'อ.เผ่าทอง'งง!! ใครกำหนดข้อห้ามเรื่องดอกไม้จันทน์

'อ.เผ่าทอง'งง!! ใครกำหนดข้อห้ามเรื่องดอกไม้จันทน์

"อ.เผ่าทอง ทองเจือ" ทนไม่ไหว!! โพสต์ถามใครกำหนดข้อห้ามเรื่องดอกไม้จันทน์ ลั่นไร้สาระ

อาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว Paothong Thongchua ชี้แจงกรณีที่มีการส่งต่อข้อความกันว่า ห้ามหยิบดอกไม้จันทน์จากพานส่งให้คนอื่น หรือการห้ามชมว่าดอกไม้จันทน์สวย เป็นเรื่องไม่จริง โดยระบุว่า "ตั้งใจว่าจะอดใจเอาไว้พูดหลังงานถวายพระเพลิงแล้ว แต่ก็มีคนกระหน่ำส่งไลน์กับเรื่องที่ไร้เหตุผล ไร้สาระมากๆ มาให้ทุกวี่ทุกวัน วันนี้จึงต้องขอพูดถึง ข้อห้ามต่างๆนานาเกี่ยวกับดอกไม้จันทน์ ที่ตะบี้ตะบันส่งกันทั่วทั้งเมืองสักหน่อย เพราะเกิดมาก็หกสิบกว่าปีแล้ว เวลาไปงานศพตามวัดต่างๆ ก็มีคนของวัดหรือของเจ้าภาพ หยิบดอกไม้จันทน์จากพานที่จัดเตรียมไว้ส่งให้โดยตลอด เพราะเราเป็นผู้ใหญ่ เวลาเราเดินไปที่เชิงเมรุ ก็จะมีคนหยิบดอกไม้จันทน์จากพานส่งให้ มีทั้งส่งมือต่อมือ มีทั้งส่งด้วยพานต่อมือ หรือบางครั้งเวลาจะไปงานศพก็มีญาติพี่น้อง หรือเพื่อนฝูงที่ไปร่วมงานเผาศพไม่ได้ ฝากดอกไม้จันทน์ไปร่วมเผาศพด้วย ก็รับฝากและถือขึ้นไปวางบนเมรุเสมอๆ ก็ไม่เคยมีใครว่าเลย"

"ไม่เข้าใจว่าธรรมเนียมที่ห้ามส่งดอกไม้จันทน์ให้กัน เกิดขึ้นมาสมัยไหนและใครเป็นคนบัญญัติ และที่งงมากก็คือ การห้ามชมว่าดอกไม้จันทร์สวย ก็ไม่รู้ว่าเป็นธรรมเนียมที่ใครบัญญัติขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะที่บ้านของผมในสมัยเด็กๆ เวลาคุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายจะไปงานเผาศพก็จะสั่งบ่าวไพร่ เอาหีบไม้ที่บรรจุท่อนไม้จันทน์ มาไสให้เป็นขี้กบแบบ ที่เป็นแผ่นวงๆ แล้วจึงนำมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ และเข้าช่อกับธูปเทียนไม้ระกำ เวลาบ่าวไพร่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายได้เห็น ท่านผู้ชมเชยกันว่าสวยงามดี เพราะถ้าทำไม่สวย ท่านก็สั่งให้ทำใหม่ ใครจะถือของไม่สวยไม่งามไปงานศพได้"

"ส่วนธรรมเนียมที่มีดอกไม้จันทน์อยู่ในมือ แล้วห้ามยกมือขึ้นไหว้หรือรับไหว้ก็งงมาก เพราะตั้งแต่เกิดจนอายุหกสิบกว่าวันนี้ ก็พนมมือไหว้ และพนมมือรับไหว้ ทั้งที่มีดอกไม้จันทน์อยู่ในมือมาโดยตลอด เพราะเวลาเดินขึ้นเมรุ ก็มักจะเจอกับแขกผู้ใหญ่และแขกเด็กกว่าที่ไปร่วมงาน ถ้าไม่ไหว้หรือรับไหว้กันตอนนั้น ก็ไม่รู้ว่าจะไปไหว้หรือรับไหว้กันตอนไหน เพราะเมื่อเผาศพเสร็จแล้ว ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านเลย ก็เลยสงสัยว่าคงจะเป็นธรรมเนียมใหม่ ที่บัญญัติขึ้นในงานพระเมรุครั้งนี้"

และสงสัยอีกว่า….ต่อนี้ไป คงจะต้องหนีไปเดินตรอก ปล่อยให้พวกคนที่เขาบัญญัติธรรมเนียมใหม่นี้…ขึ้นมาเดินถนนแทน

ขอบคุณ Paothong Thongchua