รมว.มหาดไทย ค้านจัด 'วิ่งไล่ลุง' วอนอย่าซ้ำเติมบ้านเมือง

รมว.มหาดไทย ค้านจัด 'วิ่งไล่ลุง' วอนอย่าซ้ำเติมบ้านเมือง

"พล.อ.อนุพงษ์" ค้านจัดกิจกรรม "วิ่งไล่ลุง" ชี้ยังไม่ถึงเวลาก่อม็อบปลุกคนลงถนน วอนอย่าซ้ำเติมบ้านเมือง

เมื่อเวลา 08.40น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีจะมีการจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” วันที่ 12 ม.ค. ว่า ตนยืนยันไปแล้วว่าบ้านเมืองเรายังมีปัญหาอีกมาก ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ และปัญหาภัยแล้งของเกษตรกร สถานภาพการเมืองของประเทศไทยตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็น เรามีหนทางที่จะเดินไปได้ ไม่จำเป็นต้องไปเดินบนถนน หรือก่อม็อบทำอะไรก็แล้วแต่ตนไม่เห็นด้วย เพราะเรามีความลำบากยุ่งยากมาเยอะแล้ว และมีบทเรียนมากมาย ไม่ใช่ทางออกและยังส่งผลกระทบ

เมื่อถามว่า ถ้าจะจัดงานวิ่งไล่ลุงต้องขออนุญาตใช้พื้นที่จากกทม.ใช่หรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตามกฎหมายเขาจะต้องขอใครก็ไปขอในส่วนนั้น ถ้าไม่ขอจะมีความผิดทางกฎหมายตามมา ตนคิดว่ามันไม่ดี และทำให้เกิดเงื่อนไขถ้าจะทำอะไรควรทำให้ถูกต้องเท่านั้นเอง เมื่อถามว่า มีการประเมินการกิจกรรมแฟลชม็อบของพรรคอนาคตใหม่ และกิจกรรมวิ่งไล่ลุง ต่อไปจะเกิดม็อบทางการเมืองวุ่นวายตามมาหรือไม่ พล.อ.อนุพงษ์ ตอบว่า ตามหลักการตนเห็นว่าควรจะไปใช้ช่องทางอื่นในการแก้ไขปัญหาบ้านเมือง และไม่เห็นด้วยที่จะใช้มาตรการปลุกคนไปลงถนน

มท.แนะงดสุราเป็นมงคลรับปีใหม่

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลความปลอดภัยประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลปีใหม่ว่า กระทรวงมหาดไทยได้เริ่มต้นรณรงค์ดูแลประชาชนมาตั้งแต่เดือน พ.ย. ส่วนแผนที่จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันนี้(17ธ.ค.) เป็นช่วงปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 27 ธ.ค. 62- 2 ม.ค. 63โดยมีรายละเอียดในเรื่องของพื้นที่ที่จะบูรณาการเจ้าหน้าที่ทุกส่วนดำเนินการ และแบ่งพื้นที่อำเภอเป็นสีต่างๆ ตามสถิติที่เกิดอุบัติเหตุในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังให้ความสำคัญระดับหมู่บ้านที่มักพบความสูญเสียโดยเฉพาะถนนสายรองด้วยการบูรณาการเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น และยังคงต้องยังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด รวมถึงรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สำหรับเรื่องยานพาหนะได้เน้นย้ำขอให้มีการงดใช้รถบรรทุกในช่วง 7 วันดังกล่าว ขณะที่รถสาธารณะต้องมีการควบคุมและกวดขันด้วยเช่นกัน ด้านรถทั่วไปขอร้องให้ประชาชนตรวจเช็คสภาพรถให้มีความพร้อมก่อนเดินทาง

พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่การดูแลเรื่องการสัญจรทางน้ำตนเน้นย้ำให้ดูแลเรื่องโป๊ะและคนขับเรือโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ รวมถึงการดูแลนักท่องเที่ยว ส่วนเรื่องการกำหนดขอให้งดขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้น ทางเจ้าหน้าที่จะต้องดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย แต่เราก็มีการรนรงค์ไม่ให้ประชาชนดื่มสุรา โดยขอให้ไปทำกิจกรรมส่วนมนต์ข้ามปี หรือใช้เวลาทำบุญกับครอบครัวแทน ไม่จำเป็นต้องดื่มสุรา ควรทำเรื่องวัฒนธรรมและศาสนาให้ชีวิตเป็นมงคล อย่างไรก็ตามรัฐบาลไม่มีนโยบายให้มีการดื่มสุราในการจัดกิจกรรมปีใหม่ เพราะเป็นต้นเหตุสำคัญของการสูญเสีย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามแยกแยะสำนวนคดีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นจากการดื่มสุราและขับรถเร็ว เพราะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จนทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายให้แตกต่างจากคดีอุบัติเหตุอื่นๆ


เมื่อถามว่า มีการร้องเรียนถึงการจัดกิจกรรมของทางจังหวัดว่ามีโฆษณาแอลกอฮอล์แอบแฝงจะดำเนินการอย่างไร พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ตามที่มีข่าวคือที่จ.นครปฐม ซึ่งทราบว่าทางภาคเอกชนและหอการค้าฯร่วมกันจัดงานรณรงค์เรื่องจัดหวัดที่มีศักยภาพทางอาหาร โดยชี้แจงเรื่องโต๊ะจีนที่มีจำนวนมากและมีสตรีดฟู๊ดที่ดี ซึ่งการจัดงานครั้งนี้ก็มีการเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐมมอบหมายให้รองผู้ว่าฯไปแทน ถือเป็นเทศกาลที่มีวัตถุประสงค์ที่ดี โดยตรวจสอบแล้วทางจังหวัดยืนยันว่าในการแถลงข่าวไม่มีการรณรงค์เรื่องการดื่มสุราแต่อย่างใด เพราะรัฐบาลมีนโยบายที่ไม่ส่งเสริมให้ดื่มสุรา และทางพื้นที่ยืนยันว่าเป็นเรื่องของน้ำดื่มยี่ห้อหนึ่งไม่ใช่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ส่วนที่จังหวัดพังงาเป็นโครงการของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งได้มีการดำเนินการไปแล้วโดยรมว.ท่องเที่ยวฯมอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงาไปร่วมกิจกรรมแทนซึ่งเป็นกิจกรรมรุณรงค์ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ก็จัดกิจกรรมลักษณะนี้มาหลายครั้งแล้วตนก็ทราบว่ามีเรื่องของดนตรีและการดื่มสุรา แต่ไม่ใช่การจัดลานเบียร์ แต่ว่ามีร้านขายโดยขออนุญาตจากกรมสรรพสามิต



วอนปชช.ลดการใช้น้ำฟุ่มเฟื่อย ช่วยภัยแล้ง

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการรับมือภัยแล้งในพื้นที่ภาคเหนือและอีสานว่า จากการประเมินสถานการณ์ได้มีการประกาศพื้นที่ภัยแล้งไปแล้วทั้งประเทศ 11 จังหวัด สำหรับสถานการณ์น้ำทั่วไปในปีนี้ถือเป็นปีที่น้ำน้อยที่สุดลำดับที่ 3 ในรอบ 60 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนประเมินว่าน้ำอุปโภคบริโภคในขั้นต้น ทั้งการประปาส่วนภูมิภาคและนครหลวงสามารถให้บริการน้ำได้ไม่มีปัญหา แต่หากสถานการณ์รุนแรงจะมีมาตรการเร่งด่วนไว้รองรับ

แต่ทั้งนี้มีเงื่อนไขว่าเส้นทางน้ำของกรมชลประทานเกษตรกรต้องรับฟังคำชี้แจงจากกรมชลประทานเพราะเรามีการแบ่งพื้นที่ปลูกพืชไว้ โดยอาจจะทำนาไม่ได้ ส่วนพื้นที่ประปาท้องถิ่นกำลังดำเนินการสำรวจอย่างละเอียดซึ่งอาจมีบางพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องน้ำแต่เราได้เตรียมมาตรการช่วยขนน้ำอุปโภคบริโภคเหมือนเช่นทุกปี อย่างไรก็ตามเราต้องช่วยกันรนรงค์ใช้น้ำอย่างประหยัดเพราะจากการตรวจสอบประชาชนยังใช้น้ำกันปกติอยู่ อาจต้องช่วยกันลดใช้น้ำเพราะเรามีน้ำน้อย