ประท้วงฝรั่งเศสดันยอดอุบัติเหตุพุ่ง

ประท้วงฝรั่งเศสดันยอดอุบัติเหตุพุ่ง

การประท้วงระบบบำนาญในกรุงปารีสป่วนการคมนาคม ทำให้ประชาชนหลายพันคนต้องหันไปพึ่งพาจักรยานและสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแทน จนเกิดอุบัติเหตุฟกช้ำดำเขียวไปตามๆ กัน

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกรุงปารีส หน่วยแรกที่ได้รับแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายตังข้อสังเกตว่า นับตั้งแต่เริ่มประท้วงหยุดการขนส่งสาธารณะเมื่อวันที่ 5 ธ.ค. อุบัติเหตุเพิ่มขึ้นเกือบ 40%

พ.ท.กาเบรียล พลัส โฆษกหน่วยดับเพลิงเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-14 ธ.ค. เจ้าหน้าที่เข้าดูแลอุบัติเหตุ 600 ครั้ง เพิ่มขึ้นมากจากช่วงเดียวกันของปี2561 ที่เกิดเหตุ 450 ครั้ง

“เห็นได้ชัดว่าสาเหตุมาจากการประท้วง การจราจรหนาแน่นขึ้น รวมทั้งผู้คนจำนวนมากหันมาใช้จักรยานและยานพาหนะทางเลือกอื่นๆ โดยขาดประสบการณ์หรือมีอุปกรณ์ไม่ดีพอ” โฆษกกล่าวและว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นมีทั้งจักรยานชนกับคนเดินเท้า หรือถูกรถยนต์ชน แต่ส่วนใหญ่จะบาดเจ็บเล็กน้อยไม่ถึงกับเข้าโรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม การประท้วงปิดถนน รถสาธารณะไม่วิ่งเป็นเหตุให้ประชาชนต้องเอารถออกมาขับมากขึ้นอีกหลายพันคัน เท่ากับว่าเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลานานขึ้นด้วยกว่าจะไปถึงจุดที่เกิดอุบัติเหตุ โฆษกเผยว่าโชคดีที่ยังไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายแรง เช่น เกิดไฟไหม้ใหญ่

วันนี้ (17 ธ.ค.) การประท้วงเข้าสู่วันที่ 13 รถไฟใต้ดินไม่น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของกรุงปารีส ยังคงปิดให้บริการอย่างสิ้นเชิง สายชานเมืองวิ่งน้อยมาก

สำหรับกรุงปารีสตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นมาเต็มไปด้วยสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าให้เช่าไม่น้อยกว่า 15,000 คัน ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่โอดครวญว่าเกะกะทางเดินที่แออัดอยู่แล้ว

ช่วงวันแรกของการประท้วง กลุ่มอนุรักษสิ่งแวดล้อม “กบฏต่อต้านการสูญพันธุ์” อ้างว่า บ่อนทำลายสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า 3,600 คันทั้งในปารีสและเมืองอื่นๆ อ้างว่า ภาพลักษณ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของของเล่นชนิดนี้บดบังความจริงของการเป็นหายนะทางนิเวศวิทยา