ตร.ภาค 4 แถลงข่าวหนุ่มมือดีวัย 33 ตะเวนลักทรัพย์ 3 อำเภอหาทุนแต่งงาน อ้างเป็นทหารร้อยโทหลอกพร้อมของกลางเพียบ
วันที่ 10 มกราคม 2561 เวลา 15.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พร้อมด้วย นายทวี เสริมภักดีกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม พล.ต.ต.อภิศักดิ์ เดชะคำภู ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดมหาสารคาม พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.วาปีปทุม พ.ต.อ.ชัยโรจน์ นาคราช ผกก.สภ.เมืองมหาสารคาม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจังหวัดมหาสารคาม ร่วมกันแถลงจับกุมนายสมชาย เฟ้ยจันทึก อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 224 หมู่ 1 บ้านหนองปลาซิว ต.ภูห่าน อ.สีชมพู จ.ขอนแก่น ข้อหา ลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใด ๆ ตามหมายจับศาลจังหวัดมหาสารคาม ที่ จ.5/2561 โดยสามารถยึดของกลางได้ทั้งสิ้น 45 รายการ 142 ชิ้น เช่น โน้ตบุ๊ค โทรศัพท์สมาร์ทโฟน แท็ปเล็ต พระเครื่อง พระบูชา กล้องถ่ายรูป กระเป๋าถือสตรีแบรด์เนม และรถจักรยานยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ เป็นต้น
พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากพบพฤติกรรมของผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ในพื้นที่ 3 อำเภอของจังหวัดมหาสารคาม ประกอบด้วย อ.โกสุมพิสัย อ.เมือง และอำเภอวาปีปทุม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของแต่ละพื้นที่ ได้ออกสืบสวนหาข่าว ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุคือนายสมชาย เฟ้ยจันทึก จึงได้ทำการเฝ้าติดตามพฤติกรรม และขอให้ศาลจังหวัดมหาสารคาม ออกหมายจับ ในความผิดฐานลักทรัพย์ในเคหะสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอาศัยอยู่ที่บ้านหนองหล่ม ต.ดอนหว่าน อ.เมือง มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาใหม่ ที่เพิ่งแต่งงานได้เพียง 4 วันเท่านั้น จากการสอบถามทราบว่า ได้นำเงินที่ได้จากการโจรกรรมทรัพย์สิน มาเป็นทุนในการจัดงานแต่งงาน โดยที่ฝ่ายหญิงไม่ทราบ ซ้ำยังหลอกว่าตนเองเป็นทหารยศร้อยโทอีกด้วย
จากการตรวจสอบประวัติ ทราบว่าผู้ต้องหามีหมายจับในพื้นที่ สภ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี ในความผิดฐานร่วมกันบุกรุกในเคหะสถานของผู้อื่น ร่วมกันพยายามลักทรัพย์ของผู้อื่นในเคหะสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ฯ อีกหนึ่งหมาย โดยเจ้าหน้าที่จะได้ประสานให้ สภ.โคกสำโรงทราบเพื่ออายัติตัวดำเนินคดีต่อไป
อาจารย์ณภัทร อิ่มวิทยา ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า บ้านถูกงัดเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 60 ทรัพย์สินที่หายไปมีกระเป๋าแบนรด์เนม 5 ใบ ทองสวิส 99.99 จำนวน1ชุด รวมมูลค่าประมาณ5แสนบาท จากที่มาดูของกลางวันนี้ ก็มีอยู่นิดหน่อย ได้กระเป๋าแบรนด์เนมคืน2ใบ คาดว่าคนร้ายจะเข้ามาลักทรัพย์ในช่วงกลางวัน เพราะตนเองกลับบ้านตอน4โมงเย็น ก็พบว่าบ้านถูกงัดแล้ว