เอกชนรวมใจ ช่วยไทย พ้นวิกฤติ ‘COVID-19’

เอกชนรวมใจ ช่วยไทย พ้นวิกฤติ ‘COVID-19’

เปิดความช่วยเหลือของเอกชนไทยที่ช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน ในภาวะวิกฤติไวรัสโคโรน่า (COVID-19) ที่ระบาดอย่างหนักทั่วโลก และกระทบต่อทุกภาคส่วนไทย

เป็นเวลา 2 เดือนกว่าๆ ที่เชื้อไวรัสโคโรน่า หรือโรคโควิด-19 แพร่กระจายไปทั่วโลก โดยจากข้อมูลเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2562 พบผู้ติดเชื้อไวรัสนี้กว่า 81 ประเทศทั่วโลกแล้ว แน่นอนว่าพบมากที่สุด คือ ประเทศจีน ซึ่งเป็นต้นตอหรือประเทศแรกที่พบผู้ติดเชื้อ โดยปัจจุบันพบราวๆ 80,282 คน เสียชีวิต 2,981 คน และรักษาหายไปแล้ว 49,973 คน

สำหรับประเทศไทย แม้จะมีได้รับการยกย่องว่ามีมาตรการป้องกันที่ดีเป็นอันดับต้นๆ ของโลก แต่ขณะนี้เราก็พบผู้ติดเชื้อไม่น้อยเลย ทั้งหมด 47 คน เสียชีวิต 1 คน และรักษาหายแล้ว 30 คน สิ่งสำคัญคงต้องยกให้กับการแพทย์ไทย ในการรักษาอย่างเต็มที่ และคิดค้นสูตรยาที่ช่วยรักษา ขณะเดียวกันหลายหน่วยงานก็ออกมาร่วมแรงร่วมใจ เพื่อให้พ้นภาวะวิกฤตินี้ ที่ไม่รู้ว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อไร

อย่างล่าสุด เจ้าสัวธนินท์ หรือธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโส บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ได้ประกาศทุ่มเงินกว่า 100 ล้านบาท สร้างโรงงานผลิตหน้ากากอนามัย มีกำลังการผลิตราว 3 บ้านชิ้นต่อเดือน เพื่อแจกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล และประชาชนทั่วไปที่ขาดโอกาสในการเข้าถึง โดยจะแจกหน้ากากอนามัยให้ฟรีๆ ทั้งนี้จะใช้เครือข่ายการลงทุนที่มีอยู่ทั่วโลก จัดหาเครื่องจักรและวัตถุดิบ โดยคาดการณ์ว่าโรงงานแห่งนี้จะสร้างเสร็จภายใน 5 สัปดาห์

นอกจากนี้กลุ่มซีพียังมีโครงการ "CPF ส่งอาหารจากใจร่วมต้านภัย COVID-19” โดยการสนับสนุนอาหารสำหรับผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคเฝ้าระวัง รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ โดยผู้ต้องสงสัยว่าเป็นโรคโควิด-19 สามารถแจ้งความประสงค์ขอรับการสนับสนุนอาหารผ่านทาง CPFRESHMART หลังจากนั้นบริษัทจะนำรายชื่อไปตรวจสอบกับกรมควบคุมโรค สำหรับผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันผ่าน SMS จะมีทีมซีพีเฟรชมาร์ทเดลิเวอรี่ส่งอาหารจากจุดกระจายสินค้า 109 สาขาทั่วประเทศ ถึงบ้านผู้ป่วย 

และก่อนหน้านี้ CP เองที่มีธุรกิจในประเทศจีน ก็ได้บริจาคเงินราวๆ 222 ล้านบาท รวมถึงผลิตน้ำยาฆ่าเชื้ออีกกว่า 33 ตัน  เพื่อสนับสนุนการป้องกันไวรัสโคโรน่าในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์มาแล้ว 

นอกจากอุปกรณ์ป้องกันอย่างหน้ากากอนามัยที่มีความจำเป็นอย่างมาก และหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างออกมาแจกฟรี เพื่อให้ประชาชนไว้ป้องกันเบื้องต้นแล้วมาดามแป้งหรือนวลพรรณ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทนประกันภัย จำกัด (มหาชน) ก็ยังได้มอบกรมธรรม์ประกันเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ให้กับเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ สถาบันบำราศนราดูร กันไปแบบฟรีๆ

ขณะเดียวกัน มาดามแป้ง ยังนำทีมจิตอาสา ลงพื้นที่ชุมชนคลองเตย ไปสอนทำหน้ากากอนามัยและสเปรย์แอลกอฮอล์ให้กับ 42 ชุมชนในบริเวณนั้นอีกด้วย

ฟากของ เดอะมอลล์ กรุ๊ป จับมือกับโรงพยาบาลราชวิถี ร่วมกันระดมทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่มีความจำเป็นเป็นการเร่งด่วน เพื่อความปลอดภัยแก่ประชาชน แพทย์ และบุคลากรทางการแพทย์ โดยโครงการนี้มีการระดมทุนเริ่มต้นที่ 1 ล้านบาท และจะเปิดรับการระดมทุนเพิ่มมากขึ้น

อีกมุมของผลกระทบจากไวรัสโคโรน่า คือ ภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจังหวัดท่องเที่ยวสำคัญอย่างภูเก็ต เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวอย่างที่เคย ผู้ประกอบการบางรายต้องหยุดกิจการชั่วคราว แน่นอนว่าพนักงานในภาคธุรกิจนี้จึงต้องตกงานอย่างฉับพลัน ขาดรายได้ ในขณะที่รายจ่ายยังคงอยู่ สมาคมไทย-จีนภูเก็ตร่วมกับเครือข่ายจึงจัดโรงทานเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กันผู้ตกงานที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว เช่น ไกด์ ฯลฯ ได้กินอาหารฟรีทุกวัน ตั้งแต่ 09.00-17.00 . เรื่อยไปจนถึงเวลาที่สถานการณ์ดีขึ้น

ปิดท้ายด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยี 5G ล่าสุด AIS ร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ และคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดึงเทคโนโลยี 5G และ 4G เสริมขีดความสามารถการทำงานของหุ่นยนต์บริการทางการแพทย์ เพื่อนำมาใช้ติดตามอาการกลุ่มผู้ถูกเฝ้าระวังและดูแลรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นการรักษาและให้คำปรึกษาระยะไกลผ่านระบบ Telemedicine ทั้งนี้หุ่นยนต์นี้จะทำให้แพทย์ไม่ต้องสัมผัสหรือใกล้กับผู้ป่วย ขณะนี้เริ่มนำไปใช้แล้ว 3 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลทรวงอก และโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี  โดยจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์

โดยคุณสมบัติหลักๆ คือ เป็นตัวกลางระหว่างแพทย์กับกลุ่มผู้เฝ้าระวังหรือผู้ป่วย โดยสื่อสารผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งจะช่วยคัดกรอง ประเมินความเสี่ยง และวินิจฉัยโรคเบื้องต้น รวมถึงการติดตามเฝ้าระวังผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นอกจากนี้อุปกรณ์นี้ยัสามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์และบันทึกสัญญาณชีพจรได้ด้วย เช่น วัดความดัน วัดชีพจร วัดอุณหภูมิ เป็นต้น และส่งข้อมูลไปให้แพทย์ เพื่อให้ทราบผลทันที

นี่เป็นเพียงบางส่วนของน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือไทยด้วยกัน เพราะขณะนี้ทุกภาคส่วนต่างออกมาช่วยเหลือเพื่อหลังให้ไทยผ่านพ้นวิกฤตินี้ไปได้

ที่มา : bangkokbiznews(1)bangkokbiznews(2)thansettakijdestinationnews