ผู้เชี่ยวชาญคาดราคาพริกไทยโลกยังขาลง

ผู้เชี่ยวชาญคาดราคาพริกไทยโลกยังขาลง

ราคาพริกไทยในปีนี้ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัว หลังจากมีการลดกำลังการผลิตพริกไทยลงอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตมีมากกว่าความต้องการ ประกอบกับหลายประเทศที่บริโภคพริกไทย มีคำสั่งซื้อในปริมาณน้อย

สมาคมพริกไทยแห่งเวียดนาม ระบุว่า ตลาดเวียดนามยังคงมีพริกไทยในสต็อกปริมาณมากโดยเป็นพริกไทยที่ตกค้างตั้งแต่การเพาะปลูกฤดูกาลที่แล้ว โดยครัวเรือนต่างๆ ตลอดจนผู้ประกอบการต่างสต็อกพริกไทยไว้และรอให้ราคาปรับตัวขึ้น ส่วนในตลาดโลก มีแนวโน้มที่ผลผลิตพริกไทยจะเพิ่มขึ้นจากประเทศผู้ผลิตพริกไทยรายใหญ่ๆ เช่น อินเดีย ที่คาดกว่าผลผลิตพริกไทยในปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 61,000-62,000 ตัน เพิ่มขึ้นปีต่อปีประมาณ 30%

สมาคมพริกไทยเวียดนาม ระบุด้วยว่า บราซิลเป็นต้นแบบด้านการผลิตเพราะสามารถผลิตพริกไทยโดยใช้ต้นทุนต่ำและให้ผลผลิตสูง ด้วยตัวแปรเหล่านี้ทำให้พริกไทยของบราซิลสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

ในช่วงปี 2559-2560 หลายประเทศปลูกพริกไทยเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทำให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าตลาดพริกไทยโลกจะยังคงมีปริมาณพริกไทยมากกว่าความต้องการไปจนถึงปลายปี 2563 และบรรดาผู้เชี่ยวชาญด้านพริกไทยในเวียดนาม คาดการณ์ว่าราคาพริกไทยในปีนี้ยังคงอยู่ในช่วงขาลง โดยราคาพริกไทยน่าจะร่วงลงอยู่ที่ประมาณกิโลกรัมละ 36,000-38,000 ด่อง และอาจจะลดลงไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 35,000 ด่อง เทียบกับช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ที่ราคาพริกไทยอยู่ที่กิโลกรัมละ 39,000-42,000 ด่อง

อย่างไรก็ตาม สมาคมพริกไทยเวียดนาม มีความเห็นว่า ราคาพริกไทยจะไม่ลดลงไปมากกว่านี้เพราะราคาประมาณ 37,000 ด่องเป็นราคาที่บรรดานักเก็งกำไรจะซื้อ ส่วนปีหน้า คาดว่าราคาพริกไทยจะปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งนับตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป เนื่องจากครัวเรือนในเวียดนามและประเทศต่างๆที่ปลูกพริกไทยลดกำลังการผลิต ซึ่งจะช่วยหนุนราคาพริกไทยปรับตัวขึ้นทั้งในตลาดเวียดนามและตลาดโลก อีกทั้งปริมาณการผลิตพริกไทยในอนาคตที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเกษตรกรหันไปผลิตพืชเกษตรประเภทอื่นแทน

เมื่อปีที่แล้ว เวียดนามส่งออกพริกไทยได้เพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการร์เป็นปีที่3ติดต่อกัน แต่มูลค่าการส่งออกกลับลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้ เพราะราคาพริกไทยในตลาดโลกร่วงลง โดยเมื่อปี 2562 ราคาส่งออกพริกไทยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 2,516 ดอลลาร์ ลดลงปีต่อปี 23.6%

กระทรวงเกษตรและการพัฒนาท้องถิ่นของเวียดนาม (เอ็มเออาร์ดี) ระบุว่า ปีที่แล้ว เวียดนนามส่งออกพริกไทยได้ 284,000 ตัน มีรายได้ 175 ล้านดอลลาร์ การส่งออกเพิ่มขึ้นในแง่ของปริมาณราว 23.4% แต่มูลค่าการส่งออกกลับดลลงประมาณ 5.7%

แม้เวียดนามจะมีปัญหาส่งออกพริกไทยได้ในปริมาณเพิ่มขึ้นแต่ในแง่ของมูลค่ากลับลดลง แต่สำหรับตลาดเยอรมนีแล้ว ไม่ได้เป็นแบบนั้น โดยเวียดนามส่งออกพริกไทยไปเยอรมนีเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ของปริมาณและมูลค่า อีกทั้งยังส่งออกได้มากขึ้นในบางตลาด รวมทั้งไทย รัสเซีย และตุรกี โดยยอดส่งออกในแง่ของปริมาณเพิ่มขึ้นราว 89.4% และในแง่ของมูลค่าอยู่ที่ 46%สำหรับตลาดตุรกี ส่วนตลาดรัสเซีย ปริมาณการส่งออกอยู่ที่ 40.6% มูลค่าส่งออกอยู่ที่ 10.3% และสำหรับประเทศไทย ปริมาณการส่งออกพริกไทยของเวียดนามอยู่ที่ 34.8% ส่วนมูลค่าการส่งออกอยู่ที่ 0.6%

ส่วนปีนี้ คาดว่าการทำข้อตกลงการค้าเอฟทีเอระหว่างเวียดนามและสหภาพยุโรป(อียู)จะสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและสร้างโอกาสในการขยายตลาดส่งออกพริกไทยของเวียดนามให้กว้างไกลยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการส่งออกไปขายในเยอรมนี