ปภ.เตือน '24จังหวัด' เสี่ยงน้ำท่วม-ดินสไลด์

ปภ.เตือน '24จังหวัด' เสี่ยงน้ำท่วม-ดินสไลด์

ปภ.เตือน "24จังหวัด" เสี่ยงน้ำท่วม-ดินสไลด์ จากอิทธิพลพายุ "โพดุล"

เมื่อวันที่ 1 ก.ย.62 นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย  เปิดเผยว่า จากอิทธิพลพายุโซนร้อน "โพดุล" ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์ ในพื้นที่ 24 จังหวัด ได้แก่ อำนาจเจริญ กระบี่ ปราจีนบุรี แพร่ นครพนม เชียงใหม่ ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี ระนอง เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ขอนแก่น หนองบัวลำภู ยโสธร กาฬสินธุ์ น่าน ตราด มุกดาหาร อุตรดิตถ์ ชัยภูมิ สุรินทร์ พิษณุโลก พิจิตร และแม่ฮ่องสอน รวม 64 อำเภอ 148 ตำบล 356 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 3,663 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 รายที่จ.อุบลราชธานี ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คนที่จ.ชัยภูมิ  ยังมีสถานการณ์ในพื้นที่ 15 จังหวัด ได้แก่

1.แพร่ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ร้องกวาง และอ.ลอง รวม 5 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 35 ครัวเรือน  2.เพชรบูรณ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ชนแดน วังโป่ง เมืองเพชรบูรณ์ หนองไผ่ และเขาค้อ รวม 9 ตำบล 25 หมู่บ้าน ประชาชนอพยพ 140 คน  3.พิษณุโลก น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เนินมะปราง อ.วังทอง อ.นครไทย และชาติตระการ รวม 13 ตำบล 73 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,510 ครัวเรือน 4.อุตรดิตถ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำปาด ท่าปลา และฟากท่า รวม 5 ตำบล 23 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 107 ครัวเรือน 5.พิจิตร น้ำไหลหลากข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.สามง่าม ทับคล้อ วังทรายพูน และสากเหล็ก รวม 7 ตำบล ประชาชนได้รับผลกระทบ 10 ครัวเรือน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม ขณะที่เชียงใหม่เกิดน้ำไหลหลากและดินสไลด์ในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.ฮอด อมก๋อย แม่แจ่ม และจอมทอง รวม 6 ตำบล 16 หมู่บ้าน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหายเพิ่มเติม

นายชยพล กล่าวอีกว่า 6.อำนาจเจริญ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.หัวตะพาน และเมืองอำนาจเจริญ รวม 2 ตำบล 2 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 65 ครัวเรือน 7. ชัยภูมิ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชัยภูมิ และแก้งคร้อ รวม 2 ตำบล 5 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ครัวเรือน ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน 8.มุกดาหาร เกิดน้ำไหลหลากและวาตภัยในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองมุกดาหาร ดงหลวง หนองสูง นิคมคำสร้อย ดอนตาล หว้านใหญ่ และคำชะอี รวม 32 ตำบล 33 หมู่บ้าน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย 9. ยโสธร น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อ.ป่าติ้ว รวม 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 847 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 5,080 ไร่  10.ขอนแก่น น้ำจากลำห้วยจิ หลากเข้าท่วมในพื้นที่ต.บ้านไผ่ และต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ ประชาชนอพยพ 516 คน

11.กาฬสินธุ์ น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ห้วยเม็ก และหนองกุงศรี รวม 8 ตำบล 31 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 410 ครัวเรือน 12.อุบลราชธานี น้ำไหลหลาก เข้าท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.น้ำขุ่น น้ำยืน เมืองอุบลราชธานี กุดข้าวปุ้น เขื่องใน เขมราฐ พิบูลมังสาหาร ตระการพืชผล และโขงเจียม รวม 18 ตำบล 46 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 798 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 1 ราย 13.ร้อยเอ็ด น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เสลภูมิ อ.โพธิ์ชัย อ.เมยวดี และอ.เมืองร้อยเอ็ด รวม 12 ตำบล 38 หมู่บ้าน พื้นที่การเกษตรเสียหาย 4,110 ไร่ และ 14.มหาสารคาม น้ำไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่อำเภอเมืองมหาสารคาม ประชาชนได้รับผลกระทบ 40 ครัวเรือน สถานการณ์ภาพรวมปัจจุบันทุกพื้นที่ระดับน้ำลดลง

“ปภ.ได้ประสานจังหวัด หน่วยทหาร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเบื้องต้น โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ แจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่สำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้หลายพื้นที่ยังคงมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ปภ.จึงขอเตือนประชาชนให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนและคำแนะนำอย่างเคร่งครัด  ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป” อธิบดีปภ. กล่าว