'ศรัณย์วุฒิ' สั่งเสียก่อนซักฟอก 'บิ๊กตู่' ขยี้ปมซื้ออาวุธ

'ศรัณย์วุฒิ' สั่งเสียก่อนซักฟอก 'บิ๊กตู่' ขยี้ปมซื้ออาวุธ

"ศรัณย์วุฒิ" สั่งเสีย "กลางสภา" มอบพินัยกรรมลูก ก่อนซักฟอก "ประยุทธ์" ครั้งเป็น "ผบ.ทบ." ซื้อรถถังย้อมแมวจาก "ยูเครน" ท้ายิงคนละนัดหน้าวัดพระแก้วพิสูจน์ความจงรักภักดี

เมื่อวันที่ 27 ก.พ.63 ที่รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ส.ส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ว่า ประเด็นการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อรถถังและอาวุธ โดยมี "นาง อ." อยู่เบื้องหลังการจัดซื้ออาวุธที่ไร้ประสิทธิภาพ ของกองทัพ ที่พล.อ.ประยุทธ์ สมัยที่ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ทั้งนี้ยังมี "นาง ด." ที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่กงศุล ให้กับรัฐบาลยูเครน ดำเนินการเจรจรตามการจัดซื้อรถถังมือสองเสื่อมสภาพมูลค่า 7,000 ล้านบาท และพบการจ่ายเงินจ่ายใต้โต๊ะ 1,400 ล้านบาท ทั้งนี้มีผลการสืบสวนจากทางประเทศยูเครนยืนยันว่ากระทำผิดและกำลังอยู่ระหว่างติดตามตัว กรณีที่เกิดขึ้นตนเตรียมยื่นหน่วยงานให้ตรวจสอบตามฐานความผิดที่เกิดขึ้น เพราะตามที่กองทัพระบุว่าเป็นไปตามรัฐต่อรัฐ แต่กลับพบว่ามี "นาง อ. " เป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด

ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิ ได้นำภาพรถถังเสื่อมสภาพ รุ่นที-84 โอพลอตที่ปล่อยควันสีดำจากท่อไอเสีย ประกอบการอภิปราย ซึ่งทางยูเครน ใช้รถรุ่นดังกล่าวเพียง 10 คัน แต่ไทยซื้อ 49 คัน ถือว่าไม่สมราคากับรถถังเชียงกงย้อมแมว อย่างไรก็ตาม นายศรัณย์วุฒิยังได้นำภาพรถถังรุ่นเก่าที่กองทัพจัดซื้อพร้อมติดหน้าของ พล.อ.ประยุทธ์, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ​รองนายกฯ และพล.อ.อนุพงษ์​ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรถถังรุ่นใหม่ ที่ติดใบหน้าของตัวเองประกอบอภิปราย และท้าให้ 3 ป. นั่งในรถถังรุ่นเก่า เพื่อใช้รถถังรุ่นใหม่ยิง ซึ่งเชื่อว่ารถถังเก่าจะไม่เหลือสภาพรถถัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายถึงช่วงภาพของรถถังปล่อยควันดำนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ลุกโต้ขึ้นชี้แจงว่า ภาพที่ส.ส.อภิปรายนำมาประกอบ เป็นคนละรุ่น ภาพที่นำมาแสดงคือ รุ่นโอพลอต ซึ่งตนจะให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงข้อเท็จจริงว่ารถรุ่นไหนที่กองทัพจัดซื้อ ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิ กล่าวตอบโต้ว่า ภาพนี่ได้มาจากยูเครน เป็นวีดีโอ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ สวนทันทีว่า “คุณคอยดูของผม”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายศรัณย์วุฒิ อภิปราย มีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลประท้วงเป็นระยะๆทำให้นายศรัญย์วุฒิ ถึงกับกล่าวว่า ประท้วงน่ารำคาญมาก นายกฯ จดเองเลย เวลานายกฯ ไม่เห็นประท้วงเลย เพื่อพิสูจน์ความจงรักษ์ภักดีของท่าน ทำให้นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เตือนทันทีว่า เราขอร้องเสมอในสภาฯ นี้ว่าอย่าสาบานเพราะเราอยู่กันหลายคน อย่าท้าทาย เพราะการท้าท้ายทำให้เป็นเงื่อนไขข้อขัดแย้งตามมา เราควรอดทนใช้เหตุผลกัน

นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายต่อไปว่า "ก่อนที่มาอภิปรายวันนี้มีคนเตือนผมเยอะว่าจะเจอะกับอะไร ผมไม่กลัว ถ้าผมกลัวไม่มายืนอภิปรายสู้ขนาดนี้  นี่คือนักรบพันธุ์ดุ ผมได้ทำพินัยกรรมให้กับลูกผมแล้วว่า พ่อเป็นอะไรไป ให้พี่ๆ น้องๆ รักกันดูแลกันให้ดี พ่อจะทำดีให้บ้านเมือง พ่อจะเป็นอะไรไม่สำคัญ" 

ทำให้นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ ประท้วงว่าวันนี้เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ใช่มาสั่งเสีย เรื่องครอบคัวก็ไปคุยกับครอบครัว เสียเวลา จะตายก็ไปสั่งเสียที่บ้านเอง

ทั้งนี้ นายศรัณย์วุฒิ ท้าทายนายกฯ ว่าเพื่อพิสูจน์พรุ่งนี้ นายกฯไปที่วัดพระแก้ว กับตนเราจะได้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น จนนายชวน ต้องปราม ก่อนที่นายศรัณย์วุฒิ กล่าวอีกว่า

 “พรุ่งนี้ นายกฯ ไปที่หน้าวัดพระแก้วกับผม เราจะได้รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราเตรียมกระสุนไปคนละนัดต่างคนต่างแลกยิงกันดูเลย เพื่อพิสูจน์ความจงรักภักดี เอาอย่างนั้นเลย”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายศรัณย์วุฒิ อภิปรายซึ่งเริ่มตั้งแต่เวลา 10.40 น. จนถึงเวลา13.00 น.  ซึ่งใช้การอภิปรายประกอบภาพ กว่า 100 ชิ้น ใช้เวลารวมกว่า 2 ชั่วโมง 15 นาที ซึ่งเกินเวลาที่จัดสรรให้กับฝ่ายค้าน ทำให้นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิป รัฐบาล) เตือนต่อการใช้เวลาว่า ในประเด็นอภิปราย ยังมีนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตพรรคอนาคตใหม่อภิปรายโดยได้เวลา  40 นาที ส่วนการใช้เวลาอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ ที่ได้เวลาอภิปราย 2 ชั่วโมง แต่ขณะนี้เวลา 13.09 น. ใช้เกินเวลา 10 นาที  จะทำให้เวลาของพรรคฝ่ายค้านเหลือเวลาอภิปรายทั้งหมด 40 นาที จึงถือว่าการอภิปรายต่อจากนี้เป็นคนสุดท้ายของการอภิปรายไม่ไว้วางใจ