'ฝ่ายค้าน' บี้งูเห่า แจงโหวตสวนแจง

'ฝ่ายค้าน' บี้งูเห่า แจงโหวตสวนแจง

“ฝ่ายค้าน” ไล่บี้ 10 ส.ส. เข้านับองค์ประชุม โหวตตั้งกมธ.ศึกษาคำสั่งคสช. ให้ชี้แจงพรรคสังกัด ชี้ “พลภูมิ” ตอบแทนบุญคุณช่วยหลุดคดี “ขจิต” แจงเสียบบัตรทิ้งไว้ “อนาคตใหม่” ฟัน 2 ส.ส. ห้ามร่วมกิจกรรมพรรค เล็งตัดสิทธิ์ไม่ส่งลงเลือกตั้ง

จากกรณีการโหวตตั้งกมธ.วิสามัญ ศึกษาผลกระทบจากการกระทำประกาศและคำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และการใช้อำนาจของ หัวหน้า คสช. ตามมาตรา 44 ปรากฎว่ามี ส.ส.ของพรรคฝ่ายค้าน จำนวน 10 คน เสียบบัตรนับองค์ประชุม ทำให้การประชุมเพื่อลงมติวาระดังกล่าวมีองค์ประชุมอยู่ที่ 261 เกินกึ่ง สามารถดำเนินการประชุมต่อไปได้ จนนำมาสู้การโหวตล้มการขอตั้งกมธ.ศึกษาคำสั่งคสช. ด้วยมติไม่เห็นด้วย 244 เสียง เห็นด้วยเพียง 5 เสียง ทำให้สภามีมติไม่ดังกมธ.ชุดดังกล่าว

ทั้งนี้ ส.ส.ฝ่ายค้าน 10 คน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย 3 คน ได้แก่ นายขจิต ชัยนิคม ส.ส. อุดรธานี , น.ส.พรพิมล ธรรมสาร ส.ส.ปทุมธานี, นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ส.ส.กทม., พรรคอนาคตใหม่ 2 คน ได้แก่ พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส. จันทบุรี และนายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี,

พรรคเศรษฐกิจใหม่ 4 คน ได้แก่ นายภาสกร เงินเจริญกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายมนูญ สิวาภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นางมารศรี ขจรเรืองโรจน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ, นายสุภดิช อากาศฤกษ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และ พรรคประชาชาติ 1 คนได้แก่ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี

วานนี้ (5 พ.ย.) นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ในส่วนของส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่แสดงตัวเป็นองค์ประชุม 3 คนนั้น นายพลภูมิ เราไม่แปลกใจ เพราะเข้าใจและทราบมาก่อนว่าเขามีบุญคุณต่อกันเรื่องคดีก่อนหน้านี้ ส่วนนายขจิต และน.ส.พรพิมล ถือว่าผิดคาด เราจึงยังต้องรอฟังเหตุผลของเขาก่อน

โดยในส่วนของวิปฝ่ายค้านหลังจากนี้ คงมีการประชุมเปิดอกคุยกันว่าใครจะยังคงจุดยืนและทำงานร่วมกันต่อ หรือใครจะประสงค์ทำงานการเมืองในแนวทางอื่น ซึ่งเราไม่มีการบังคับกัน เราเหลือเท่าไหร่ก็ทำงานได้เพราะถึงอย่างไรจำนวนเสียงก็สู้ไม่ได้อยู่แล้ว

นายวิชาญ มีนชัยนันท์ ประธานภาคกทม.พรรคเพื่อไทย กล่าว ตนรู้จัก นายพลภูมิ และครอบครัวมานาน ตั้งแต่ นายพลภูมิ เริ่มเข้าการเมือง เขาเป็นคนมีฐานะมีเหตุผล ไม่เคยสนใจเรื่องผลประโยชน์เงินทอง ดังนั้นการจะบอกว่าที่ช่วยรัฐบาลเพราะผลประโยชน์เงินทางตัดทิ้งไปได้เลย สาเหตุคงมาจากเรื่องอื่น

ขจิตแจงเสียบบัตรแสดงตนทิ้งไว้

ขณะที่ นายขจิตร กล่าวว่า ตนพร้อมไปชี้แจงกับผู้ใหญ่ของพรรค ยืนยันว่าไม่ใช่งูเห่า และไม่เคยได้รับเงิน 8 หลักเป็นค่าแจกกล้วย ในการไปร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมให้ฝ่ายรัฐบาล ตนไปเสียบบัตรแสดงตนคาไว้ในเครื่องลงคะแนน จากนั้นได้ออกไปประชุมอนุกรรมาธิการงบประมาณด้านการศึกษา

