บล.ดีบีเอสฯผนึกไพรเวทแบงก์ รุกธุรกิจไพรเวทเวลธ์

บล.ดีบีเอสฯผนึกไพรเวทแบงก์ รุกธุรกิจไพรเวทเวลธ์

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส จับมือดีบีเอสไพรเวทแบงก์ รุกธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง หวังครอบคลุมบริการการลงทุนทั้งในไทยและต่างประเทศ พร้อมตั้งเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหารแตะ 2 แสนล้านบาทภายใน 5 ปี หลังกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ไทยโตกว่า 12.7% ต่อปี

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าธนาคารดีบีเอสได้ประกาศการเป็นพันธมิตรระหว่างดีบีเอสไพรเวทแบงก์ในประเทศสิงคโปร์และบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในการให้บริการบริหารความมั่งคั่งกับกลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าจะเพิ่มสินทรัพย์ของธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยแตะระดับ 2 ล้านบาท ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้าหรือปี 2566 จากปัจจุบันที่อยู่ระดับ 1 แสนกว่าล้านบาท

ทั้งนี้การร่วมเป็นพันมิตรนี้จะส่งผลให้ลูกค้าที่มาเปิดบัญชีกับบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) สามารถเข้าถึงบริการบริหารสินทรัพย์จากการลงทุนทั้งในประเทศไทยและการลงทุนในต่างประเทศผ่านผลิตภัณฑ์การลงทุนของดีบีเอสไพรเวทแบงก์ที่ครอบคลุมการลงทุนทั่วโลก ซึ่งนับเป็นบริษัทแรกในประเทศไทยที่พร้อมให้บริการดังกล่าวเพื่อตอบความต้องการของลูกค้ากลุ่มผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยที่กำลังเพิ่มจำนวนขึ้นและกำลังมองหาช่องทางในการกระจายการลงทุน รวมถึงเข้าถึงโอกาสการลงทุนในตลาดต่างประเทศ

ขณะที่มองว่าธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยยังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมาก เนื่องจากประเทศไทยมีประชากรที่มีความมั่งคั่งมากขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลังปัจจุบันมีฐานผู้ลงทุนรายใหญ่เป็นจำนวนกว่า 120,000 รายในปี 2561 คิดเป็นมูลค่าสินทรัพย์ที่ถือครองของผู้ลงทุนราว 10 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 300 ล้านบาทต่อคน ซึ่งคิดเป็นสินทรัพย์ของผู้ลงทุนรายใหญ่ในประเทศไทยเติบโตเฉลี่ย 12.7% ต่อปี นับตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา

“จุดแข็งของเราคือ การอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า โดยลูกค้าสามารถมาเปิดบัญชีกับทางบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) และจะสามาาถเข้าถึงบริการของดีบีเอสไพรเวทแบงค์ ในสิงคโปร์ได้ทุกผลิตภัณฑ์ โดยไม่ต้องไปเปิดบัญชีที่สิงคโปร์ รวมถึงสามารถทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิตอลได้ทุกที่ทั้วโลก ซึ่งถือเป็นจุดแข็งที่แตกต่างจากค่ายอื่นๆ ส่วนอัตราค่าธรรมเนียมก็จะคิดตามผลิตภัณฑ์นั้นๆ”