'สนธิรัตน์' ยัน พปชร.ไม่ยุ่งกลไก ส.ว.250 เสียง เลือกนายกฯ

'สนธิรัตน์' ยัน พปชร.ไม่ยุ่งกลไก ส.ว.250 เสียง เลือกนายกฯ

"สนธิรัตน์-อุตตม" ประสานเสียงย้ำจุดยืน พปชร.เคารพกติกาพรรคจะตั้งรัฐบาลได้ต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทน เชื่อ 250 ส.ว.มีวิจารณญาณเอง ไม่เกี่ยว คสช.เลือกมา

เมื่อวันที่ 25 ก.พ.62 ที่พรรคพลังประชารัฐ ถ.รัชดาภิเษก 54 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พปชร. ได้ตอบคำถามสื่อประเด็นที่ถูกโจมตี เรื่อง ส.ว.250 เสียงว่า หลังจากเริ่มมีการลงพื้นที่หาเสียงก็มี 2 ประเด็นสำคัญหลักที่เป็นเรื่องต่อเนื่องกันมา ประเด็นแรกคือความเป็นประชาธิปไตย กับไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งตนเคยพูดไปแล้วแต่ขอพูดซ้ำอีกครั้งว่า จุดยืนของพรรคเคารพในเรื่องประชาธิปไตย และการได้ลงสู่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ว่าผู้นำของพรรคจะเป็นใครก็ตาม ก็คือการเคารพเสียงของประชาชนในการลงมติเลือก ส.ส.เลือกพรรคการเมือง เลือกผู้นำของเขา ดังนั้นพรรคจึงไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีวาทกรรมกล่าวหาจะเป็นประชาธิปไตย หรือไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะจะเป็นรากความขัดแย้งตั้งแต่เริ่มต้นของการเข้าสู่การเลือกตั้ง

โดยพรรคเห็นว่าขณะนี้ทุกคนกำลังเข้าสู่ประชาธิปไตย นำประเทศเข้าสู่ประชาธิปไตย และพรรค พปชร.ก็เป็นหนึ่งในพรรคที่อาสาตัวเองที่จะเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยตามกลไกของรัฐธรรมนูญที่เราให้ความเชื่อมั่นในการเดินหน้าของประเทศไทย ภายใต้การเปลี่ยนผ่านประเทศ ดังนั้น เราจึงยืนยันจุดยืนการเดินหน้าสู่ประชาธิปไตย อย่าไปเอาเรื่องการสืบทอดอำนาจรัฐประหารมาพูด เพราะพรรค พปชร.ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลไกการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมืองที่ผ่านมา แต่เมื่อระบอบประชาธิปไตยกำลังเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองต่างๆได้เกิดขึ้นเพื่อที่จะเปลี่ยนผ่านประเทศ พรรค พปชร.จึงเดินหน้าเข้าสู่กลไกนั้นตามระบอบของประชาธิปไตย และไม่ได้มีสิ่งใดที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

ขณะที่เราอยากให้ทุกพรรค มาใช้กลไกของการสร้างนโยบาย สร้างสิ่งที่ตนเองจะทำให้กับประเทศโดยมีผลงานที่จะทำให้กับประเทศนั้นเป็นตัวตั้ง ในการเดินหน้าประเทศไทยไปด้วยกัน ส่วนเรื่องของ 250 ส.ว. ที่บอกว่าพรรค พปชร. เป็นพรรคที่มีกลไกนี้ ตนขอเรียนว่าเรื่องของ ส.ว.นั้นเป็นกลไกที่เกิดก่อน ที่จะมีพรรค พปชร. ซึ่งเรื่องของ ส.ว. เป็นกลไกตามรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการลงมติเห็นชอบของประชาชน 13.9 ล้านเสียง มาแล้วที่เห็นด้วยจะให้มีกลไก ส.ว. ต่อการเลือกนายกรัฐมนตรีช่วงเปลี่ยนของประเทศ สร้างสมดุลกรณีที่บ้านเมืองเกิดความขัดแย้งเป็นรากฐานอยู่

ส่วน พรรค พปชร. ก็เข้า สู่กติกาและเราก็เคารพกติกา และคิดว่าถ้าเราไปวิพากษ์วิจารณ์กติกาตั้งแต่เริ่มต้นก็จะเริ่มนับหนึ่งไม่ได้ อย่างไรก็ดียืนยันว่า พรรค พปชร.ไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่อง 250 ส.ว. เพราะเป็นเรื่องกระบวนการที่อยู่นอกพรรค เป็นกระบวนการของการสรรหา ซึ่งจะเป็นอย่างไรนั้น วันนี้ก็ยังไม่เห็นตัวบุคคลว่า 252 นั้นจะเป็นใครบ้าง ก็ยังไม่มีใครรู้ และบุคคลเหล่านั้นก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคโดยตรง

