PPPM ตั้งเป้าดันยอดขายปีนี้โต 20% พร้อมหนุนผลงานพลิกกลับมาเป็นบวก

PPPM ตั้งเป้าดันยอดขายปีนี้โต 20% พร้อมหนุนผลงานพลิกกลับมาเป็นบวก

PPPM เปิด 3 กลยุทธ์สำคัญ “บุกตลาดใหม่-คิดค้นสูตรอาหารสัตว์-วางยุทธศาสตร์ทุกภูมิภาค” หวังดันยอดขายโต 20% พร้อมตั้งเป้าผลประกอบการปีนี้งบพลิกเป็นบวกจากปี 62

นายวรุณ อัตถากร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร บริษัท พีพี ไพร์ม จำกัด(มหาชน) หรือPPPM เปิดเผยว่า บริษัทฯ เล็งเห็นว่าในปี 2563 ภาพการขยายตัวเศรษฐกิจในประเทศ จะยังคงชะลอตัว ขณะที่ระดับโลกเกิดความขัดแย้งจนอาจก่อให้เกิดสงครามและสงครามการค้า นำมาซึ่งแนวโน้มความเสี่ยง ความผันผวนในการดำเนินธุรกิจและการส่งออก

แต่ทั้งนี้ธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์ภายในประเทศ ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภค ทำให้เป็นกลุ่มท้าย ที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาดังกล่าว ดังจะเห็นได้ว่าในปี 2562 บริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์ ราว 2,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตราว 10% จากปีก่อนหน้า 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2563 บริษัทฯ ได้กำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ 3 ประการ เพื่อรักษาระดับการเติบโตให้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อดันยอดขายธุรกิจอาหารสัตว์ปีนี้ โต 20% คือ 1.การบุกตลาดใหม่ 2.การคิดค้นสูตรอาหารสัตว์ใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด และ 3.การวางยุทธศาสตร์เรื่องพื้นที่การขายให้เหมาะสมในแต่ละภูมิภาค

ในจังหวะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการควบคุมต้นทุนการผลิต รวมถึงผลจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าจากระดับ 33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มาอยู่ในช่วง 29 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ต้นทุนในการนำเข้าวัตถุดิบหลัก เพื่อผลิตอาหารสัตว์โดยเฉพาะกากถั่วเหลืองลดลง คาดการณ์ต้นทุนโดยรวมจะลดลงได้อีก 5%

 

ในปี 2562 ยอดขายจากธุรกิจอาหารสัตว์ของบริษัทฯ ยังมีอัตราเติบโต พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจหลัก และพื้นฐานอันแข็งแกร่ง และในปี 2563 นี้ บริษัทฯ คาดหวังว่าผลของการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจข้างต้นสามารถผลักดันการเติบโตในด้านยอดขาย พร้อมไปกับการควบคุมค่าใช้จ่ายในการผลิต  โดยจะส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทฯ พลิกกลับมาเป็นบวก จากปี 2562 ซึ่งเป็นปีที่ยอมรับว่ายังคงรับรู้ผลกระทบจากการเข้าไปลงทุนในประเทศญี่ปุ่นก่อนหน้านี้ ส่งผลให้ต้องตั้งสำรองไว้ แต่เป็นเพียงการบันทึกทางบัญชีเท่านั้นไม่ได้มีผลกระทบในด้านเงินสด เพราะในท้ายที่สุดเมื่อทิศทางการลงทุนมีความชัดเจนมากขึ้นภายในปีนี้  จะส่งผลให้เงินสำรองดังกล่าว แปลงกลับมาเป็นรายได้ให้กับบริษัทฯ ทันที

นายวรุณ กล่าวต่อว่าวส่วนภาพรวมผลประกอบการของบริษัทฯในปีนี้ จะมีทิศทางเป็นบวก และจะเป็นปีที่พื้นฐานของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานทางด้านหนี้สินทรัพย์สิน รวมไปถึงการดำเนินงานภายในของบริษัทฯ เองด้วย