'สุวัจน์' ยึดแนว 'ชาติชาย' ก่อนเลือกตั้งคือการเมือง หลังเลือกตั้งเพื่อบ้านเมือง

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) ขึ้นเวทีปราศรัย พร้อมเปิดตัวกลุ่มผู้สมัคร ส.ส.หญิง ภายใต้ สโลแกนกลุ่ม "ตัวแม่ แก้ปัญหา" และ กลุ่มผู้สมัคร ส.ส.คนรุ่นใหม่ชสย-หญิง" ชื่อกลุ่ม Gen-C  อาทิ นางเยาวภา บุรพลชัย บางแค เบอร์ 8 , นายชนภัทท์ จันทรุเบกษา ดอนเมืองเบอร์ 5 , น.ส.อัครวรรณ เจริญผล ผู้สมัครบัญชีนายชื่ออันดับที่ 8 พรรคชาติพัฒนา , นายไพลิน ชดช้อย บางนา-พระโขนงเบอร์ 18 นายปริญญา มานวงค์ คลองสามวา เบอร์ 9 , นายกันตชนม์ ศิวะพิมล มีนบุรี-คันนายาว เบอร์ 9 นาย ภัทรพล แก้วสกุณี เขต 3 ปทุมธานี เบอร์ 1 , นาย พนมกร กิจโพธิญาณ เขต 1 ราชบุรี เบอร์ 7 ,นายณภูพรรษ์ คล้ายแก้ว เขต 1 อ่างทอง เบอร์ 13

โดย นายสุวัจน์ ประธานที่ปรึกษาพรรค กล่าวปราศรัยระบุว่า พรรค ชพน.ส่งผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 29 เขต โดยนำเสนอนโยบาย "9 สมาร์ท Bangkok No problem"  ซึ่งคิดว่าวันนี้เราจะทำอย่างไรที่นำนโยบายถึงมือพี่น้องกรุงเทพฯ โดยพรรค ชพน.ถือเป็นพรรคน้องใหม่ที่เสนอตัวเป็นทางเลือกให้คนกรุงเทพฯ  หากท่านได้ลองแล้วจะติดใจ ทั้งเรื่องความขยัน , ความจริงใจ และนำพัฒนาการกรุงเทพฯให้เป็นสมาร์ทซิตี้

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า ช่วงนี้การเมืองเข้มข้น เป็นการเลือกตั้งที่คาดการณ์ยากว่าจะเป็นทิศทางใด เพราะจะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ 7-8 ล้านคนหรือ Voter จะเข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตั้งจำนวนมาก และขณะนี้ก็ยังกระแสสังคมที่จะปฏิรูปการเมือง

อย่างไรก็ดี พรรค ชพน. ก็จะยึดหลักการทำงานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ในเรื่องที่ว่า ก่อนการเลือกตั้งเป็นเรื่องของการเมือง แต่หลังเลือกตั้งเป็นเรื่องบ้านเมือง คือก่อนการเลือกตั้งเราอาจสู้กันในพื้นที่เพื่อให้ได้รับเลือก แต่หลังเลือกตั้งแล้วทำงานเพื่อบ้านเมืองแม้คนหนึ่งเป็นรัฐบาล อีกคนเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็สามารถทำงานร่วมกันได้ พูดคุยกันได้ นโยบายอะไรดีนำมาพัฒนา อย่างในอดีตเมื่อ พล.อ.ชาติชาย เป็นนายกฯ และ พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก พรรคปวงชนชาวไทย ที่เป็นฝ่ายค้านเคยยกมือสนับสนุนการออกกฎหมายฝ่ายรัฐบาลที่เห็นว่าทำเพื่อบ้านเมือง ก็เป็นการสร้างบรรยายกาศที่ดีทางการเมืองร่วมกัน โดยในยุคของ พล.อ.ชาติชาย เน้นการทำงานในหลักความคิดของผู้ใหญ่ที่แยกกันออกระหว่างการเมืองกับบ้านเมือง และยังมีวิสัยทัศน์ในการสร้างคนรุ่นที่สอง เป็นหัวขบวนในการทำงานประเทศชาติต้องการคนรุ่นที่ 2 คนหน้าใหม่ทางการเมือง ในยุคนั้นก็มีคนรุ่นอายุไม่ถึง 40 ปีร่วมงานเช่น ตนเคยเป็น รมช.คมนาคม , นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย , นายบวรศักดิ์ อุวรรณโน ที่มาช่วยกันดูเรื่ิองเศรษฐกิจ เป็นต้น 