อย่างไรก็ดี กลไกของการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินการหลังเลือกตั้ง โดยจุดยืนของพรรค พปชร. คือเคารพในกติการัฐธรรมนูญ ขณะที่พรรคมีจุดยืนเห็นว่ารัฐบาลจะต้องมีเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร เพราะการดำเนินการทางสภานั้นเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล โดยพรรค พปชร. มีความมุ่งมั่นหากเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลก็จะต้องมีเสียงสนับสนุนในสภาผู้แทนราษฎร มากกว่ากึ่งหนึ่ง 250 เสียง ส่วนกลไกกระบวนการเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เป็นกลไกที่นอกเหนือกรอบของพรรค พปชร. โดยเป็นกลไกของรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นหน้าที่ของทั้งสองสภาที่จะพิจารณา

"วันนี้ขอเรียนให้ชัดเจนว่า การที่กล่าวว่าจะเอา 252 มาเป็นกลไกของพลังประชารัฐนั้นพลังประชารัฐไม่ได้มีส่วนร่วมในกลไก จุดยืนของเราคือการดำเนินการที่จะให้รัฐบาลนั้นเข็มแข็งด้วยการที่มีเสียงข้างมากในในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเราทุกฝ่ายก็จะเดินไปตรงนั้น และอย่าเพิ่งพูดอะไรไปข้างหน้าที่เราไม่รู้เลยว่าะไนจะเกิดขึ้นในเรื่องของ ส.ว. ซึ่งพรรคเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครจะเป็น ส.ว.จะเป็นเพราะไม่ใช่หน้าที่ของพรรคพลังประชารัฐ"

นายสนธิรัตน์ เลขาธิการพรรค พปชร. ยังตอบคำถามสื่อมวลชนด้วยว่า ถ้าหากพรรคจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล พรรคก็จะต้องมีเสียงสนับสนุนจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมากเพียงพอที่จะมีความมั่นคงในการเป็นรัฐบาล เมื่อถามว่าแต่สุดท้ายคสช.จะเป็นคนเลือก ส.ว.แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ หัวหน้า คสช.ก็ถูกเสนอบัญชีชื่อนายกฯ ในการเลือกตั้งครั้งนี้ด้วยแล้วคิดเห็นอย่างไร "นายสนธิรัตน์" กล่าวว่า ส่วนตัวตนเคารพในกลไกและก็เชื่อว่าคนที่จะมาเป็น ส.ว.ก็เป็นคนคุณภาพ และก็เชื่อว่าคนที่เป็น ส.ว.จะมีคุณสมบัติ มีวิจารณญาณ เราอย่าไปมองว่าคนเหล่านั้นจะเป็นคนที่ไม่มีคุณภาพ เพราะจะไม่เป็นธรรมต่อสถาบันที่กำลังจะเกิดขึ้นเราต้องให้ความไว้วางใจและเชื่อมั่นว่าสวที่จะเกิดขึ้นเขาก็จะมีดุลพินิจของเขา

เมื่อถามว่าถึงความเป็นไปได้ในการจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ก็อยู่ที่พี่น้องประชาชน ทุกอย่างที่เกิดขึ้นก็แล้วแต่ เราต้องเคารพในเสียงของพี่น้องประชาชน จุดนั้นจะนำไปสู่การจัดตั้งเป็นรัฐบาลต่อไป เมื่อถามถึงผลโพลต่างๆ ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่าคะแนนเสียงของพรรคเหมือนจะลดลง "นายสนธิรัตน์" เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า เรื่องโพลก็เป็นสิ่งที่พรรครับฟัง แต่ถ้าได้สังเกตดูจะเห็นว่าโพลต่างๆ นั้นก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตามเวลาตามสถานการณ์ ขณะที่พรรคเองก็มีวิธีทำโพลของตัวเอง อย่างไรก็ดีพรรคก็เคารพทุกโพล แม้ว่าโพลนั้นจะออกมาเป็นผลลบ พรรคก็จะเอามาเป็นข้อมูลดำเนินการในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ ซึ่งพรรคจะต้องนำเสนอนโยบาย เพื่อให้พี่น้องประชาชนมอบความไว้วางใจ ขณะที่พรรคเองก็เห็นว่ายังมีคนอีกมากกว่า 50% ที่ยังไม่ได้ตัดสินใจในการเลือกตั้งครั้งนี้ซึ่งพรรคก็ยังทำงานหนักให้ดีที่สุดในช่วงเวลาที่เหลืออยู่

ขณะที่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวเสริมถึงจุดยืนของพรรคด้วยว่า จุดยืนของพรรคเรากำลังบอกว่า หากผลเลือกตั้งออกมาแล้วถ้ามีพรรคไหนที่สามารถรวบรวมเสียงได้เกินกว่าครึ่งหนึ่ง คือ 250 เสียงก็ย่อมที่จะมีโอกาสที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้ ส่วน ส.ว.250 คนจะเป็นอย่างไรก็ยังไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นใครบ้าง ซึ่งยืนยันว่าพรรค พปชร.ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเสียงของประชาชน 1 เสียงก็มีสิทธิเท่ากันหมด