จับนักเคลื่อนไหว ตัดตอนประชาธิปไตยฮ่องกง

จับนักเคลื่อนไหว ตัดตอนประชาธิปไตยฮ่องกง

ตำรวจฮ่องกงลุยจับนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 15 คน ในข้อหาจัดชุมนุมหรือร่วมชุมนุมต่อต้านรัฐบาลเมื่อปีที่ผ่านมา เรียกเสียงวิจารณ์จากหลายองค์กร

เมื่อวันเสาร์ (17 เม.ย.) ตำรวจฮ่องกงปฏิบัติการปราบปรามขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่สุด นับตั้งแต่ชาวฮ่องกงประท้วงใหญ่ในปี 2562 ด้วยการจับกุมนักเคลื่อนไหว 15 คน เช่น มาร์ติน ลี ทนายความและผู้ก่อตั้งพรรคประชาธิปไตย วัย 81 ปี จิมมี ไหล่ มหาเศรษฐีวงการสิ่งพิมพ์ วัย 71 ปี  ผู้ก่อตั้งหนังสือพิมพ์แอ๊ปเปิ้ลเดลี ถูกจับถึงในบ้าน และมาร์กาเร็ต อึ้ง อดีต ส.ส.และทนายความวัย 72 ปี

ตำรวจเผยว่า ผู้ถูกจับกุมมีอายุระหว่าง 24-81 ปี ในข้อหาจัดหรือร่วมการชุมนุมอย่างผิดกฎหมายในวันที่ 18 ส.ค., 1 ต.ค. และ 20 ต.ค. 2562 บางคนได้ประกันตัวไปเมื่อกลางดึกวันเสาร์ ทั้งหมดมีกำหนดไปขึ้นศาลในวันที่ 18 พ.ค. และอาจมีการจับกุมเพิ่มเติมอีก

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาการชุมนุมใหญ่ทั่วฮ่องกงบานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรงบ่อยครั้ง แต่แน่นอนว่าการจับกุมนักเคลืื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยย่อมเรียกเสียงประณามจากหลายองค์กรและรัฐบาล

สมาคมนักกฎหมายระหว่างประเทศแถลงว่า ทางการไม่ควรละเมิดสิทธิมนุษยชน ระบบกฎหมายจะต้องป้องกันไม่ให้เกิดการใช้อำนาจโดยมิชอบ ในช่วงที่โลกกำลังจดจ่ออยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา (โรคโควิด-19)

สมาคมประณามการจับกุมลีและอึ้ง นักสิทธิมนุษยชนและรณรงค์เรื่องหลักนิติธรรมอย่างแข็งขันตลอดเวลาที่ประกอบอาชีพทนายความ แถลงการณ์ย้ำว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ความยุติธรรมในฮ่องกงจะต้องถูกนำไปใช้อย่างโปร่งใส โดยเฉพาะในช่วงที่โลกกำลังสาละวนอยู่กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

“ทางการจะต้องไม่ใช่อำนาจไปละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ระบบกฎหมายจะต้องเดินหน้าคุุ้มครองพลเมืองให้พ้นจากการใช้อำนาจโดยมิชอบ ที่อาจถูกมองข้ามไปในช่วงวิกฤติโควิด-19 เมื่อประชาคมโลกกำลังเผชิญโรคระบาดอย่างหนักหน่วง”

158730867183

สำหรับรัฐบาลวอชิงตัน ไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ระบุ “สหรัฐประณามการจับกุมผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกง รัฐบาลปักกิ่งและตัวแทนในฮ่องกงเดินหน้าดำเนินการขัดแย้งกับคำมั่นที่เคยให้ไว้ตามข้อตกลงร่วมระหว่างจีนกับอังกฤษ ที่ต้องมีความโปร่งใส ยึดหลักนิติธรรม และการรับรองว่าฮ่องกงจะมีความเป็นอิสระในระดับสูงต่อไป”

ในอังกฤษ ตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศรายหนึ่งเผยว่า รัฐบาลลอนดอนคาดหวังว่า การจับกุมและกระบวนการในชั้นศาลจะดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม

ส่วนกระทรวงต่างประเทศอังกฤษออกแถลงการณ์ย้ำว่า สิทธิในการประท้วงอย่างสงบ เป็นพื้นฐานวิถีชีวิตของฮ่องกง และทางการควรหลีกเลี่ยงการกระทำที่เติมเชื้อความตึงเครียด แต่ควรหันไปมุ่งเน้นที่กระบวนการพูดคุยกันทางการเมือง เพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจให้กลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับลีที่รู้จักกันในนามบิดาประชาธิปไตยฮ่องกง ในฐานะประธานผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองพรรคแรกของเกาะเปิดใจกับสื่อหลังได้ประกันตัว

“ในที่สุด ผมก็กลายเป็นจำเลย ผมรู้สึกยังไงน่ะเหรอ โล่งอกมากๆ เลย หลายปีหลายเดือน ที่หนุ่มสาวดีๆ หลายคนถูกจับกุม ถูกดำเนินคดี แต่ผมไม่ถูกจับ ผมเสียใจมาก”

ลีกล่าวพร้อมย้ำว่าเขาไม่เคยเสียใจกับสิ่งที่ได้ทำลงไป แถมภูมิใจเสียด้วยซ้ำที่ได้ร่วมทางกับคนหนุ่มสาวในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย

ขณะที่คริส ตัง ผู้บัญชาการตำรวจฮ่องกงกล่าวว่า การให้ประกันตัวลีเป็นเรื่องน่ากังวลและเหนือความคาดหมายมาก

“ในฐานะนักกฎหมายมืออาชีพ เขาเดินหน้ายุยงปลุกปั่นคนหนุ่มสาวให้ละเมิดกฎหมาย ผมไม่คิดว่าเขาควรภาคภูมิใจ ควรจะละอายเสียด้วยซ้ำ” ผบ.ตร.สวน

โซฟี ริชาร์ดสัน ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์สวอทช์ ประจำประเทศจีน กล่าวว่า การจับกุมนักเคลื่อนไหวในฮ่องกงรอบนี้ เป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงให้กับ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” อีกครั้งหนึ่ง

ด้านรัฐบาลฮ่องกงปกป้องการกระทำของสำนักงานความมั่นคงว่าทำไปตามกรอบของกฎหมาย

“ในฮ่องกง ทุกคนเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย ไม่มีใครมีสิทธิพิเศษ” โฆษกสำนักงานยืนยัน

เมื่อวันอังคาร (14 เม.ย.) สำนักข่าวรอยเตอร์เผยแพร่รายงานพิเศษ ผู้พิพากษาศาลฎีกาฮ่องกง 3 คน เผยว่า ความเป็นอิสระของระบบยุติธรรมฮ่องกงกำลังถูกผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในปักกิ่งทำลาย ระบบยุติธรรมกำลังต่อสู้เพื่อความอยู่รอด