ไทยพบผู้ป่วยยืนยันติด 'ไวรัสโคโรน่า' 2019 รายที่ 5

ไทยพบผู้ป่วยยืนยันติด 'ไวรัสโคโรน่า' 2019 รายที่ 5

รมช.สธ.เผยไทยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ ‘ไวรัสโคโรน่า2019”รายที่ 5 เป็นนักท่องเที่ยวจีน เดินเข้าไทย 21 ม.ค. ก่อนป่วยเข้ารักษารพ.ราชวิถี 23 ม.ค.2563 อาการล่าสุดดีขึ้น ลูกสาว 7 ขวบสบายดี

          เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 24 ม.ค. 2563 ที่โรงพยาบาลราชวิถี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข(รมช.สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเยี่ยมผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ว่า ได้รับแจ้งจากทีมสอบสวนโรคว่าพบผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สงสัยโรค จึงส่งผู้ป่วยมารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถีเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2563 ผู้ป่วยเป็นหญิงอายุ 33 ปีมีไข้ไอเล็กน้อยไม่มีน้ำมูกมีปวดกล้ามเนื้อเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยวันที่ 21 มกราคม 2563 พร้อมลูกสาวอายุ 7 ขวบ เด็กสบายดี ขณะนี้อยู่ในห้องแยกความดันลบ เช้าวันนี้ผู้ป่วยมีไข้ต่ำๆอาการทั่วไปดี มีอ่อนเพลียเล็กน้อยไอเล็กน้อยมีเสมหะให้การรักษาตามอาการ ผลการตรวจทางห้องปฎิบัติการ พบเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นับเป็นผู้ป่วยยืนยันรายที่ 5ที่เจอในประเทศไทย
       “ขอให้ประชาชนมั่นใจ การพบผู้ป่วยเพิ่ม แสดงถึงระบบการเฝ้าระวังโรคที่มีประสิทธิภาพ ผู้ป่วยรายนี้ขอเข้ารับการรักษาเมื่อป่วย ตามใบใบแจ้งเตือนที่เราแจกผู้เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงทุกคน ขณะนี้เราได้ยกระดับการเฝ้าระวังตามสถานการณ์ของโรค และต้องชื่นชมทางการจีนที่มีมาตรการชัดเจนในการควบคุมป้องกันโรค โดยโรงพยาบาลศูนย์ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง รวมทั้งในสังกัดกรมการแพทย์ สังกัดกรมควบคุมโรคได้มีการซักซ้อม เตรียมความพร้อม เพื่อให้การดูแลรักษาผู้ป่วย และควบคุมป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ”ดร.สาธิต กล่าว
        ทั้งนี้ โรงพยาบาลราชวิถีได้เตรียมพร้อมรองรับผู้ป่วยไวรัสปอดอักเสบมีห้องแยกความดันลบไว้ 6 ห้อง เตรียมสำรอง เวชภัณฑ์ อาทิ เสื้อกาวน์ หน้ากากอนามัย ถุงมือยาง ยาต้านไวรัส ยาปฏิชีวนะ น้ำเกลือ เพียงพอสำหรับดูแลผู้ป่วย ที่สำคัญได้เตรียมบุคลากร ที่ผ่านการซ้อมแผน รวมทั้งมีประสบการณ์การทำงานกับผู้ป่วยไวรัสปอดอักเสบเพื่อดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ นอกจากนี้ โรงพยาบาลราชวิถี ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์สั่งการเพื่อส่งต่อผู้ป่วย หลังจากทีม SAT กรมควบคุมโรค ประเมินว่าผู้ป่วย สงสัยไวรัส ปอดอักเสบ จำเป็นต้องได้รับการส่งต่อ เพื่อให้การส่งต่อเป็นไปอย่างปลอดภัยทั้งผู้นำส่งและเส้นทางการนำส่ง