ตร.รวบโจ๋งัดบ้านที่ไม่มีคนอยู่ รวมทั้งบ้านที่ติดประกาศขายในเขตเมืองกว่า 30 หลัง อ้างหาเงินเที่ยว
เมื่อเวลา10.00น. วันที่25ก.ย. 60 พ.ต.อ.ชวิศ ศรีจันทร์ รอง ผบก.ภ.จ.อุดรธานี พร้อมตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ร่วมแถลงข่าวจับกุมนายพูนทรัพย์ โคตรสุวรรณ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่285หมู่10ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พร้อมของกลางมีทั้งทีวีหลายยี่ห้อ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น โทรศัพท์มือถือ จักรยายยนต์ฮอนด้า โดยกล่าวหาลักทรัพย์ในเคหสถาน
จากที่เดือนเมษายน-กันยายน2560 มีเหตุงัดบ้านในเวลากลางวัน ขโมยทรัพย์สินภายในบ้านที่ไม่มีคนเฝ้าและบ้านที่ติดประกาศขายหลายครั้งติดต่อกัน โดยเฉพาะวันที่1เมษายน ได้งัดบ้านเลขที่131/1หมู่บ้านร่มเย็น4ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี ยกเอาตู้เซฟใส่พระเครื่องเลี่ยมทองกว่า20องค์ มูลค่ากว่า5แสนบาท ของนางอรอินท์ ชาฤา อายุ54ปี ซึ่งปิดบ้านไว้ไปอยู่กับลูกสาว ตำรวจได้ออกสืบสวนติดตามตัว และคนร้ายยังได้ก่อเหตุเรื่อยมา
กระทั่งเวลา16.00น. วันที่22ก.ย. 60 ร.ต.อ.ธรีวัฒน์ วิทยรติโชติตระกูล รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ออกไปสอบสวนเหตุงัดบ้าน เลขที่99/158หมู่16หมู่บ้านสุขเกษม ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบ้าน น.ส.สุจิตรา ขันอาสา อายุ25ปี ขณะเกิดเหตุไม่ได้อยู่บ้าน ญาติได้แจ้งตำรวจ พบงัดประตู หน้าต่างบ้าน เข้าไปลักทีวีและตู้เย็น ซึ่งพยานระบุว่าคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ20-25ปี รูปร่างผอมสูง แต่งกายดี ขี่รถจักรยานยนต์สีแดง เข้ามายกทีวีและตู้เย็นไว้หน้าบ้าน ก่อนออกไปเรียกสามล้อเครื่องมาขนทรัพย์สินไป ซึ่งสารถีสามล้อให้การว่า คนร้ายได้ว่าจ้างให้ขนทรัพย์สินไปจำนำที่ร้านใกล้วงเวียนหอนาฬิกา จึงนำกำลังออกสืบสวนติดตามจนพบนายพูนทรัพย์ ยืนอยู่หน้าร้านรับจำนำเครื่องใช้ไฟฟ้า บริเวณวงเวียนห้าแยกหอนาฬิกาเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงเข้าจับกุมควบคุมตัวพร้อมของกลางไปโรงพักทำการสอบสวน ซึ่งนายพูนทรัพย์ ให้การรับสารภาพว่า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป เคยถูกจับข้อหาลักมิเตอร์น้ำโทษจำคุก1ปี6เดือน พึ่งพ้นโทษออกมาต้นปี2560ก็มาก่อเหตุงัดบ้านลักทรัพย์อีก โดยเลือกก่อเหตุในตอนกลางวัน จะแต่งตัวภูมิฐาน ดูดี เพื่อไม่ให้คนสงสัย แล้วขี่รถจักรยานยนต์ไปตามหมู่บ้าน เลือกหลังที่ประกาศขาย หรือปิดบ้านไว้ไม่มีคนเฝ้า
นายพูนทรัพย์ ให้การว่า จะทำทีเป็นเจ้าของบ้าน หรือเจ้าของบ้านคนใหม่ มาขนย้ายทรัพย์สินมาไว้หน้าบ้าน ก่อนไปเรียกสามล้อเครื่องมาช่วยขนสิ่งของออกไปขายหรือจำนำ โดยบอกสารถีสามล้อว่า เงินช๊อต จะเอาทีวี ตู้เย็น ทรัพย์สินไปจำนำ ส่วนตู้เซฟซ่อนไว้ในป่าหลังบ้าน พอตกกลางคืนได้นำรถซาเล้งมาใส่ไปทุบที่ป่าข้างบ่อขยะเทศบาลนครอุดรธานี ต.หนองนาคำ อ.เมืองอุดรธานี นำทรัพย์สินที่ได้ไปขาย แล้วหนีไปหลบซ่อนที่ จ.ชลบุรี ก่อนจะหวนกลับมาก่อเหตุอีก ซึ่งนายพูนทรัพย์ สารภาพว่า ก่อเหตุมาแล้ว30หลัง นำทรัพย์สินไปจำนำและขายที่ร้านรับซื้อของเก่าและร้านรับจำนำ นำเงินที่ได้ไปเที่ยวเตร่ พอเงินหมดก็หวนกลับมาก่อเหตุอีก กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม
พ.ต.อ.ชวิศ เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่ขโมยมาจะนำไปขายและจำนำที่ร้านรับซื้อของเก่าหลายร้าน ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี จึงควบคุมตัวไปชี้บ้านที่ก่อเหตุ และชี้ร้านที่นำทรัพย์สินไปจำนำและขาย จากนั้นได้รวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานี นำกำลังเข้าตรวจค้นร้านรับซื้อและจำนำของเก่า และพบของกลางอยู่ตามร้าน ทั้งทีวี ตู้เย็น ตู้แช่เย็น ตำรวจได้ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งมีผู้เสียหายมาชี้ยืนยัน6ราย และจะต้องดำเนินคดีกับผู้รับจำนำรับซื้อของโจรทุกร้าน ในข้อหา“รับซื้อของโจร”และจะเสนอถอนใบอนุญาตอีกด้วย