ชาวโคราชแห่สมัครงานคึกคัก ขานรับนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล
วันนี้ (12 ม.ค. 61) เวลา 11.00 น. นายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการ “เดือนแห่งการมีงานทำ น้อมคำศาสตร์พระราชา จังหวัดนครราชสีมา ประจำปี 2561” ที่เทอร์มินอลฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเทอมินอลทเวนตี้วัน โคราช จังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ความร่วมมือของหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยมีสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครราชสีมาเป็นศูนย์กลางในการแจ้งข้อมูลข่าวสารจัดเตรียมคนให้ตรงกับตลาดแรงงาน ให้ประชาชนได้ทำงานที่ตรงกับความถนัด ความเหมาะสม ความรู้และความสามารถของตน อีกทั้งสำนักงานจัดหางานฯยังช่วยคุ้มครองทั้งแรงงานและนายจ้างหรือสถานประกอบการ เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ที่เหมาะสมและเป็นธรรมอีกด้วย
โดยโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการเร่งสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และรายได้ที่มั่นคงแก่ประชาชน มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาความยากจนของประเทศ ที่ได้มีการกำหนดไว้ว่าอีก 20 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะไร้คนจน ก้าวสู้ประเทศที่พัฒนา มีความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ซึ่งปีที่ผ่านมาโครงการนี้ทำให้คนไทยมีงานทำแล้วจำนวน 1,135,795 คน
โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีประชาชนให้ความสนใจ เดินทางเข้าร่วมงานจำนวนมาก ซึ่งภายในงานจะมีการจัดนัดพบแรงงานเพื่อสร้างความเข้าใจและให้คำปรึกษาจากเจ้าหน้าที่สำนักงานจัดหางานฯ การเปิดบริการรับสมัครงานจากนายจ้าง สถานประกอบการในประเทศที่มีความมั่นคงจำนวน 76 บริษัท โดยมีตำแหน่งว่างงานกว่า 5,283 อัตรา การรับสมัครเพื่อไปทำงานต่างประเทศ จากบริษัทจัดหางาน 9 บริษัท รวมไปถึงบริการจัดหางานให้กลุ่มเป้าหมายพิเศษ ได้แก่ คนพิการ ผู้สูงอายุ อีกทั้งยังมีกิจกรรมต่างๆ ที่ให้แรงงานได้เข้าร่วมอีกด้วย เช่น สาธิตการฝึกอาชีพที่น่าสนใจแก่คนรุ่นใหม่ 15 อาชีพ ทดสอบความพร้อมทางอาชีพ แนะแนวอาชีพเพื่อเป็นแนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต พัฒนาทักษะฝีมือแรงงาน ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน เป็นต้น รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์การเข้าถึงสิทธิประโยชน์จากระบบประกันสังคมอีกด้วย
ด้านนายมุรธาธีร์ รักชาติเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า สถานการณ์แรงงานในขณะนี้มีตำแหน่งงานที่สามารถรองรับได้กว่า 5,000 ตำแหน่ง และยังมีตำแหน่งงานที่สามารถรองรับได้อยู่อีกเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการฝึกพัฒนาเรื่องฝีมือแรงงาน มีการฝึกอบรมงานต่างๆ สำหรับประชาชนทุกท่านที่มาเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ซึ่งจะได้ประโยชน์ในเรื่องของการสมัครงาน จัดหางาน และสามารถมีความรู้เพิ่มเติมไปประกอบอาชีพได้
ด้านนางสาวรสริน คือพันดุง อายุ 29 ปี ประชาชนผู้เข้าร่วมงาน กล่าวว่า รู้สึกดีที่มีการเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องของค่าครองชีพ ทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงขึ้น เช่น ราคาอาหารที่เพิ่มขึ้นและไม่มีการปรับลดราคาลง หากมีค่าแรงขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นก็น่าจะช่วยได้เยอะ ส่วนตนก็สนใจที่อยากจะไปทำงานต่างประเทศ เนื่องจากค่าแรงในประเทศไทยก็ยังต่ำอยู่ ประเทศที่ตนคาดว่าอยากไปทำงานได้แก่ ประเทศไต้หวัน ญี่ปุ่น และโปรตุเกส