“จักรทิพย์” ห่วงเหตุลอบวางระเบิดสวนยางในพื้นที่ จ.ยะลา สั่งชุดสืบสวนเร่งล่าคนร้าย เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยให้ชาวบ้านในพื้นที่
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2561 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในสวนยาง ในพื้นที่ อ.เมือง จว.ยะลา ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ว่า เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 5 ก.ค.61 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายยังไม่ทราบชื่อและจำนวนลอบวางระเบิดภายในสวนยางพารา บ.ทุ่งยามู ม.4 ต.ยุโป อ.เมืองยะลา จว.ยะลา เป็นเหตุทำให้ นายจรินย์ จันทร์ลึก (ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าฉีกขาด) ถูกนำตัวส่ง รพ.ศูนย์ยะลา เพื่อทำการรักษาต่อไป ซึ่งขณะนี้อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ,เจ้าหน้าตำรวจชุดดก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำการตรวจสถานที่เกิดเหตุ พร้อมกับถ่ายภาพที่เกิดเหตุ และทำแผนที่เกิดเหตุพอสังเขป ตรวจเก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์ และดำเนินการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์และผู้ที่เกี่ยวข้อง พร้อมยังให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่หาเบาะแส หรือข้อมูลของคนที่ก่อเหตุและตรวจสอบไล่กล้องวงจรปิด ในพื้นที่ที่เกิดเหตุ
รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า สำหรับสาเหตุระเบิดในครั้งนี้ เชื่อว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ของคนร้ายในพื้นที่ มีเป้าหมายเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ หรือเจ้าของสวนยาง หรือกลุ่มที่รับจ้างกรีดยาง ชาวไทยพุทธ ซึ่งก่อเหตุในลักษณะแบบนี้ในพื้นที่ จว.ยะลา มาแล้ว 5 ครั้ง โดย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.ยะลา บูรณาการกำลังร่วมกับ ทหาร ปกครอง ทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือน ให้คำแนะนำในการประกอบอาชีพ โดยเฉพาะประชาชน ขณะออกกรีดยางและเจ้าของสวนยางชาวไทยพุทธให้เพิ่มความระมัดระวัง หากตรวจสอบพบ ร่องรอยดิน รอยขุดใหม่ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที เนื่องจากคนร้ายพุ่งเป้าก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.ยังได้แสดงความห่วงใยถึงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้มีข้อสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุได้โดยเร็ว เพื่อสร้างความมั่นใจและเพิ่มความปลอดภัยให้แก่ประชาชนในพื้นที่ พร้อมกันนี้ยังได้กำชับให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันอาชญากรรม ในการเพิ่มความเข้มงวดการตรวจตราสถานที่ต่างๆ เช่น แหล่งชุมชน สถานที่ท่องเที่ยว หรือ สถานที่สำคัญ ที่อาจเป็นเป้าหมาย เพื่อป้องกันการเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้ ตลอดจนเพิ่มมาตรการเข้ม ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ในการตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรอง จัดชุดลาดตระเวนในพื้นที่ย่านเศรษฐกิจ และชุมชน ทั้งนี้ ก็ขอความร่วมมือประชาชนในการช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าสังเกตบุคคล วัตถุต้องสงสัย หากพบให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที