ตำรวจค้นหนองแขม สงสัยกักตุนหน้ากากอนามัย

เจ้าของอาคารตึกถูกสงสัยกักตุนหน้ากากอนามัย แจงไม่ได้กักตุน เป็นแค่ตัวกลางหาสินค้าส่งช่วยเหลือชาวจีน ยันไม่รู้จัก รมช.แต่อย่างใด ส่วนบอย เพิ่งรู้จักพูดคุย เพียง1เดือน ให้ช่วยหาหน้ากากอนามัยในท้องตลาด

จากกรณีความคืบหน้ากรณีการกักตุนหน้ากากอนามัยที่ประชาชนให้ความสนใจกรณีที่ นายศรสุวีร์ ภูรวีรัศวัชรี ได้โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กว่ามีหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมาก พร้อมจำหน่าย ทางตำรวจศูนย์สืบสวนนครบาลได้เข้าทำการตรวจค้นอาคารที่สงสัยว่าเป็นอาคารที่เก็บหน้ากากอนามัยจำนวนมาก จากคลิปที่เผยแพร่อยู่ในขณะนี้ โดยในเวลาประมาณ 17.00 น. ตำรวจศูนย์สืบสวนนครบาล ร่วมกับกรมการค้าภายใน เข้าตรวจค้นอาคารแห่งหนึ่งย่านหนองแขม บรรยายตอนแรกไม่มีผู้เจรจาตำรวจถึงนำบันไดปีนเข้าอาคาร แต่ต่อมามีพนักงานออกมาเปิดประตูให้เฉพาะตำรวจเข้าไปข้างในอาคาร โดยให้สื่อมวลชนรออยู่ข้างนอก

ต่อมาเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 9 มีนาคม นายพันธ์ยศ อัครอมพงศ์ เจ้าของอาคารดังกล่าว เปิดเผยว่า อาคารดังกล่าวเป็นของตนเอง ซึ่งแต่ก่อนเคยเปิดเป็นบริษัทไทยเฮล์ท จำกัด ที่เป็นธุรกิจอาหารเสริมความงามเพื่อสุขภาพ แต่ขณะนี้ได้ปิดกิจการไปแล้ว ส่วนประเด็นที่ปรากฏเป็นคลิปบนโลกโซเซียลนั้น ตนเองขอยอมรับว่าเป็นบริษัทของตนเองจริงและยอมรับว่ารู้จักกับ นายศรสุวีร์ หรือ บอย ภูรวีรัศวัชรี จริง โดยรู้จักกันมาได้ประมาณ 1 เดือน ซึ่งมีผู้ใหญ่ในกลุ่มนักธุรกิจแนะนำให้รู้จัก หลังจากนั้นนายศรสุวีร์ก็ได้ประสานขอให้ตนเองหาหน้ากากอนามัยในท้องตลาด เพื่อจะนำมาบริจาคในจำนวน 1 ล้านชิ้น แต่แค่อยู่ระหว่างคุยรายละเอียด ซึ่งต้องชี้แจงก่อนว่า สาเหตุที่นายศรสุวีร์ประสานให้หาหน้ากากอนามัยที่ตนเองนั้น เพราะตนเองได้ทำธุรกิจกับชาวจีนเป็นส่วนใหญ่ และเมื่อช่วงโรคระบาดโควิด-19 เริ่มต้นระบาดที่ประเทศจีนนั้น ตนเองก็ได้ประสานขอความช่วยเหลือจากทางการจีนในส่วนของฆณทลต่างๆ เพื่อให้เป็นธุระจัดหาหน้ากากอนามัยในประเทศไทยเพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนที่ประเทศจีน โดยตนเองขอยืนยันว่าเป็นแค่ตัวกลางในการติดต่อหาหน้ากากอนามัยให้หน่วยงานภาครัฐของประเทศจีน เพื่อนำไปช่วยเหลือคนประเทศของเขา โดยตนเองไม่ได้เป็นพ่อค้าคนกลางหรือบุคคลที่กักตุนสินค้าอย่างที่สังคมกำลังเข้าใจ การจัดหาแต่ละครั้งตนเองได้แค่ค่าดำเนินการ และก็แล้วแต่หน่วยงานภาครัฐของจีนดำเนินการให้ ส่วนการนำออกนอกประเทศนั้นเป็นหน้าที่ของหน่วยงานของจีนที่ประสานขอความช่วยเหลือตนเองมา ตนเองไม่ทราบจริงๆว่าเขานำออกไปอย่างไร

นายพันธ์ยศ เปิดเผยอีกว่า ส่วนประเด็นของ นายศรสุวีร์ นั้น ตนเองแค่พูดคุยเท่านั้น เพราะเห็นว่าคุณบอย จะนำหน้ากากอนามัยไปบริจาค ตนเองจึงรับเป็นธุระในการหาของในตลาดออนไลน์ให้เท่านั้น แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการก็มาเกิดเป็นประเด็นเสียก่อน ส่วนที่บอกว่าตนเองรู้จักหรือมีความเกี่ยวกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นั้น ตนเองขอปฎิเสธว่าไม่เป็นความจริง ส่วนประเด็นสุดท้ายที่มีภาพในโซเซียลปรากฏมีกล่องสินค้าหน้าอนามัยจำนวนอยู่ในออฟฟิตตนเองนั้น ขอยอมรับว่ามีจริงแต่ไม่ได้เป็นการกักตุนแต่อย่างใด ตนเองมีการสั่งหน้ากากอนามัยจำนวนมาก เพื่อช่วยเหลือหน่วยงานภาครัฐของประเทศจีนที่เข้ามาของความช่วยเหลือ มันก็ไม่แปลกที่จะมีของอยู่ในออฟฟิตของตนเอง แต่พอสินค้ามาได้ไม่ถึงวัน หน่วยงานของจีนก็จะมารับไป ดังนั้นตนเองขอยืนยันว่าไม่มีการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด