‘บล.เคทีบี’ตั้งบริษัทรุกสินเชื่อบุคคล เตรียมปรับโครงสร้างสู่‘โฮลดิ้งคัมพานี’

‘บล.เคทีบี’ตั้งบริษัทรุกสินเชื่อบุคคล  เตรียมปรับโครงสร้างสู่‘โฮลดิ้งคัมพานี’

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) คาดปี63 เตรียมตั้งบริษัทย่อยใหม่ "ktbst LEND" หวังลุยธุรกิจปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคล พร้อมปรับโครงสร้างธุรกิจเป็น "โฮลดิ้ง คัมพานี" รองรับธุรกิจใหม่ๆ คาดเล็งยื่นไฟลิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นภายในปีหน้า พร้อมตั้งเป้าผลประกอบการโตต่อ

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าภายในปี 2563 จะมีการจัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมาใหม่อีกแห่ง ภายใต้ชื่อบริษัท ktbst LEND จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินเชื่อส่วนบุคลสำหรับช่วยแก้ปัญหาให้กับผู้ที่ประสบกับภาวะหนี้ โดยรูปแบบของธุรกิจดังกล่าวจะให้บริการเหมือนกับคลินิคแก้ปัญหาหนี้ ซึ่งจะเข้าไปนำเสนอบริการให้กับองค์กรหรือบริษัทเอกชนต่างๆเพื่อแก้ปัญหาหนี้ให้กับพนักงานในองค์กรนั้นๆ รวมถึงจะมีการให้ความรู้ด้านการลงทุนและการออมรวมอยู่ด้วย

ทั้งนี้มองว่าธุรกิจดังกล่าวถือเป็นธุรกิจใหม่ เปรียบเสมือนการทำธุรกิจโซเชียล เอ็นเตอร์ไพรส์ หรือธุรกิจเพื่อสังคม หลังจากพบว่าปัจจุบันปัญหาหนี้ครัวเรือนของคนไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการขาดความรู้และวินัยด้านการออมเงิน บริษัทจึงมีเป้าหมายที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์ปัญหาของคนไทยมากขึ้น

ขณะที่ในช่วงเดือนพ.ย.ที่ผ่านมาบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจด้วยการตั้ง บมจ.เคทีบีเอสที โฮลดิ้ง (KTBST Holding) ขึ้นมาเพื่อขยายธุรกิจให้เป็นสถาบันการเงินครบวงจรมากยิ่งขึ้นและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน รวมถึงรองรับการขยายตัวของทุกธุรกิจใหม่ๆในกลุ่ม 

ส่วนความคืบหน้าของแผนการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯนั้น บริษัทคาดว่าหากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ตรวจสอบระบบแล้วเสร็จจะสามารถยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) ต่อก.ล.ต.ได้ภายในปีหน้าทันที เนื่องจากปัจจุบันผลประกอบการของบริษัทได้ตรงตามเกณฑ์ทั้งหมดแล้ว

“ปี 2563 เชื่อว่าภาวะตลาดการเงินที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนมองหาบริการทางการเงินที่ตรงกับความต้องการของตนเองและเหมาะสมกับภาวะการลงทุน ซึ่งกลุ่มบริษัท KTBST ยังเดินหน้าให้บริการในฐานะสถาบันเงินที่เชี่ยวชาญด้านพัฒนาธุรกิจด้วยการมีธรรมาภิบาลที่โปร่งใสสามารถตรวจสอบได้ ในการให้บริการลูกค้าแบบครบวงจร พร้อมด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาด้านการลงทุนควบคู่ไปกับการมีผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ”

สำหรับผลประกอบการในปี 2563 บริษัทตั้งเป้ารายได้จะแตะระดับ 1,400 ล้านบาท หรือเติบโต 26.3% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีทำได้ราว 1,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเติบโตจากการขยายธุรกิจทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่อย่างธุรกิจกองทุนรวมและกองทุนรีทที่เพิ่งเปิดดำเนินการในปีนี้ที่จะเข้ามาช่วยให้ผลประกอบการเติบโตได้มากขึ้น

ขณะที่กำไรสุทธิปีหน้าคาดว่าจะกลับมาเติบโตมากกว่า 243% จากปีนี้ที่คาดว่ากำไรจะต่ำกว่าปี 2561 ที่มีกำไรสุทธิ 62.31 ล้านบาท หลังจากช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรเพียง 29.61 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทมีการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆเพิ่มเติม ซึ่งส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้น ขณะที่ธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และอนุพันธ์มองว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ เพราะรายได้ของบริษัทหลักทรัพย์ส่วนใหญ่ในอุตสาหกรรมลดลงกว่า 50%