สาวทอมขับจยย.ออกซอย โดนฝรั่งขับจยย.มาทางตรงชนกันอย่างรุนแรงกลางถนน-สาวทอมบาดเจ็บสาหัส ส่วนฝรั่งแผลถลอกทั่วตัว
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 28 ต.ค. 60 ร.ต.ต.วรพันธ์ุ เพชรนิล รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุรถจักรยานยนต์ชนกันทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ2รายเหตุเกิดบริเวณ หน้าโรงแรมไดมอนซิตี้เพลส ใกล้เคียงกับซอยพัทยาใต้18 ถนนพัทยาใต้ ม.10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบพร้อมประสานเหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูณ์ฯเมืองพัทยาพร้อมรถกู้ชีพโรงพยาบาลพัทยาเมโมเรียลร่วมไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
ในที่เกดิเหตุพบร่างผู้บาดเจ็บรายแรกเป็นสาววัยรุ่นลักษณะทอมบอย อายุประมาณ19-25ปี สภาพอาการสาหัสนอนหงายอยู่กลางถนนโดยมีพลเมืองหลายคนที่มาช่วยประกองร่างด้วยความเป็นห่วงเนื่องจากสงสารผู้บาดเจ็บโดยผู้บาดเจ็บนั้นมีบาดแผลบริเวณศีรษะเลือดไหลอออกมาจำนวนมากและมีอาการชักซึ่งพลเมืองดีก็พยายามเรียกให้ผู้บาดเจ็บพยายามสติอดทนไว้และอย่าหลับ
ใกล้เคียงกันพบคู่กรณีเป็นนักทองเที่ยวชายต่างชาติทราบชื่อคือ นายเซบัสเตียน อายุ 38 ปี ชาวรัสเซีย ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถลอกทั่วทั้งร่างกายยืนอยู่ข้างรถจักรยานยนต์ แบบบิ๊กไบ้ค์สีขาวแดง หมายเลขทะเบียน กตพ-444 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นของตนเองที่ขับขี่มารถนั้นมีร่องรอยพังเสียหายหน้าจากการชนและล้มตะแคงอยู่กลางถนน
ส่วนรถของคู่กรณ๊ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นกระเด็นห่างออกไปอยู่บริเวณ หน้าโรงแรมไดมอนซิตี้เพลส เป็นรถจักรยายนต์ยี่ห้อฮอนด้าซูเมอเอ็กซ์ สีขาว หมายเลขะทเบียน 1กต-9893 ชลบุรี สภาพรถนั้นพังเสียหายเช่นกัน ท่ามกลางไทยมุงและการจราจรที่ติดขัดเนื่องจากอุบัติแหตุเกิดขึ้นกลางถนนไม่ห่างจากแยกไฟแดงสื่อสารพัทยาใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯจึงรีบทำการปฐมพยาบาลให้ผู้บาดเจ็บและเคลื่อนย้ายส่งไปรักษาอาการที่โรงพบาบาลพัทยาเมโมเรียล
จากการสอบถามนายเซบัสเตียน ผู้บาดเจ็บที่ขับรถบิ๊กไบ้ค์ให้การว่าตนกำลังขับรถมาจากวัดชัยมุ่งหน้าจะไปทางถนนสุขุมวิทและขับด้วยความเร็วเพราะเห็นว่าเป็นสัญญาณไฟเขียวที่แยกไฟแดงโดยไม่คิดว่าจะเกิดเหตุขึ้นแต่แล้วจู่ๆสาวทอมบอยคู่กรณีนั้นก็ขับรถออกมาจากบริเวณซอยพัทยาใต้18เลนฝั่งซ้ายเพื่อจะข้ามถนนมุ่งหน้าไปทางวัดชัยมงคลโดยขับออกมาตัดหน้ารถอย่างกะทันหันมากทำให้ตนนั้นเบรกไม่ทันจึงพุ่งชนเข้าเต็มๆจนกระเด็นกันไปคนละทางได้รับบาดเจ็บทั้งคู่กรณีและตน ซึ่งโชคยังดีที่ไม่มีรถขับตามหลังมาหรือสวนทางมาไม่งั้นอาจจะเหยียบทับร่างซ้ำอีกแน่นอน
ส่วนพยานในที่เกิดเหตุนั้นก็ไม่มีใครเห็นตอนคู่กรณีขับมาชนกันแบบจะๆ กับตาจึงไม่ทราบว่าใครผิดใครถูก ส่วนใหญ่จะมีแต่พลเมืองดีที่เห็นร่างคนเจ็บอาการสาหัสจึงเข้าไปช่วยเหลือเพราะเป็นห่วงและสงสารเท่านั้น
อย่างไรก็ตามทางพนักงานสอบสวนซึ่งเป็นร้อยเวรก็ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุและจะได้สอบสวนผู้บาดเจ็บให้แน่ชัดอีกครั้งว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายขับรถประมาทจนทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น