แซ่บอีหลี! เปิดเมนูเด็ด 'เงี๊ยะกระไบ' พร้อมน้ำจิ้มปลาร้า

แซ่บอีหลี! เปิดเมนูเด็ด 'เงี๊ยะกระไบ' พร้อมน้ำจิ้มปลาร้า

แซ่บอีหลี! เปิดเมนูเด็ด “เงี๊ยะกระไบ” หรือเนื้อควายตากแห้งทุบ พร้อมน้ำจิ้มปลาร้าสูตรลับ เป็นอาหารจานเด็ดสำหรับฤดูหนาวของพ่อค้าแม่ค้าชาวกัมพูชาในตลาดโรงเกลือ นทท.แห่ลิ้มลอง

เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.60 ตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตรงข้ามกรุงปอยเปต จ.บันเตียเมียนเจย ประเทศกัมพูชา นับเป็นตลาดการค้าชายแดนที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค และเป็นตลาดการค้าชายแดนแห่งเดียวในประทศไทย ที่อนุโลมให้ชาวกัมพูชาเข้ามาทำการค้าขายในผืนแผ่นดินไทยได้ ดังนั้นตลาดโรงเกลือ จึงมีชาวกัมพูชาเดินทางเข้ามาทำการค้าและทำงานรับจ้างในตลาดโรงเกลือวันละเกือบ1หมื่นคน ดังนั้นตลาดโรงเกลือ จึงเป็นแหล่งที่รวมของวัฒนธรรมทางอาหารของชาวไทย และกัมพูชาปะปนกันไป และอาหารบางประเภทก็ได้มีการรวมวัฒนธรรมทางอาหารของทั้ง 2 ประเทศ เข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางเข้ามาในตลาดโรงเกลือ รวมวันละนับหมื่นคน และที่แน่นอนที่สุดก็คือเรื่องอาหารการกิน ที่มีแทบทุกตรอกซอกซอยในตลาดโรงเกลือ และส่วนใหญ่จะเป็นอาหารการกินของชาวกัมพูชาที่จะขายดีที่สุด เนื่องจากในตลาดโรงเกลือ ส่วนใหญ่จะเป็นชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำการค้า และประกอบอาชีพอื่นๆอยู่ในตลาดโรงเกลือ

แต่ที่กำลังเป็นที่สนใจน่าลิ้มลองเพราะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อของชาวกัมพูชาในช่วงฤดูหนาวก็คือ "เงี๊ยะกระไบ" หรือ "เนื้อควายตากแห้งทุบ" ซึ่งบางคนอาจจะแปลว่าเนื้อควายแดดเดียวทุบก็ได้ ซึ่งเงี๊ยะกระไบ นี้เป็นชื่อเรียกของชาวกัมพูชา ถือว่าเป็นอาหารจานโปรดสำหรับช่วงฤดูหนาว ของชาวเขมรทุกชนชั้นทีเดียว

การจะหา“เงี๊ยะกระไบ”ในตลาดโรงเกลือ รับประทานหรือลิ้มลองนั้น เป็นเรื่องง่ายมากเพราะร้านที่จำหน่าย เงี๊ยะกระไบ ในตลาดโรงเกลือ ซึ่งมีอยู่หลายร้าน ได้มีการประชาสัมพันธ์ในโลกโซเชียล และทำเป็นดีลิเวอร์รี่ คือโทรสั่งมาทางร้านจะไปส่งให้ถึงที่ ในชั่วเวลาไม่เกิน 30 นาที จึงทำให้พ่อค้า แม่ค้า ชาวเขมรในตลาดโรงเกลือ ต่างโทรฯสั่ง เงี๊ยะกระไบ มากินกันแทบจะทุกร้านค้า โดยไม่ต้องเสียเวลาไปหาซื้อที่ร้านค้า ซึ่งร้านขายเงี๊ยะกระไบ ในตลาดโรงเกลือ มีอยู่กว่า 10 ร้าน แต่ละร้านจะขายดีแทบทุกร้านบางร้านถึงกับทำเนื้อตากแห้งไม่ทันขายทีเดียว

