'รัฐสภาใหม่' ส่อเค้าขยายสัญญาก่อสร้างให้ 'ซิโน-ไทย' รอบ4

'รัฐสภาใหม่' ส่อเค้าขยายสัญญาก่อสร้างให้ 'ซิโน-ไทย' รอบ4

เลขาธิการสภาผู้แทนฯ เผย "รัฐสภาใหม่" ส่อเค้าขยายสัญญาก่อสร้างให้ "ซิโน-ไทย" รอบ 4 ด้านงานติดตั้งระบบไอทีงบ3พันล้านเสร็จสมบูรณ์มิ.ย.63

นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าการก่อสร้างอาคารรรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ย่านเกียกกาย ว่า คืบหน้ากว่า 60 เปอร์เซ็นต์ โดยส่วนโครงสร้างอาคารเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือคืองานตกแต่งภายในที่ต้องรอสถาปนิกของบริษัทซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เข้าดำเนินการ โดยการตกแต่งภายในดังกล่าวต้องทำควบคู่กับการติดตั้งระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและสาธารณูปโภค ที่มีบริษัทแอ็ดวานซ์ อินเฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอที เป็นผู้ดำเนินการ อย่างไรก็ตามในการก่อสร้าง ตกแต่งภายในและติดตั้งระบบไอซีทีนั้นตนพยายามประสานให้ทั้ง 2 บริษัทดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว แต่เชื่อว่าจะทำไม่แล้วเสร็จได้ทันตามกรอบสัญญาจ้างรอบที่ 3 ที่กำหนดให้บริษัทซิโน-ไทยฯ ดำเนินก่อสร้างและตกแต่งภายในให้แล้วเสร็จ 31 ธันวาคม 2562

นายสรศักดิ์​ กล่าวด้วยว่ามีความเป็นไปได้ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ต้องขยายสัญญาจ้างบริษัทซิโน-ไทยฯ ออกไป เพราะขณะนี้ยอมรับว่ามีความล่าช้าต่อการติดตั้งระบบไอซีทีและระบบสาธารณูปโภค ของบริษัทเอไอที ที่สัญญาจ้างจะครบกำหนดช่วงเดือนมิถุนายน 2563 ส่วนจะขยายเวลาให้จำนวนเท่าใดนั้นเบื้องต้นต้องรอให้บริษัทซิโน-ไทยฯ เป็นผู้นำเสนอตัวเลข จากนั้นคณะที่ปรึกษาและติดตามการก่อสร้างของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรต้องพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง ดังนั้นตนตอบไม่ได้ว่าจะขยายสัญญาบริษัทก่อสร้างให้เท่ากับบริษัทเอไอทีหรือไม่

"สำหรับสัญญารับจ้างของบริษัทเอไอทีนั้น สำนักงานฯ​ใช้งบประมาณจัดจ้างทั้งหมด 3,351 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 580 วัน เริ่มตั้งแต่ 20 กุมภาพันธ์ 2562 และสิ้นสุดสัญญา ช่วงมิถุนายน 2563 โดยตามสัญญาจะติดตั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องประชุมทั้ง 2 สภา, ระบบรักษาความปอลดภัย, ศูนย์ข้อมูล รวมถึงระบบสาธารณูปโภคทั้งหมด ซึ่งผมพยายามเร่งรัดให้ผู้รับจ้างทำให้เสร็จโดยเร็ว แต่คงไม่ทันการเปิดประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกประธาน, รองประธานของทั้ง2 สภา และนายกรัฐมนตรี" นายสรศักดิ์ กล่าว

เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวด้วยว่าสำหรับสถานที่ที่จะใช้ประชุมชั่วคราวเพื่อดำเนินกระบวนการเลือกประธานสภาฯ , ประธานวุฒิสภา และรองประธานของทั้ง 2 สภา นั้นจะใช้ที่ห้องประชุมบริษัททีโอที โดยภายในสัปดาห์หน้าตนจะทำสัญญาเช่ากับบริษัททีโอที เป็นเวลา 1 เดือน แต่ก่อนการทำสัญญาเช่าต้องต่อรองเรื่องราคาค่าเช่า ที่บริษัททีโอที เสนอเดือนละ 11 ล้านบาท เพราะสำนักงานฯ ต้องการเช่าเฉพาะบางพื้นที่ไม่ใช่เช่าทั้งตึก และหลังจากเลือกประธาน, รองประธานของทั้ง 2 สภาแล้วเสร็จ ตนจะหารือกับประธานรัฐสภาอีกครั้ง ต่อข้อเสนอที่จะใช้ห้องประชุมสุริยันเพื่อประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีพื้นที่ที่รองรับ ส.ส.ได้ 500 คน