BBL ปัดซื้อแบงก์อินโดฯ เพิ่ม เดินหน้าเทคโอเวอร์ 'เพอร์มาตา'

BBL ปัดซื้อแบงก์อินโดฯ เพิ่ม เดินหน้าเทคโอเวอร์ 'เพอร์มาตา'

“ชาติศิริ” ยันแบงก์กรุงเทพ ไม่มีแผนซื้อกิจการธนาคารในอินโดนีเซียเพิ่มเติม รุกเดินหน้าเข้าถือหุ้น“พีที เพอร์มาตา” ตามแผน หลังที่ประชุมผู้ถือหุ้นไฟเขียว ลั่นเงินทุนเพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน  ยืนยันรักษาระดับการจ่ายปันผลสม่ำเสมอในระยะข้างหน้า

ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) วานนี้ (5 มี.ค.) มีมติอนุมัติให้ธนาคารเข้าซื้อหุ้นสามัญของธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเค ( PT Bank Permata Tbk)  ในอินโดนีเซีย  ด้วยคะแนนเสียง 891,972,308 เสียง คิดเป็น 85% ของผู้ถือหุ้นที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 1,043,718,386 เสียง  ซึ่งหลังจากนี้ธนาคารจะเข้าสู่กระบวนการซื้อและรับโอนหุ้นของธนาคารพีที เพอร์มาตาฯ ต่อไป

นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ  กล่าวในการประชุมว่า  ธนาคารยังไม่มีการซื้อธนาคารในอินโดนีเซียเพิ่มแต่อย่างใด เนื่องจากขณะนี้ยังต้องมีการบริหารจัดการอื่นๆอีก ภายหลังการควบรวมธนาคารกรุงเทพสาขาอินโดนีเซียกับธนาคารพีที เพอร์มาตาฯ 

พร้อมกันนี้ยืนยันว่า หลังการเข้าซื้อหุ้นธนาคารพีที เพอร์มาตาฯแล้ว ธนาคารยังมีเงินทุนที่เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน และจะรักษาระดับการจ่ายเงินปันผลในระดับ 7บาทต่อหุ้นได้ในระยะข้างหน้า รวมถึงสามารถจ่ายปันผลที่ดีในระยะยาวได้

สำหรับเหตุผลที่ธนาคารเข้าไปซื้อหุ้นดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า เศรษฐกิจอินโดนีเซียใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ มีอัตราการเติบโตที่ดี และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตไปอีก 10-20 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันธนาคารได้เข้าไปทำธุรกิจในอินโดนีเซียมา52 ปีแล้ว มีทั้งฐานลูกค้าในอินโดนีเซีย ฐานลูกค้าไทยที่ไปอินโดนีเซีย และลูกค้าภูมิภาคอื่นที่ไปลงทุนในอินโดนีเซีย ซึ่งจะเป็นฐานสำคัญในการขยายธุรกิจในอนาคต เพราะจากรายได้ต่อหัวของประชากรมีแนวโน้มเติบโตได้อีก

อีกทั้งเครือข่ายสาขาของเพอร์มาตาฯ จะทำให้ธนาคารสามารถรองรับการขยายบริการของธนาคารได้ดีขึ้น ซึ่งในช่วงปี 2558-2559ที่ผ่านมา เป็นช่วงที่เพอร์มาตาฯมีการแก้ปัญหา และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ซึ่งทำให้เรามองว่าเป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการขยายธุรกิจต่อไป  จึงยืนยันว่าธนาคารยังไม่มีแผนที่จะซื้อธนาคารเพิ่มเติม

สำหรับการกันสำรองของธนาคารเพอร์มาตาฯในไตรมาส 3 ปี2562 อยู่ที่ 180% และในช่วงปลายปี มีการไรท์ออฟไปบางส่วน มีสัดส่วนที่ 120% ซึ่งแบงก์เพอร์มาตาฯจะต้องมีการกันสำรองตามมาตราฐานบัญชีใหม่ IFRS9 เช่นกัน ซึ่ง ณ ระดับปัจจุบันก็ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้

สำหรับการอัตราการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร จะยังคงรักษาผลตอบแทนในระดับที่ดีและมีความมั่นคง สม่ำเสมอต่อไป รวมถึงพยายามสร้างผลการดำเนินที่ดีเพื่อนำไปสู่การปันผลที่ดีเช่นกัน

ทั้งนี้ การดำเนินการซื้อกิจการธนาคาร พีที เพอร์มาตา ทีบีเค ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 12 ของอินโดนีเซีย มีมูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท

สำหรับภาพรวมของธุรกรรมการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดของเพอร์มาตา ที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ  ระบุว่าครั้งแรกจะเข้าซื้อหุ้น89.12%จากผู้ถือหุ้นหลักทั้งสองราย ได้แก่ สแตนดาร์ดชาร์ดเตอร์แบงก์และแอสทร่า  และจะควบรวมสาขาแบงก์กรุงเทพที่อินโดนีเซีย เข้าเป็นส่วนหนึ่งของธนาคารเพอร์มาตาฯ   หลังควบรวมทำให้ลูกค้าเข้าถึงบริการมากขึ้น จากสาขาของเพอร์มาตาฯที่มีมากกว่า300สาขา