'มงคลกิตติ์' ประกาศ 5 ส.ส.พรรคเล็ก เป็นฝ่ายค้านอิสระ

'มงคลกิตติ์' ประกาศ 5 ส.ส.พรรคเล็ก เป็นฝ่ายค้านอิสระ

หัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ ประกาศ 5 ส.ส.พรรคเล็ก เป็นฝ่ายค้านอิสระ หลังถูกรบ.ขวางการตรวจสอบในสภาฯ -ไม่ให้สิทธิร่วมบริหาร

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธรานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศิวิไลย์ ประกาศจุดยืนในส่วนของ ส.ส.5 พรรคเล็กซึ่งเคยประกาศร่วมรัฐบาล ประกอบด้วย พรรคไทยศิริไลย์, นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรรคประชาธรรมไทย, พรรคประชาธิปไตยใหม่, พรรคครูไทยเพื่อประชาชน, พรรคพลังไทยรักไทย ประกาศของเป็นฝ่ายค้านอิสระ หลังจากที่พบว่าการทำงานร่วมรัฐบาล ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา พบความบาดหมาง ต่อประเด็นที่ถูกห้ามทำงานตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ผ่านการตั้งกระทู้ และ การอภิปรายในนโยบายของรัฐบาล อย่างไรก็ตามกรณีที่ประกาศตัวดังกล่าวไม่ใช่เพื่อต่อรองหรือเรียกร้องผลประโยชน์ แต่คือการทำงานที่ไม่มีความเป็นอิสระ อย่างไรก็ตามตนและพรรคที่ประกาศเป็นฝ่ายค้านอิสระพร้อมทำงานตรวจสอบรัฐบาลที่มีข้อผิดพลาดทันที ทั้งการตั้งกระทู้ ยื่นญัตติ และสนับสนุนให้พรรคฝ่ายค้านยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล

“ผมพร้อมสนับสนุนพรรคฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติ หรือ ตรวจสอบรัฐบาล หากพบว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องและรัฐบาลมีพฤติกรรมที่ทำผิดจริง เช่น การจัดซื้อเครื่องบิน การแต่งตั้งบุคคลที่ไม่มีความเหมาะสมดำรงตำแหน่งข้าราชการระดับสูง รวมถึงกรณีที่นายกฯ กล่าวคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนปฏิบัติหน้าที่ไม่ครบถ้อยคำ ที่ผมมองว่าถือเป็นความรับผิดชอบของพล.อ.ประยุทธ์​ที่ต้องลาออกจากตำแหน่งโดยทันที” นายมงคลกิตติ์ กล่าว

นายมงคลกิตติ์ กล่าวย้ำด้วยว่าสำหรับความหมางใจที่เป็นฟางเส้นสุดท้าย คือ การไม่ได้รับเกียรติจากนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ไม่รักษาคำพูดโดยเฉพาะการขาดตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปขับเคลื่อนนโยบายในฝ่ายบริหาร ส่วนที่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวคือการต่อรองของตำแหน่งและเรียกผลประโยชน์นั้น ตนยืนยันว่าไม่มีประเด็นดังกล่าว อย่างไรก็ตามตำแหน่งในฝ่ายบริหารนั้น ตนไม่ขอรอรัฐบาลชุดปัจจุบันและพร้อมรอรัฐบาลชุดหน้าจะดีกว่า ส่วนตำแหน่งประธานกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎรนั้นถือเป็นคนละส่วนในฝ่ายบริหาร ทั้งนี้ตนไม่พร้อมคุยกับแกนนำของพรรคพลังประชารัฐใดๆ ทั้งสิ้นเพราะยืนยันในความเห็นแล้ว ซึ่งเหมือนกับแก้วที่ร้าวไม่สามารถต่อเป็นแก้วที่สวยงามได้อีก