"สมิง รอดรัตษะ" อดีต สว.สส.พญาไท-ลูกน้อง ป่วย เลื่อนอ่านฎีกาคดีบังคับ ผตห.รับสารภาพคดียา
ที่ห้องพิจารณา 709 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันที่ 22 มี.ค.61 เวลา 09.00 น. ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ อ.830/2549 ที่นางกรองกาญจน์ ถิ่นอ่อน อายุ 58 ปี เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง พ.ต.ต.สมิง รอดรัตษะ อดีต สว.สส.สน.พญาไท (ปัจจุบันยศ พ.ต.อ.) , ร.ต.อ.พรรณศักดิ์ วรบูลย์สวัสดิ์ อดีต รอง สว.สส.สน.พญาไท (ปัจจุบันยศ พ.ต.ท.) , ร.ต.อ.กิตติพงษ์ สิมมาลี , ด.ต.ภิญโญ แสงทิพย์ , ด.ต.อภิทักษ์ แก้วเกลื่อน , ด.ต.อวยชัย ทับสุรีย์, จ.ส.ต.บุญเรือง บุตรวงศ์ , จ.ส.ต.รุ่งทิพย์ขำ , จ.ส.ต.(หญิง) ศศิธร ทับสุรีย์ , จ.ส.ต.วันเผด็จ แท่นรัตน์ และ ส.ต.ท.สุธรรม แย้มช่วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.พญาไท (ยศและตำแหน่งขณะเกิดฟ้องปี 2549) เป็นจำเลยที่ 1-11 ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ เพื่อให้เกิดความเสียหายกับผู้อื่น , เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารรับรองหลักฐานฯ อันเป็นเท็จ , ผู้ใดแจ้งข้อความเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญา แก่อัยการ , ผู้ว่าคดีฯ , ผู้ใดขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต เสรีภาพ ทรัพย์สินฯ และผู้ใดหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นทำให้ปราศจากเสรีภาพฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157, 162, 172, 309, 310 ทวิ กรณีเมื่อวันที่16 มิ.ย.48 จำเลยที่ 1-11 ร่วมกันแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานตำรวจจับกุม นางกรองกาญจน์ โจทก์โดยไม่มีหมายจับของศาล และใช้กำลังและอาวุธบังคับขืนใจโจทก์ให้ขึ้นรถยนต์ไปกับพวกจำเลย ซึ่งระหว่างนั้นใช้ถุงดำคลุมศีรษะและรัดคอโจทก์ไว้เพื่อข่มขู่ให้โจทก์รับสารภาพคดีมียาบ้าจำนวน 100 เม็ดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ซึ่งโจทก์ได้ปฏิเสธแต่จำเลยไม่ยอมปล่อยตัวและไม่นำส่งพนักงานสอบสวนหรือพาไปยังสถานีตำรวจ กลับให้โจทก์พาไปโกดังของโจทก์เพื่อตรวจค้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แล้วจำเลยกับพวก กลับร่วมกันทำเอกสารการจับกุมและเอกสารอื่นๆ อันเป็นเท็จโดยบังคับให้โจทก์ลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าวได้จัดพิมพ์ไว้แล้วซึ่งมีข้อความว่ารับสารภาพ
อย่างไรก็ดีวันนี้ ตัวโจทก์ไม่มาศาล ส่วนจำเลยคงมีเพียง ร.ต.อ.พรรณศักดิ์ ที่ 2 , ด.ต.อวยชัย ที่ 6 , จ.ส.ต.บุญเรือง ที่ 7 , จ.ส.ต.รุ่งทิพย์ ที่ 8 , จ.ส.ต.วันเผด็จ ที่ 10 และ ส.ต.ท.สุธรรม ที่ 11 ที่มาศาล ส่วนพ.ต.ต.สมิง ที่ 1 และจ.ส.ต.(หญิง) ศศิธร ที่ 9 ไม่มาศาลโดยยื่นใบรับรองแพทย์ อ้างเหตุป่วยนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล
สำหรับ ร.ต.อ.กิตติพงษ์ ที่ 3 , ด.ต.ภิญโญ ที่ 4 , ด.ต.อภิทักษ์ ที่ 5 นั้นโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์หลังจากศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้อง
โดยจำเลยที่ 1-9 ยื่นคำร้องขอเลื่อนนัดอ่านคำพิพากษาฎีกา ทั้งนี้ศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า พ.ต.ต.สมิง จำเลยที่ 1 และ จ.ส.ต.(หญิง) ศศิธร จำเลยที่ 9 มีอาการป่วย โดยมีใบรับรองแพทย์ เชื่อว่าป่วยจริง ทำให้ไม่อาจอ่านคำพิพากษาได้ จึงเห็นควรให้เลื่อนไปอ่านคำพิพากษาฎีกาอีกครั้ง ในวันที่ 11 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้จำเลยทั้งหมดให้การปฏิเสธ โดยศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 22 ธ.ค.52 เห็นว่า พยานโจทก์เบิกความสอดคล้องเป็นลำดับขั้นตอน หากไม่เป็นความจริงก็ยากที่จะปั้นแต่งเรื่องขึ้นเอง และยังสอดคล้องกับหนังสือร้องขอความเป็นธรรม ถึง ผบ.ตร. ลงฉบับวันที่ 22 ก.ย.48 ด้วย จึงฟังได้ว่า จำเลยที่ 1, 2, 7, 8, 10 ,11 ทำผิดตามฟ้อง จึงให้ลงโทษฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ที่เป็นบทหนักสุด จำคุกคนละ 5 ปี ส่วนจำเลยที่ 6 ,9 ให้ลงโทษฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติฯโดยมิชอบ และเจ้าพนักงานทำเอกสารเท็จ ที่เป็นบทหนักสุดจำคุกคนละ 4 ปี โดยให้ยกฟ้องจำเลยที่ 3, 4, 5
ต่อมาจำเลยที่ 1,2,6,7,8,9,10,11 ยื่นอุทธรณ์ กระทั่งมีการอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อวันที่ 30 ส.ค.56 พิพากษาแก้เป็นให้ลดโทษ จำเลยที่ 1,2,7,10 เหลือจำคุกคนละ 4 ปี และจำคุกจำเลยที่ 8 ,11 เหลือคนละ 3 ปี และให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6,9 ส่วนจำเลยที่ 3,4,5,6 ก็พิพากษายืนให้ยกฟ้อง