นางนก เซรย อายุ 29 ปี ชาวกัมพูชา เจ้าของร้านจำหน่าย เงี๊ยะกระไบ ซึ่งตั้งอยู่ในตลาดศูนย์การค้าอินโดจีน อรัญประเทศ ตรงข้ามตลาดโรงเกลือฯเผยว่าได้เข้ามาประกอบการค้าขายเงี๊ยะกระไบ หรือเนื้อควายตากแห้งทุบ ในตลาดโรงเกลือฝั่งไทยมานานกว่า 6 ปี แล้ว โดยนำสูตรทำเงี๊ยะกระไบ มาจากรุ่นปู่ย่าตายายที่บ้านเกิดในฝั่งกัมพูชา โดยเฉพาะสูตรน้ำจิ้มปลาร้า เป็นสูตรลับของตระกูล ซึ่งการทำ เงี๊ยะกระไบ นี้ส่วนใหญ่จะใช้เนื้อควายเป็นหลัก แต่หากไม่มีก็ใช้เนื้อวัวแทนได้ โดยจะใช้เนื้อควายบริเวณสะโพก เพราะเนื้อจะเป็นปั้นๆมีมันแทรกเล็กน้อย เมื่อได้เนื้อควายมาแล้วจะนำมาแล่หั่นเป็นชิ้นยาวๆประมาณ 5-10 นิ้ว ใช้ความหนาประมาณ 1 นิ้วเศษ จากนั้นนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องเทศตามสูตร หมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วจึงนำไปตากแดด ประมาณ ครึ่งวัน ก็สามารถนำมาย่างไฟให้จนสุก จากนั้นจึงนำเนื้อควายตากแห้งที่นำมาย่างไฟจนสุกมาทุบโดยใช้สากกะเบือ ทุบเพื่อให้ชิ้นเนื้อที่เกาะกันแตกยุ่ย สามารถนำมารับประทานได้โดยไม่เหนียว และจะมีความกรอบของเนื้อตากแห้งย่างร่วมด้วย ซึ่งเนื้อควายตากแห้งเมื่อนำไปย่างจะมีกลิ่นหอมยั่วยวนชนกินเป็นอย่างมาก

แต่สิ่งที่เป็นสูตรเด็ดที่สุดก็คือน้ำจิ้ม น้ำจิ้มเงี๊ยะกระไบ นี้จะเป็นน้ำจิ้มผสมปลาร้า เป็นสูตรเฉพาะของกัมพูชา โดยนำปลาร้าเป็นตัวๆ มาตำจนละเอียดจนเป็นเนื้อสีขาวจึงนำมาผสมกับกระเทียมสับ ใส่ถั่วป่น ตะไคร้ซอย และพริกขี้หนูซอย ปรุงรสชาติด้วยมะนาว เป็นน้ำจิ้มปลาร้าที่มีรสชาติจัดจ้านมาก และจะมีผักชนิดต่างๆเป็นเครื่องเคียง หรือที่ชาวไทยเรียกว่าผักแนม ประกอบด้วยกระหล่ำปลี,ผักชีฝรั่ง,แตงกวาหั่น,แครอทสด และที่ขาดไม่ได้ คือกล้วยดิบหั่น พร้อมหัวปลีซอย อีกทั้งยังมี มะละกอดองและผักดอง เป็นเครื่องเคียงด้วย ซึ่ง เงี๊ยะกระไบ นี้ถือว่าเป็นอาหารจานโปรดที่มีสรรพคุณทางสมุนไพรมากมาย เป็นที่นิยมรับประทานของชาวกัมพูชามาแต่โบราณทีเดียว ซึ่งในอดีตเป็นอาหารของคนชั้นสูงของกัมพูชา แต่ปัจจุบันชาวกัมพูชาทุกเพศทุกวัย และทุกฐานะสามารถหาซื้อกันได้ทุกคน สนนราคาขายอยู่ที่ชุดละ 100-150 บาท

ส่วนทางด้านนายสวนิต สุริยกุล ณ อยุธยา นายอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว ได้ประสานความร่วมมือไปยัง พ.ต.อ.เบญจพล รอดสวาสดิ์ ผกก.ตม.จว.สระแก้ว พร้อมด้วย จนท.สาธารณสุขอำเภออรัญประเทศ ออกทำการตรวจสอบ และตักเตือนร้านจำหน่ายเงี๊ยะกระไบ ในตลาดโรงเกลือ ให้เข้มงวด และควบคุมความสะอาดในการทำอาหารโดยเฉพาะการทำน้ำจิ้มปลาร้าของให้ทำให้สุกก่อนเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค และห้ามลักลอบนำเนื้อควายดิบจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาในประเทศไทยเด็ดขาด