะคาดว่าสัปดาห์หน้าจะมีคนติดเชื้อมากกว่า 300 คน และเดือนมิ.ย. จะเพิ่มผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็น 2,419 ราย ซึ่งเป็นการฉายภาพเพื่อให้ศบค.วางแผนเรื่องวัสดุอุปกรณ์การแพทย์ แต่ไม่อยากเห็นแบบนั้น