เตือนแรง! สั่งย้าย 'ผู้ว่าฯ' เซ่นสกัด 'โควิด-19' ล้มเหลว

เตือนแรง! สั่งย้าย 'ผู้ว่าฯ' เซ่นสกัด 'โควิด-19' ล้มเหลว

นายกฯ ให้อำนาจสั่งปิดพรมแดน มท.สั่งทุกจว.คุมเข้ม เตือนแรง! สั่งย้ายผู้ว่าฯ เซ่นสกัด โควิด-19 ล้มเหลว

หลังจากที่หลายจังหวัดมีการดำเนินมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งก่อนหน้านี้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ระบุว่าให้อำนาจเด็ดขาดกับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัดแต่ละจังหวัดดำเนินการตามความเหมาะสมภายใต้พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)โรคติดต่อ

วานนี้(19มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายพร้อมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์ที่กระทรวงสาธารณสุขว่า ใน 14 วันนี้ตนอยากขอร้องไปยังข้าราชการระดับพื้นที่ โดยเฉพาะผู้ว่าฯ คณะกรรมการโรคติดต่อประจำจังหวัด ประจำพื้นที่ต้องทำงานอย่างเด็ดขาด และต้องรายงานผลการปฏิบัติทุกมาตรการที่รัฐบาลออกไปแล้วให้ตนทราบทุกวัน ผ่านช่องทางของกระทรวงมหาดไทย เข้ามาที่ศูนย์ฯโควิด-19 ตนติดตามทุกวัน ตั้งแต่สนามบินต้นทาง สนามบินในประเทศมาสู่ในเรื่องของการคัดกรอง คัดแยก โดยผู้ที่จะเข้ามาต้องมีใบรับรองแพทย์ 

ส่วนที่ประเทศเพื่อนบ้านประเทศไทยเริ่มประกาศปิดพรมแดนเรื่องนี้เป็นเรื่องของผู้ว่าฯแต่ละจังหวัดจะปิดช่องทางพรมแดนหรือไม่อยู่ที่อำนาจผู้ว่าฯ เพราะได้ให้อำนาจไปแล้ว และให้รายงานตนมา

“หากผู้ว่าฯทำไม่ได้ก็ย้ายผู้ว่าฯจะยากตรงไหน” นายกฯกล่าว

ด้านนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงผวจ.นนทบุรี ,นครปฐม ,ปทุมธานี ,สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ระบุว่า เพื่อให้เป็นไปตามมติครม. และการแถลงมาตรการของนายกรัฐมนตรี จึงให้ผู้ว่าฯโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดตามพ.ร.บ.โรคติดต่อ พิจารณาสั่งปิดสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายกับสถานบริการ เป็นเวลา 14วัน ตั้งแต่วันที่18-31 มี.ค. หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายให้พิจารณาขยายระยะเวลาออกไปได้อีก 

ขณะเดียวกัน ปลัดกระทรวงมหาดไทยส่งหนังสือถึงผวจ.ทุกจังหวัด ยกเว้น จังหวัดนนทบุรี, นครปฐม ,ปทุมธานี ,สมุทรปราการ และสมุทรสาคร ระบุว่าให้ดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายให้ผวจ.พิจารณาสั่งปิดสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายกับสถานบริการต่อไป

รัฐวอนปชช.งดออกจากบ้าน

ขณะที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กล่าวว่าในส่วนของมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19ขอความร่วมมือประชาชนงดเคลื่อนย้าย หรือออกจากบ้านถ้าไม่จำเป็น แม้ประเทศไทยยังไม่มีประกาศเคอร์ฟิวก็ตาม โดยคาดการณ์ผู้ติดเชื้อช่วงนี้จะเพิ่มขึ้น แต่หากทุกคนร่วมมือร่วมใจกันจำนวนก็จะค่อยๆ ลดลง แต่กว่าจะสิ้นสุดโรคนี้ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี จึงต้องร่วมมือกัน อย่าโทษกันไปโทษกันมาว่าเป็นความผิดใคร เรามาถูกทางแล้ว ในหัวใจนายกฯ เช้า-เย็นมีแต่ประชาชน อย่างไรก็ตาม หาก สธ.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีเรื่องที่ต้องตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของประชาชน ให้รายงานนายกฯ ซึ่งท่านจะตัดสินใจทันที

ดรีมเวิลด์ปิดบริการ18 -31 มี.ค.

ขณะที่บรรยากาศในจังหวัดต่างๆหลังครม. มีมติเห็นชอบให้ปิดสถานศึกษาทุกประเภท และสถานบริการทุกประเภท ทั้งในเขตกทม.และปริมณฑลหยุดทำการเป็นเวลา 14 วัน เริ่มตั้งแต่ 18 -31 มี.ค.

เช่นที่จ.ปทุมธานี ล่าสุดสวนสนุกดรีมเวิลด์ ได้ประกาศผ่านเพจเฟซบุ๊ค “ดรีมเวิลด์-clubdreamworldคนรักสวนสนุก” ปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.-3เม.ย. โดยระบุว่า จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมากในขณะนี้ สวนสนุกดรีมเวิลด์ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และเฝ้าติดตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมา ได้มีมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันขั้นสูงสุด เพื่อความปลอดภัยของพนักงานและลูกค้าของเรา 

อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศไทยที่เพิ่มสูงขึ้นประกอบกับแนวทางของภาครัฐ ทำให้สวนสนุกดรีมเวิลด์ ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคม และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดของ โควิด -19 เพื่อให้ประเทศไทยของเราผ่านช่วงเวลานี้ได้โดยเร็ว ดังนั้นสวนสนุกขออภัยที่ต้องหยุดให้บริการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 19 มี.ย.– 3 เม.ย. 2563

ด้านนายธวัช แย้มเกษม ผอ.สายปฏิบัติการสวนสนุกดรีมเวิลด์ กล่าวว่า ทางดรีมเวิลด์นั้นถือว่าเป็นสวนสนุกที่มีกลุ่มคนมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ทางเรายังไม่ใช่พื้นที่เสี่ยง โดยในการปิดครั้งนี้ ทางดรีมเวิลด์ก็จะจัดการทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องเล่น และเสียโอกาสปรับปรุงทัศนียภาพภายในสนุกๆในตัวส่วนมาตรการก่อนหน้านี้ ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทางสวนสนุกดรีมเวิลด์ได้จัดให้มีการทำความสะอาดเครื่อง เครื่องเล่นและพื้นที่ที่มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมากทุกๆครึ่งชั่วโมง ส่วนหลังจากที่มีการปิดถนนแล้วนั้นก็ยังคงให้พนักงานมาทำงานตามปกติ เพื่อไม่ให้กระทบ ต่อการดำรงชีวิตของพนักงาน

ผู้ว่าฯนนทบุรีสั่งคุมเข้มสกัดโควิด

เช่นเดียวกับนายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าฯนนทบุรี ได้ลงนามคำสั่งปิดสถานที่เป็นการชั่วคราว เป็นเวลา 14 วันแบ่งเป็น 1.ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 18-31 มี.ค.ดังนี้  1.สถาบันอุดมศึกษา (รัฐ เอกชน) 2.โรงเรียน (รัฐ - เอกชน - นานาชาติ) 3.สถานกวดวิชา 4.สถานประกอบกิจการโรงมหรสพ โรงภาพยนตร์ โรงละคร โรงมหรสพ 5.สถานบริการและสถานประกอบการที่คล้ายสถานบริการ 6.สถานประกอบกิจการอาบ อบ นวด เว้นแต่การให้บริการดังกล่าวในสถานพยาบาล ตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล 7.สถานประกอบกิจการอาบน้ำอบไอน้ำ อบสมุนไพร เว้นแต่การให้บริการดังกล่าว ในสถานพยาบาลตามกฎหมายว่าด้วยสถานพยาบาล

8.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ 9.สถานประกอบกิจการสถานที่ออกกำลังกาย รวมถึง สถานที่ออกกำลังกาย (Fitness) ภายในอาคารชุดที่พักอาศัย (คอนโดมิเนียม)10.สระว่ายน้ำ (รวมถึง สระว่ายน้ำของหมู่บ้าน หรือ อาคารชุดที่พักอาศัย) 11.สนามพระ อำเภอบางใหญ่ 12.ร้านเกมส์ ร้านอินเทอร์เน็ต 13. ร้านคาราโอเกะ 14.เครื่องเล่นในอาคาร เครื่องเล่นชั่วคราว

และ2.ให้ปิดสถานที่ในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี เป็นการชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายได้แก่ สนามมวย,สนามกีฬา,สนามชนไก่ และสนามประลองไก่หรือสถานที่ซ้อมประลองไก่

ทั้งนี้ผู้ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกิน หนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ตามมาตรา 52 แห่งพ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558

เมียนมาสั่งปิดพรมแดนเกาะสอง

นายจตุพจน์ ปิยัมปุตระ ผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง เปิดเผยว่า หลังจากที่ประเทศมาเลเซียได้ทำการปิดประเทศ จึงทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่วีซ่าจะหมดอายุจะต้องมาต่อวีซ่าใหม่ จึงได้เดินทางมาต่อวีซ่าจังหวัดระนองที่ด่านพรมแดนไทย-เมียนมา (เกาะสอง) ซึ่งต่อมาได้รับแจ้งจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ห้ามไม่ให้ชาวต่างชาติที่ถือพาสปอร์ตเล่มสีน้ำตาลข้ามไปที่จังหวัดเกาะสอง สำหรับคนไทย และชาวเมียนมายังสามารถเดินทางไปได้ตามปกติ โดยอนุญาตให้ผู้ที่ถือเอกสารเล่มเขียวที่กรมการปกครองออกให้และบอร์เดอร์พาส

สำหรับต่างชาติที่ขออยู่ต่อและเดินทางมายังจังหวัดระนอง เพื่อต่อวีซ่าได้ประสานไปยังจังหวัดเกาะสอง สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เพื่อขออนุโลมในกรณีเพที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงจังหวัดระนองแล้วอย่างไรก็ตามในวันนี้(20มี.ค.)จะไม่มีการไปต่อวีซ่าที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาอีก

สปป.ลาวปิดจุดผ่อนปรน-ทุกด่าน

ที่จ.เลยนายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ฝ่ายสปป.ลาวก็ได้ทำการปิดจุดผ่อนปรนและด่านต่างๆ แล้ว รวมทั้งการเดินทางเข้า-ออก ราชอาณาจักรทุกชนิด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในส่วนของจ.เลยที่ประชุมฯมีมติให้ปิดจุดผ่อนปรนบ้านนากระเซ็ง ต.อาฮี อ.ท่าลี่,จุดผ่อนปรนบ้านเหมืองแพร่ ต.นาแห้วและจุดผ่อนปรนบ้านนาข่า ต.ปากหมัน อ.ด่านซ้าย เพราะไม่มีระบบการบริหารจัดการตามหลักกระทรวงสาธารณสุขและไม่มีบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งปิดด่านผ่านแดนคกไผ่ ต.ปากชม อ.ปากชมและด่านผ่านแดนเชียงคาน ต.เชียงคาน อ.เชียงคาน อีกด้วย คงเหลือไว้คือด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าลี่บ้านนากระเซ็ง อ.ท่าลี่หรือสะพานมิตรภาพน้ำเหืองไทย-ลาว เท่านั้น เพื่อลดการเดินทางของประชาชน