โดยขณะนั้นใกล้จะถึงเวลาแสดงตนเป็นองค์ประชุม นายสมศักดิ์ พันธุ์เกษม ส.ส.นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นประธานอนุกรรมาธิการฯ ขอให้ตนทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมแทนให้ เพราะต้องไปแสดงตนเป็นองค์ประชุม ตนจึงทำหน้าที่แทนให้ เพราะถึงอย่างไรฝ่ายค้านก็ไม่ได้ร่วมเป็นองค์ประชุมโหวตตั้งกรรมาธิการวิสามัญฯ อยู่แล้ว

“สุดท้ายจึงมาทราบว่ามีชื่อผมร่วมเป็นองค์ประชุมในญัตติดังกล่าวด้วย ตนจึงสันนิษฐานว่า อาจจะมีคนไปกดปุ่มแสดงตนเป็นองค์ประชุมให้ในเครื่องที่ผมเสียบบัตรคาไว้หรือไม่ หรืออาจเป็นเพราะเครื่องลงคะแนนขัดข้องจึงไปปรากฎชื่อเป็นองค์ประชุมด้วย”

เชื่อผู้ใหญ่พรรคพท.เข้าใจ

ทั้งนี้มั่นใจว่าผู้ใหญ่ในพรรคจะรับฟังเหตุผล เพราะเรื่องนี้ตรวจสอบไม่ยาก สามารถเรียกเจ้าหน้าที่และอนุกรรมาธิการงบประมาณด้านการศึกษามาเป็นพยานก็จะทราบความจริงทั้งหมด จึงไม่หนักใจอะไร แต่ยอมรับว่าถูกชาวบ้านด่าหนักมาก เพราะไม่เข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้น

สำหรับเหตุผลที่เสียบบัตรคาไว้ในเครื่องลงคะแนนนั้น เป็นเรื่องปกติที่ส.ส.80-90% ก็ทำกันทั้งนั้น เพราะไม่มีใครพกบัตรลงคะแนนติดตัวไว้ตลอดเวลา กลัวจะทำหาย

 

อนค.เล็งตัดสิทธิ์2ส.ส.ไม่ส่งลงเลือกตั้ง

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ส.ส.ที่ไม่ได้ทำตามมติพรรค ก็เป็นคนหน้าเดิม ซึ่งที่ผ่านมาทางพรรคได้มีมาตรการดำเนินการกับบุคคลที่มีพฤติกรรมที่ทางคณะกรรมการวินัยพรรคเห็นว่าขัดต่อวินัยพรรค ซึ่งแต่ละคนได้รับบทลงโทษ โดยการคว่ำบาตร แช่แข็งไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมใดๆของพรรค เป็นระยะเวลาแตกต่างกันไป

“แต่เมื่อมีพฤติกรรมเกิดขึ้นซ้ำต่อเนื่อง ต้องคุยกันอีกครั้งในคณะกรรมการวินัย กรรมการบริหารพรรค และส.ส.พรรรค เพื่อหามาตรการลงโทษเพิ่มเติม เพราะครั้งนี้ถือเป็นความผิดครั้งใหม่ ที่ผ่านมาก็มีการภาคทัณฑ์ แบนไม่ให้ร่วมกิจกรรมพรรคแล้ว ต่อไปจะต้องหารือกันว่า อาจจะไม่ส่งส.ส.ลงรับสมัครเลือกตั้งอีกครั้งในนามพรรค แน่นอนหากเป็นบุคคลเดิมและทำผิดซ้ำ ต้องใช้มาตรการหนักขึ้น”

ทั้งนี้กรรมการวินัยจะพิจารณาและส่งเรื่องให้กรรมการบริหารพรรคดำเนินการ อย่างไรก็ตาม ส.ส.ทั้ง 2 คนที่ไม่ทำตามมติพรรค ขณะนี้ยังไม่ได้เข้ามาชี้แจงต่อผู้บริหารพรรคอย่างเป็นทางการ แต่ได้ไปพูดกับเพื่อนส.ส. และตอบความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งทางกรรมการวินัยจะเรียกให้ส.ส.ทั้ง 2 คนเข้ามาชี้แจงต่อไป

วันนอร์เรียกส.ส.ปัตตานีแจงโหวตสวน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) ในการประชุมพรรคสัปดาห์หน้าจะให้ นายอนุมัติ ซูสารอ ส.ส.ปัตตานี พรรค ปช. มาชี้แจงว่าสาเหตุอะไรถึงไม่ปฏิบัติตามมติวิปฯฝ่ายค้าน ไม่ใช่แค่พรรคปช.ที่เขาต้องตอบ ประชาชนในพื้นที่ที่เลือกนายอนุมัติก็รอฟังเหตุผลด้วย ส่วนผลจะเป็นอย่างไรและพรรคจะตัดสินใจอย่างไรอยู่คณะกรรมการบริหารพรรค

ศม.ยันมติพรรคโหวตนับองค์ประชุม

นายมนูญ สิวภิรมย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเศรษฐกิจใหม่ กล่าวว่า 4 ส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่ ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม ไม่ใช่การเป็นงูเห่า แต่เป็นการทำตามมติพรรคที่ได้แจ้งให้ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านทราบแล้วว่า เราไม่เห็นด้วยหากจะยังไม่ร่วมเป็นองค์ประชุมสภาฯ ในครั้งที่ 3 ต่อไปอีก ที่ผ่านมาการไม่ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุม 2 ครั้ง ถือว่ามากพอแล้ว จึงควรให้สภาฯ เดินหน้าต่อไปได้เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ

นอกจากนี้ญัตติเรื่องการพิจารณาผลกระทบจากมาตรา 44 นั้นสามารถนำไปพิจารณาในคณะกรรมาธิการสามัญชุดต่างๆ ของสภาผู้แทนราษฎรได้ พรรคเศรษฐกิจใหม่จึงมีมติพรรคไปว่าให้เข้าร่วมประชุมในการโหวตเรื่องนี้ โดยควรโหวตกันอย่างแฟร์ๆ ไม่ใช่เล่นเกมกันไปมาให้สภาฯ ล่มอีก เพราะจะทำให้ภาพพจน์สภาฯ เสียหายมากไปกว่านี้

ส่วนการทำงานหลังจากนี้ พรรคเศรษฐกิจใหม่ยังคงทำงานเป็นฝ่ายค้านต่อไปเพราะมีอุดมการณ์ตรงกัน แต่เรื่องใดที่พรรคเห็นต่างจากฝ่ายค้าน ก็ขอสงวนสิทธิที่จะเห็นต่าง ฝ่ายค้านต้องเคารพสิทธิของเรา เพราะได้บอกจุดยืนมาแต่แรกที่ได้ร่วมกันทำงานแล้ว พรรคจะพิจารณาเป็นเรื่องๆ ไปว่าจะเห็นต่างจากมติฝ่ายค้านหรือไม่

สำหรับส.ส.พรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 2คนคือ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ และนายนิยม วิวรรธนดิฐกุล ที่ไม่ได้ร่วมแสดงตนเป็นองค์ประชุมด้วยนั้น เนื่องจากทั้ง 2 คนไม่ได้มาประชุมในวันดังกล่าว

 

เทพไทลั่นยึดอุดมการณ์ปชป.

นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ทวิตข้อความในทวิตเตอร์ส่วนตัวชื่อ ระบุว่า ตนได้ลงมติเห็นด้วยกับญัตติการตั้งกมธ.ศึกษาผลกระทบของม.44 ด้วยเหตุผล 3 ข้อ คือ 1.เป็นญัตติของพรรค ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรค ได้ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรค และมีอดีตรมต. 7 คนลงชื่อเป็นเจ้าของญัตติเอง 2.ได้อภิปรายสนับสนุนญัตตินี้ในสภาอย่างชัดเจน

“3.เป็นญัตติที่ตรงกับอุดมการณ์ของพรรคที่ประกาศมา 73 ปีแล้ว เป็น 73 ปีที่มีให้ไว้กับประชาชน อุดมการณ์ของพรรค สำคัญที่สุดสำหรับคนเป็นสมาชิกพรรค”

นายกฯยันพรรคร่วมเข้าใจกันดี

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวว่า วันนี้ประเทศชาติก็สงบร่มเย็นแต่ก็มีปัญหาอยู่บ้าง แต่ปัญหาก็คือเรื่องของปัญหาที่ต้องแก้กันไป ถ้าทุกคนเอาแต่ปัญหามารุมเร้ากันทุกเรื่อง จนทำให้การบริหารทำงานไม่ได้ มันคงไม่ใช่ ตนคิดว่าต้องทำให้การบริหารราชการทำได้ ส่วนปัญหาก็ต้องช่วยกันแก้ไป ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ไปอะไรกับใครทั้งสิ้น จะตรวจสอบหรือจะถ่วงดุลก็ว่ากันไป แต่ในทางปฏิบัติอย่าทำให้ระบบราชการเสียหายเพียงเท่านั้นเอง ซึ่งตนรับผิดชอบแค่นั้นแหละตรงนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องการจะส่งสัญญาณถึงพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เลิกพูดเถอะนะสัญญาณ ทำไมต้องส่งสัญญาณ” และเมื่อถามย้ำว่าแสดงว่าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เขาคงเข้าใจกันอยู่ และคงเข้าใจกันมากขึ้น”