ย้ำกระทรวงการอุดมฯ เน้นรวม3ศาสตร์

ย้ำกระทรวงการอุดมฯ เน้นรวม3ศาสตร์

"สุวิทย์" เชื่อ3ศาสตร์ "วิทย์ สังคม มนุษย์ฯ" ลงตัวชี้มนุษย์สมบูรณ์ ไม่ได้สร้างได้ด้วยวิทยาศาสตร์อย่างเดียว ระบุชื่อกระทรวงใหม่ ตั้งให้ยาวทั้งหมดไม่ได้ ย้ำอาจารย์ในมหาวิทยาลัย เป็นหลักสร้างสมดุล ไม่ใช่กระทรวงวิทยาศาสตร์หรือกระทรวงใหม่

กรณีที่นักวิชาการด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์แสดงความห่วงใยว่ากระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จะให้ความสำคัญกับงานด้านวิทยาศาสตร์ จนละเลยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ทั้งเห็นว่าประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ควรเป็นคนที่เข้าใจงานการอุดมศึกษา และไม่ใช่คนที่จะเล่นการเมืองนั้น

วันนี้ (21ม.ค.) นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยถึงว่า คิดว่านักวิชาการด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะโดยส่วนตัวมีความเชื่อในความลงตัวของ 3 ศาสตร์ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ และมนุษยศาสตร์ เพราะการเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ หรือการสร้างประเทศของเรา ไม่ได้สร้างได้ด้วยวิทยาศาสตร์อย่างเดียว ต้องบูรณาการทั้ง 3 ศาสตร์เข้าด้วยกัน เพียงแต่ว่าชื่อกระทรวงใหม่ จะตั้งให้ยาวทั้งหมดคงไม่ได้ การจะสร้างคนและประเทศ ต้องอาศัยทั้งวิทยาศาสตร์ที่เป็นรูปธรรม และความดี ความงาม ความจริง ที่เป็นนามธรรมเข้ามาด้วย เพราะฉะนั้นการที่โลกเราเปลี่ยนไปในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ภูมิเศรษฐกิจ จำเป็นต้องอาศัยสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์อีกมาก หรือการถอดรหัสปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นความลึกซึ้งที่ต้องมีการทำวิจัยมากกว่านี้

"สำหรับผม ไม่ใช่ผมเป็นรมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแล้ว เน้นแต่วิทยาศาสตร์ เพียงแต่ว่าน้ำหนักที่ตอนนี้ให้ความสำคัญในการจัดทัพในช่วงต้น มันอาจจะไม่อาจจะแยกออกเป็น 3 ศาสตร์ ก็ขอนำมารวมกันไว้ก่อน และใช้ชื่อรวมๆกันไปก่อน และผู้ที่จะเป็นหลักในการสร้างความสมดุลให้กับทั้ง 3 ศาสตร์ก็คือ อาจารย์ในมหาวิทยาลัย ไม่ใช่กระทรวงวิทยาศาสตร์ หรือ กระทรวงใหม่ มหาวิทยาลัยมีการวิจัยใน 3 ศาสตร์นี้อยู่ไม่น้อย อยู่ที่โจทย์วิจัย เช่น เราจะอยู่อย่างไรในอาเซียน หรือเมื่อเราเป็นไทยแลนด์ 4.0 แล้ว จะไปเชื่อมต่อกับ เส้นทางสายไหมในศตวรรษที่21 หรือ One Belt One Road อย่างไร ซึ่งจะต้องใช้สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์มาช่วย ส่วนการจัดทัพ โครงสร้าง เป็นเรื่องภายหลัง เพียงแต่ตอนนี้เอาง่ายๆ เอาเท่าที่มีก่อน และในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ก็อาจจะต้องเปลี่ยนอีกมาก สังคมศาสตร์ก็เป็นโจทย์ที่อาจจะต้องเป็นโจทย์ใหม่ๆ เป็นทั้งโจทย์ที่แก้ปัญหาที่มีอยู่ โจทย์ของการดึงตัวตนของความเป็นไทยดึงศักยภาพคนไทยออกมา รวมถึงโจทย์ของการรับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต เป็นต้น” นายสุวิทย์ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับความคืบหน้าของคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ขณะนี้อยู่ในมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะทำแผนแม่บทสำหรับการเปลี่ยนแปลง มีกระบวนการในการทำงานร่วมกัน ความเชื่อมโยงระหว่างกระทรวงการอุดมฯกับกระทรวงอื่นๆ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ส่วนจะออกมาได้เมื่อไรนั้น ขึ้นกับนายกฯ ส่วนประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนฯ ซึ่งมีข่าวว่าเป็นประธานนั้น ตนยังไม่ทราบ อาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะต้องไปลงการเมือง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับนายกฯ