คืบหน้าตึก 4 ชั้นย่านรามคำแหง ขณะกำลังรื้อถอนถล่ม

คืบหน้าตึก 4 ชั้นย่านรามคำแหง ขณะกำลังรื้อถอนถล่ม

ตึกร้าง 4 ชั้นย่านรามคำแหง ขณะกำลังรื้อถอนถล่ม ชาวบ้านเดินผ่านถูกเศษอิฐ ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

เมื่อเวลา 13.50 น. วันที่ 7 มกราคม 2562 ร.ต.ท.หญิง ศศิพันธ์ คงเอียด รอง สว.(สอบสวน) สน.หัวหมาก ได้รับแจ้งเหตุตึกถล่มบริเวณปากซอยรามคำแหง51/2 ถนนรามคำแหงขาออก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้านครหลวง เจ้าหน้าที่เขตบางกะปิ

 

ที่เกิดเหตุอยู่ปากซอย พบอาคารไม่มีเลขที่ สูง 4 ชั้น เนื้อที่ 4 คูหา เป็นตึกร้าง ได้ถล่มลงมาโดยมีเศษวัสดุตกลงมาในฟุตบาท นอกจากนี้ยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย คือ 1.น.ส.โสภิตา ทองเกิด อายุ 23 ปี , 2.น.ส.นภาพร ศรีบุญเรือง อายุ 54 ปี เป็นประชาชนเดินริมถนนถูกเศษอิฐเศษปูนหล่นใส่ เจ้าหน้าที่จึงลำเลียงนำตัวผู้บาดเจ็บส่งไปรักษาอาการที่โรงพยาบาล เบื้องต้นอาการปลอดภัย

 

จากการสอบสวน น.ส.เอ (นามสมมติ)  อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า จุดดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้ปิดล้อมเอาไว้ เพื่อทำการรื้อถอนก่อสร้างเป็นปล่องรถไฟใต้ดินสถานีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ก่อนหน้านี้ได้ทำการเวนคืนตึกดังกล่าว ซึ่งปล่อยทิ้งไว้ เริ่มดำเนินการในเดือนธ.ค.60  มีการส่งรถแบ็กโฮขนาดเล็ก เข้ามารื้อถอนผนังอาคารด้านหลัง ตั้งแต่ธ.ค.แล้ว จากนั้นในช่วงนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮขนาดใหญ่ เข้ามาเพื่อทำการรื้อถอนส่วนที่เหลือ และเริ่มดำเนินการเมื่อวานนี้ (6ม.ค.) เป็นวันแรก  ก่อนที่จะพังถล่มลงมา ซึ่งขณะนี้เกิดเหตุคนงานจำนวน 9 คน กำลังทุบตึกร้อถอนจากด้านใน แต่ตัวระเบียงแผ่นปูนของชั้น 2 รับแรงกระแทกไม่ไหว จึงหลุดลงมากระแทกกันสาดและถล่มลงมา โดยระหว่างรื้อถอนนั้น ทางเดินฟุตบาทหน้าอาคารไม่อนุญาตให้มีคนเดินผ่านโดยเด็ดขาด ต้องไปเดินตรงถนน ซึ่งขณะเกิดเหตุผู้บาดเจ็บอยู่ระหว่างเดินผ่าน จึงถูกเศษซากตกใส่

 

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำพยานทุกคน และทางเจ้าหน้าที่เขตบางกะปิ ได้สั่งให้หยุดดำเนินการรื้อถอนชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด จนกว่าจะมีคำสั่งจากเขตว่า จะให้เริ่มดำเนินการเมื่อใด ตอนนี้จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจว่า โครงสร้างอาคารทั้งหมด รวมถึงอาคารใกล้เคียงที่ได้รับผลกระทบ ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งสอง สามารถเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้รับผิดชอบโครงการได้  ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ จะทำการตรวจสอบว่า การรื้อถอนนั้นทำถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่  ส่วนการแจ้งข้อหานั้น จะต้องทำสอบปากคำทุกฝ่าย เพื่อหาข้อเท็จจริงก่อน จากนั้นจึงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

  

ทางด้าน นายธวัตรชัย ทวิติยกุล เจ้าหน้าที่ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตบางกะปิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างอาคารชุดที่พังถล่มลงมา พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ในช่วงที่ผู้รับเหมาทำการรื้อถอนด้านหลังของอาคาร ทำให้ตัวอาคารเกิดการสั่นสะเทือน ก่อนที่ชิ้นส่วนของอาคารบริเวณชั้น 3 หล่นลงมาทับระเบียงที่ยื่นออกมาด้านหน้าอาคารบริเวณชั้น 2 ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ก่อนที่จะดำเนินการรื้อถอน มีการนำแผ่นสังกะสีมาปิดกั้นพื้นที่ความสูงมากกว่า 3 เมตร ตามมาตรฐานของการรื้อถอนอาคาร แต่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุการพังถล่มของอาคาร เพราะต้องตรวจสอบพื้นฐานของโครงสร้างอาคาร และสั่งห้ามดำเนินการรื้อถอนอาคารเป็นการชั่วคราวแล้ว