'สาธิต' ชี้ 'จิตสำนึก - ความร่วมมือ' คุมโควิด-19

'สาธิต' ชี้ 'จิตสำนึก - ความร่วมมือ' คุมโควิด-19

“สาธิต” ระบุ ยังไม่ทราบโควิด-19 ระบาดใส่ “แมทธิว ดีน - แฟนมวยราชดำเนิน” แต่มั่นใจ กรมควบคุมโรค มีมาตรการสืบประวัติ เพื่อเข้าควบคุมการแพร่กระจายเชื้อ ชี้ ความร่วมมือ - จิตสำนึก ของบุคคล เข้าใจความเสี่ยง รู้จักกักกันตนเอง

วันนี้ (13 มีนาคม 2563) ภายหลังที่นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานรณรงค์สื่อสารความรอบรู้ด้านสุขภาพเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่โรงแรมแกรนด์เซนเตอร์พ้อย ซอยทองหล่อ 10 ถนนทองหล่อ แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงกรณีที่แมทธิว ดีน ออกมาโพสต์เปิดเผยว่าตัวเองติดเชื้อไวรัสโควิด 19 นั้น

นายสาธิต กล่าวว่า ยังไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้ เนื่องจากการรายงานผลในแต่ละวัน จะรายงานเพียงเพศ และอายุ ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งในกฎหมายจะไม่สามารถเปิดเผยชื่อผู้ป่วยได้ ถ้าตัวแมทธิว ดีน ออกมาพูดเอง แสดงว่า เขายอมเปิดเผยชื่อด้วยตัวเอง

ส่วนกรณีที่มีประชาชนไปดูมวยที่เวทีราชดำเนินแล้วบอกว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด 19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนั้น ทางนายสาธิต กล่าวว่า ผมมีความเชื่อมั่นว่าทุกข้อมูลที่มีผู้ป่วยติดเชื้อ จะต้องบอกเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรคทั้งหมด ทางกรมควบคุมโรคจะต้องสืบย้อนหลังว่าผู้ป่วยรายนั้นๆ ไปที่ไหนอย่างไรบ้าง จะตีวง หรือดำเนินการอย่างไร จะใช้หลักว่ามีจำนวนเท่าไหร่ ก็จะต้องไปกักตัวที่บ้าน และคนนั้นจะต้องให้ความร่วมมือที่จะบอกอาการในทุกวันว่าเป็นไข้หรือไม่

ส่วนผู้ที่ไม่ยินยอมกักตัวเองอยู่ในบ้านจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้น นายสาธิต เปิดเผยว่า มี 2 เรื่องคือ สำนึกของคนที่น่าจะรู้ตัวเองว่ามีความเสี่ยง ซึ่งไม่ได้มาจาก 4 ประเทศที่เราประกาศเป็นเขตติดต่อ ถ้าเขาไม่มีสำนึก หากพบและมีข้อมูล ผมก็จะไปพบและไปรณรงค์กับเขาว่าควรจะมีสำนึกต่อสังคม ตัวเอง และคนในครอบครัว ส่วนคนที่มาจาก 4 ประเทศแล้วไม่กักตัว เขาจะมีความผิดตามกฎหมาย ต้องลงโทษ

นายสาธิต กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา กรมควบคุมโรคมีการตรวจสอบย้อนหลังว่าผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง จะไปสัมผัสกับใครเท่าไหร่ อย่างไร โดยจะต้องตรวจสอบจากข้อมูลจากผู้ติดเชื้อ หรือผู้ที่อยู่ใกล้เคียง และจะทำการตรวจสอบย้อนหลังกลับไปในทุกส่วน ที่ผ่านมาได้ไปตรวจสอบและจัดการได้ครบ เหลือในเคสนี้จะต้องไปติดตาม ยกตัวอย่างที่จ.ระยอง มีผู้ติดเชื้อ 1 ราย ไปนั่งอบรมในห้องสัมมนามีผู้ร่วมสัมมนา 40 คน โดย 40 คนนั้น จะต้องถูกติดตามและไปกักตัวอยู่ที่บ้าน และตรวจไข้ทุกวัน ให้ครบ 14 วัน