คอมมานโดกองปราบ ซ้อนแผนจับ 2 อดีตตำรวจอาสา สน.วังทองหลาง หลังแอบอ้างเป็นตำรวจขู่กรรโชกทรัพย์เหยื่อ เป็นเงิน 3 หมื่นบาท
(3 ก.พ.) พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผกก.ปพ.บก.ป. ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปิยรัช สุภารัตน์ พ.ต.ท.วชิรา ยาวไทสงค์ รองผกก.ปพ.บก.ป. พ.ต.ท.วันชนะ ทิพอาสน์ สว.กก.ปพ.บก.ป ร.ต.อ.ต่อสกุล แสนสุรีย์รังสิกุล รองสว.กก.ปพ.บก.ป. นำกำลังตำรวจคอมมานโด กองบังคับการปราบปราม สนธิกำลังจับกุมนายสุรศักดิ์ กรวยสวัสดิ์ และนายสุริยา กวยระดาน อดีตอาสาสมัครตำรวจบ้าน สน.วังทองหลาง หลังได้รับการร้องเรียนว่า แอบอ้างเป็นตำรวจกองปราบปราม เข้ามากรรโชกทรัพย์ เจ้าของร้านข้าวแกงแห่งหนึ่งย่านวังทองหลาง
พ.ต.อ. ต่อศักดิ์ สุขวิมล กล่าวว่า สืบเนื่องจากได้รับการประสานจากตำรวจ 191 ว่ามีผู้เสียหายเข้ามาร้องเรียนว่า ถูกบุคคลดังกล่าวแอบอ้างเป็นตำรวจคอมมานโดกองปราบ อุ้มเหยื่อไปรีดทรัพย์ หลังพบว่าเหยื่อมียาเสพติดประเภทน้ำต้มใบกระท่อม จึงนำตัวขึ้นรถ แล้วขับมาที่หน้าคอมมานโดกองปราบปราม ภายในซอยโชคชัย 4 เพื่อข่มขู่ว่าผู้เสียหายจะยอมจ่ายเงินหรือไม่ หากไม่จ่ายจะเลี้ยวเข้าไปส่งตัวให้ร้อยเวรดำเนินคดีทันที โดยผู้เสียหายยอมจ่ายเงินจำนวน 30,000 บาท แต่มีเงินเพียงแค่ 20,000 จึงขอเลื่อนจ่ายเงิน จำนวน 10.000 บาท ที่เหลือในภายหลัง เมื่อกลับมาบ้านจึงนำเรื่องไปปรึกษาครอบครัว ก่อนตัดสินใจนำภาพจากกล้องวงจรปิดภายในร้านที่บันทึกเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุไปแจ้งตำรวจ 191 ให้ตรวจสอบว่า บุคคลในภาพเป็นตำรวจจริงหรือไม่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 ได้ประสานงานมา ก่อนจะพบว่าทั้งคู่ไม่ได้เป็นตำรวจกองปราบแต่อย่างใด จนกระทั่งเมื่อคืนนี้ครบกำหนดวันมารับเงินอีก จำนวน 10,000 บาทที่เหลือ ผู้ต้องหาทั้งสองคนก็มาตามนัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและจับกุมตัวมาดำเนินคดี
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองคน ให้การรับสารภาพว่า เคยทำหน้าที่เป็นอาสาสมัครตำรวจของสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง จึงรู้ขั้นตอนการทำงานของตำรวจ และหวังรวยทางลัดนำรูปแบบการทำงานไปหากินผิดกฎหมาย ด้วยการออกตระเวนในพื้นที่หัวหมาก วังทองหลาง และโชคชัย 4 หากพบผู้ที่ทำผิดกฏหมาย โดยเฉพาะผู้มีพฤติกรรมเป็นกลุ่มเสี่ยงในคดียาเสพติด ก็จะเข้าตรวจค้น หากพบของกลางเป็นยาเสพติด หรือของผิดกฎหมาย ก็จะเจรจาเรียกรับทรัพย์สิน เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี
นอกจากนี้ผู้ต้องหาทั้งสองคนยังได้ซักทอดว่ามีลูกพี่ซึ่งเป็นคนมีสีชื่อ “ผู้กองดา” คอยสั่งการอยู่เบื้องหลัง ซึ่งเงินที่ได้จะถูกส่งให้ลูกพี่ก่อน จากนั้นจึงจะจัดสรรปันส่วนให้ ที่ผ่านมาก่อเหตุในลักษณะนี้มาแล้วหลายครั้ง ล่าสุดตำรวจคอมมานโดกองปราบปราม กำลังประสานหน่วยเกี่ยวข้องสืบสวนขยายผล เครือข่ายของผู้ต้องหากลุ่มนี้ เพราะจากพฤติการณ์เชื่อว่า น่าจะก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งคดีในลักษณะนี้ทำให้ภาพลักษณ์ของตำรวจเสียหายอย่างมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหากรรโชกทรัพย์ และแสดงตนเป็นเจ้าพนักงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป