Circular Eco. l หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา ผลิตเส้นใยผ้าจากใบสับปะรด

Circular Eco. l หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา ผลิตเส้นใยผ้าจากใบสับปะรด

ปริยากร ธรรมพุทธสิริ กรรมการผู้จัดการ หจก.รักษ์บ้านเรา กล่าวว่า 2-3ปีที่ผ่านมา ในตลาดโลกมีความต้องการสินค้าที่ผลิตจากเส้นใยที่ผลิตจากธรรมชาติ ลดการใช้สารเคมีและสิ่งปรุงแต่งต่างๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรปและญี่ปุ่น

ทำให้ธุรกิจสิ่งทอที่ผลิตจากเส้นใยธรรมชาติเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ตนเห็นว่า ใยสับปะรดเป็นเส้นใยหนึ่งที่มีความน่าสนใจ จึงได้นำมาต่อยอดด้วยการผลิตเป็นเส้นใยผ้า โดยนำใบสับปะรดพันธุ์ปัตตาเวียที่มีมากมายหลายพันกิโลกรัมต่อไร่ มารีดเป็นเส้นใย

 

ปริยากรกล่าวว่า เส้นใยผ้าจากสับปะรดถือเป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติดีมาก มีความแข็งแรงทนทานอันดับต้นๆของโลก ไม่ขาดง่าย ไม่จำเป็นต้องรีด สามารถต่อต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และดูดซึมสีได้เป็นอย่างดี ซึ่งการแปรรูปดังกล่าวได้ช่วยสร้างตลาดใหม่ของผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋า รองเท้า ชุดสำเร็จรูป สร้างมูลค่าได้ในตลาดผู้ที่ชื่นชอบสินค้าเฉพาะกลุ่ม (Niche Market) สร้างอาชีพให้กับคนในพื้นที่ และยังช่วยลดสิ่งของเหลือทิ้งที่อาจยากต่อการกำจัด และตอบกระแสเศรษฐกิจสีเขียวได้เป็นอย่างดี

 

ทาง หจก. ได้ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA พัฒนาเครื่องต่อเกลียวเส้นใยสับปะรดอัตโนมัติที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นได้กว่า 60% และเครื่องทอผ้าสับปะรดกึ่งอัตโนมัติที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตเป็นร้อยละ 70 ทำให้ทันต่อความต้องการของผู้บริโภค และทำให้มีเวลามาคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีเส้นใยสับปะรดเป็นส่วนประกอบหลักได้เพิ่มมากขึ้น

 

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ หจก.รักษ์บ้านเรา สงขลา พัฒนา จำหน่าย และส่งออกมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ 1.เส้นใยต่อเกลียว ที่มีราคาขายกิโลกรัมละ 1,800 บาท 2.ผ้าทอ ซึ่งมีราคาขายอยู่ที่ หลาละ 950 บาท และ 3. เส้นใยที่เสีย ต่อเส้นใยยาวไม่ได้ จะถูกส่งต่อไปทำวอลล์เปเปอร์ หรือกระดาษสา โดยขายในราคากิโลกรัมละ 200 บาท ทั้งนี้ ตลาดส่งออกสำคัญจะอยู่ที่ตลาดยุโรปและประเทศญี่ปุ่นเป็นหลัก

วิ่ง Virtual Walk/Run ขออากาศดีคืนมา

กิจกรรมเดิน วิ่ง Virtual Walk/Run for Clean Air 2019 ขออากาศดีคืนมา สะสมระยะทาง 35 กิโลเมตรภายในระยะเวลา 1 เดือน เพื่อสร้างความตระหนักเรื่องวิกฤตมลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะ PM 2.5 ที่ส่งผลต่อสุขภาพของคนไทย และร่วมกันรณรงค์ขับเคลื่อนและผลักดันคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้กำหนดมาตรฐาน PM 2.5 ในบรรยากาศทั่วไป (ambient air standard) ขึ้นใหม่ ให้มีค่าเฉลี่ยรายปี 12 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมงเป็น 35 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ภายในปี พ.ศ.2562 

โดยกรีนพีซเปิดรับสมัครตั้งแต่วันนี้-30 พฤศจิกายน 2562 และเริ่มกิจกรรมตั้งแต่วันที่ 1 - 31 ธันวาคม 2562

https://www.alphame.co.th/greenpeace-run-for-clean-air-2019/