


นักท่องเที่ยวชาวไทย-ต่างชาติแห่ปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าบริเวณสะพานนวรัฐ เทศกาลยี่เป็งเชียงใหม่ 2 วัน มีจำนวนโคมลอยปล่อยสู่ท้องฟ้าไม่ต่ำกว่า3หมื่นลูก
เมื่อเวลา19.00น.วันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 บริเวณสะพานนวรัฐ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาในบริเวณดังกล่าวหลายพันคน เพื่อมาปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าในงานประเพณียี่เป็งจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งปีนี้ทางเทศบาลนครเชียงใหม่ กำหนดให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวเข้ามาปล่อยโคมลอย ในบริเวณนี้จุดเดียวเท่านั้น นับตั้งแต่เวลา19.00-01.00น.ของวันที่3-4 พฤศจิกายน2560 ทำให้เกิดบรรยากาศการจราจรเป็นอัพพาต โดยทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ที่ใช้เส้นทางมาจากตลาดวโรส และจากถนนสันป่าข่อย ติดค้างอยู่บนสะพานนวรัฐนับชั่วโมง ท่ามกลางนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่นำโคมลอยมาปล่อยจนเกิดการบีบแตรเสียงดังให้นักท่องเที่ยวออกจากบนสะพาน เพื่อเปิดให้ทั้งรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ออกไป โดยประชาชนผู้ใช้รถสัญจรต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าระบบจราจร และการจัดระเบียบการปล่อยโคมของจังหวัดเชียงใหม่ในครั้งนี้ เหมือนไม่ได้วางแผนรองรับ และบริหารจัดการไม่ดี
ขณะที่การปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้านั้น บริเวณสะพานนวรัฐนั้น พบว่าส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่ได้ปล่อยที่จุดบริเวณสะพานนวรัฐเพียงจุดเดียวตามที่ได้มีการกำหนดไว้ แต่ยังมีการปล่อยตรงจุดบริเวณหน้าพุทธสถาน และริมน้ำปิงบางส่วน ทำให้โคมลอยตกบนรถที่ติดค้างอยู่บนสะพานนวรัฐ รวมถึงลอยไปติดกับสายไฟ และกิ่งไม้หลายลูก ซึ่งมีีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดเพลิงไหม้บ้านเรือนบริเวณนั้น โดยตามรายงานของจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีการขออนุญาตให้จุด และปล่อยโคมลอย โคมไฟ โคมควัน หรือวัตถุอื่นใดที่คล้ายคลึงกันไปขึ้นไปสู่อากาศปี 2560 ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีมากถึงจำนวน 30 จุด และอำเภอรอบนอก 30 จุด จำนวน รวมเกือบ 30,000 ลูกที่จะลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า โดยส่วนใหญ่เป็นภาคธุรกิจที่จัดกิจกรรมให้มีการปล่อยโคมลอยในราคาตั้งแต่หลักพันบาทขึ้นไป จนเกิดเป็นข้องกังขาว่าขัดต่อประเพณียี่เป็งของชาวล้านนาหรือไม่
ส่วนบรรยากาศบริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ จังหวัดเชียงใหม่มีประชาชน และนักท่องเที่ยว เดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อมาร่วมชมความงดงามของโคมไฟหลากหลายสีสัน และถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างคึกคัก พร้อมทั้งมีการสาธิตการทำกระทงจากกาบกล้วย ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก และยังได้มีการร่วมกันจุดผางประตี๊ด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาด้วย ทำให้บรรยากาศในยามค่ำคืนงานประเพณียี่เป็งของจังหวัดเชียงใหม่ สว่างไสวไปทั่วเมือง และสร้างความประทับใจแกานักท่องเที่ยว
นอกจากนั้น บริเวณริม2ฝั่งแม่น้ำปิงของจังหวัดเชียงใหม่ปีนี้คึกคักกว่าปีก่อน ได้มีพ่อค้าแม่ค้านำกระทงที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ อย่างเช่นใบตอง และเปลือกข้าวโพด โดยมีฐานเป็นต้นกล้วย และตกแต่งด้วยดอกไม้นานาชนิด ในรูปแบบที่สวยงาม มาวางขายในราคาตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไปจนถึงหลักร้อยบาทมาวางจำหน่ายกันเป็นจำนวนมาก โดยปีนี้จังหวัดเชียงใหม่ ยังคงรณรงค์ไม่ให้มีการขายแอลกอฮอล์ และการเล่น และจำหน่ายประทัดยักษ์ เนื่องจากมีอันตรายต่อผู้เล่น หรือเสียงถึงชีวิต ภายใต้แนวคิด แอ่วยี่เป็งเจียงใหม่ ่ไร้ประทัดยักษ์ปลอดแอลกอฮอลล์