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า วันนี้เป็นกระแสสังคมที่อยากเห็นคนรุ่นใหม่เข้ามามีบทบาททางการเมือง พรรคเราต้องการให้คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง จึงปรับบทบาทของตัวเองมาเป็นที่ปรึกษา และเปิดโอกาสให้คนทำงานรุ่นใหม่เข้ามาทำงาน เพื่อผสมผสานกัน กับคนรุ่นเก่า เพราะงานการเมืองเป็นการทำงานหลายมิติ คนรุ่นเก่ามองหลายมุม ได้ทั้งเศรษฐกิจและสังคม ส่วนคนรุ่นใหม่มีแนวคิดใหม่

ดังนั้นพรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคแรกๆ ปรับโครงสร้างพรรคที่มีผู้ใหญ่เป็นที่ปรึกษา มีคนรุ่นใหม่เป็น ซีอีโอมาร่วมบริหาร อีกทั้งรัฐธรรมนูญ สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่เข้ามารัฐธรรมนูญ ออกแบบให้ทุกคะแนนมีความหมาย พรรคใหม่-คนรุ่นใหม่ได้เกิดทางการเมือง ซึ่งรัฐธรรมนูญฯ ใหม่นี้เปรียบทุกคะแนนเสียง ได้ว่าเป็นเหมือนดัมมี่ ที่ไม่ถูกน็อกมืด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังปราศรัยเสร็จสิ้นแล้ว กลุ่มผู้สมัคร ส.ส.หญิง และกลุ่มผู้สมัคร ส.ส.คนรุ่นใหม่ Gen C ได้เปิดตัวพร้อมนโยบายหาเสียง โดยกลุ่ม "ตัวแม่แก้ปัญหา" ชูนโยบาย 5 ด้านที่จะสนับสนุนแก้ปัญหาและช่วยเหลือผู้หญิง เบื้องต้น 5 ประเด็น คือ

1. จ้างงานตัวแม่ ที่จะสร้างความทัดเทียมในการจ้างงาน

2. ตัวแม่ติดอาวุธ คือการเสริมสร้างทักษะความรู้ ความสามารถในสายอาชีพเพื่อเพิ่มรายโดยให้ร่วมกับภาครัฐ-ภาคเอกชน ทุนธุรกิจ มหาวิทยาลัย จัดอบรมทักษะฝีมือแรงงาน

3.ตัวแม่ไฮเทค ก็จะจัดศูนย์อบรมด้านเทคโนโลยีและด้านนวัตกรรม ให้ผู้หญิงเรียนฟรี กลุ่มเป้าหมายแรกคือแรงงานนอกระบบ , แม่บ้าน กลุ่ม work from home และกลุ่มคนภาคเกษตรกรรม ที่สามีอาจออกไปทำการเกษตร แต่ส่งเสริมให้ภรรยามีความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อสร้างเว็บไซต์ , แอพพิเคชั่น เป็นช่องทางส่งเสริมการขายได้ เป็นต้น

4.ตัวแม่ปกครองท้องถิ่น จะเป็นกานกระจายอำนาจสตรีกลับสู่ท้องถิ่น ที่จะให้ผู้หญิงมีส่วนร่วมในการงานการพัฒนาท้องถิ่น ในคณะกรรมการใดเป็นต้น โดยจะให้กำหนดสัดส่วนผู้หญิงอยู่ด้วยตามความเหมาะสม

5.ตัวแม่หมดห่วง ที่จะให้การอุดหนุนค่าใช้จ่ายภาคการศึกษา สำหรับครอบครัวที่มีรายได้น้อยต่ำกว่า 15,000 บาท/เดือน ให้อุดหนุนด้านการศึกษาของบุตรให้เดือนละ 1,000 บาทจนจบการศึกษาชั้นมัธยม และในวันศุกร์ 15 มี.ค.นี้ เวลา 11.00 น. "กลุ่มตัวแม่แก้ปัญหา" จะไปพบปะพี่น้องประชาชนช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่สกายวอร์ค  บีทีเอสสถานีช่องนนทรีด้วย โดยพร้อมจะเปิดรับฟังปัญหาอย่างเป็นทางการ เพื่อนำปัญหามาขับเคลื่อนเป็นนโยบายต่อไป

ขณะที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ หรือ "กลุ่ม GEN-C" เป็นการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ทั้งชาย-หญิงที่อยากจะมีส่วนในการพัฒนาประเทศ และพื้นที่ชุมชนเขตต่างๆ ด้วยการใช้ความสามารถความรู้ของแต่ละคนที่มีเป็นจุดแข็ง ซึ่งมีทั้งสิ้น 11 คน พร้อมกับคำ 11 คำ ที่แสดงศักยภาพและจะนำมาใช้เป็นเป้าหมายในการพัฒนาประเทศด้วย คือ Community , Creativity , Collaboration , Combination , Critical Thinking , Coach , Cleanliness , Courage , Communication , Culture , Cyber