ยธ.ชี้ยาเสพติดปี 62ยังหนักทะลักเข้าไทยทุกช่องทาง ไม่มีจังหวัดใดปลอดยาเสพติด ชี้สามเหลี่ยมทองคำยังเป็นแหล่งผลิตอันดับ 2 ของโลก
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดประชุมเชิงปฎิบัติการชี้แจงแผนป้องกันปราบปรามและบำบัดรักษายาเสพติดปี 2562 โดยระบุว่าสถาน การณ์ยาเสพติดในขณะนี้มีแนวโน้มสูงขั้นเรื่อยๆและไทยยังเป็นพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในการผลิต และลำเลียงยาเสพติดไปยังภูมิภาคอื่นๆทั่วโลก สามเหลี่ยมทองคำเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดอันดับ 2 ของโลก ที่ผ่านมารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหากำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติและวาระแร่งด่วน แต่ยังไม่พบว่ามีจังหวัดใดในประเทศสามารถประกาศตัวได้ว่าเป็นพื้นที่ปลอดจากยาเสพติดอย่างแท้จริง จะมีเพียงหมู่บ้านหรือชุมชนสีขาวบางแห่งเท่านั้น ปัจจุบันพื้นที่ภาคเหนือยังต้องเผชิญหน้ากับยาเสพติดข้ามแดน รวมถึงภาคอีสานตั้งแต่ จ.นครพนมจนถึงอุบลราชธานี จังหวัดชายทะเลจนถึงอ่าวไทยและอันดามันจรดถึงประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมาแม้จะมีการตรึงพื้นชายแดนเข้มงวดเพิ่มประสิทธิภาพงานการข่าวแต่ยาเสพติดยังทะลักเข้ามาทุกเส้นทาง ทั้งทางบก ทางเรือ ทางอากาศ และยังมีการลักลอบนำสารตั้งต้นเข้ามาผลิตยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจึงขอให้แต่ละจังหวัดทำแผนยุทธศาสตร์ป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดเพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยงานด้านความมั่นคงเพื่อลดความต้องการและปริมาณในการเสพ ซึ่งรัฐบาลพร้อมสนับสนุนงบประมาณ เครื่องมือและกำลังพลในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนข้อเรียกร้องให้นำพืชเสพติดมาใช้ประโยชน์เพื่อการวิจัยทางการแพทย์นั้น แม้ในบางประเทศจะอนุญาตให้ใช้เพื่อความบันเทิงภายใต้การกับดูแล ขอชี้แจงว่าในกลุ่มอาเซียนยังไม่มีประเทศใดที่ยาเสพติดถูกกฎหมาย ในส่วนของประเทศไทยได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขและองค์การอาหารและยา(อย.) ร่วมกันรับผิดชอบกฎหมายเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากพืชเสพติด ซึ่งขณะนี้เริ่มมีความชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามกฎหมายดังกล่าวถูจับตาจากสังคมและต้องยอมรับว่ายังมีความหวาดกลัวถึงผลกระทบ ดังนั้นก่อนตัดสินใจจึงต้องทำให้ทุกกลุ่มในสังคมเข้าใจถึงเป้าหมายว่าพืชเสพติดจะใช้เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์เท่านั้น โดยไม่ปล่อยให้ยาเสพติดถูกกฎหมายแน่นอน
ด้าน นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.) กล่าวถึงแผนบริหารจัดการยาเสพติดในพื้นที่ภาคเหนือว่า ขณะนี้ปปส.ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1-4 และประเทศเพื่อนบ้าน เปิดแผนปฏิบัติการตั้งด่านสกัดยาเสพติดในพื้นที่เสี่ยงที่มีการลักลอบนำเข้า ซึ่งแผนดังกล่าวเริ่มต้นดำเนินการตั้งแต่ 1 ต.ค.61 – 30 ก.ย.62 ในพื้นที่ 4 จังหวัด 19 อำเภอ 33 ตำบล และหมู่บ้านที่เป็นจุดล่อแหลมอีก 47 หมู่บ้าน รวมทั้งการวิเคราะห์ปัญหาในหมู่บ้านล่อแหลมว่าเกิดจากความด้อยโอกาสของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งจะต้องพัฒนาและแก้ไข เพื่อลดความเสี่ยงในหมู่บ้านที่เป็นทั้งแหล่งนำเข้า ส่งออก และกระจายยาเสพติดในเขตพื้นที่แนวชายแดน สำหรับสถานการณ์ยาเสพติดในปี 62 ยังเน้นมาตรการสกัดกั้นตามแนวชายแดน การจับกุมยาเสพติดได้มากขึ้นในจังหวัดชายแดนถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สามารถสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้ทะลักเข้ามาในพื้นที่ส่วนใน และยังเน้นการบำบัดรักษาซึ่งพบว่ามีผู้เสพเพิ่มขึ้นจึงเน้นการนำตัวไปบำบัดรักษา โดยมีผู้ติดยาซึ่งถือเป็นผู้ป่วยประมาณ 200,000 คน และมีผู้เสพและผู้ติดเข้าสู่ระบบบำบัดรักษา 3.4 แสนคน ส่วนปัญหายาเสพติดในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปปส.ร่วมกับกองทัพภาคที่ 4 เข้าไปเดินค้นหาสำรวจผู้เสพทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะหมู่บ้านต้องสงสัยที่พบพฤติการณ์เสี่ยงต่อการเสพยา เพื่อเปิดแนวรุกและหากพบว่ามีเยาวชนเสพยา จะนำตัวเข้าสู่ระบบการบำบัดรักษา ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 2 พ.ย.นี้