'ทกซูรี' ถล่มกาฬสินธุ์ 18 อำเภอน้ำท่วมบ้านเรือน ถนนพัง
พายุ "ทกซูรี" ถล่ม จ.กาฬสินธุ์ ส่งผลให้พื้นที่ 18 อำเภอ มีฝนตกหนักมากถึง 140-235 มิลลิเมตร แนวเขตเทือกเขาภูพาน ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำป่าไหลหลากท่วมบานซัดถนนพัง
นายสุวิทย์ คำดี ผู้ว่าราชการ จ.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และเยี่ยมเยือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายโซนร้อนทกซูรี ที่ทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์กระจายทั้ง 18 อำเภอ ซึ่งมีบ้านเรือนราษฎรที่ถูกน้ำปาสไหลหลากท่วมบ้านเรือนราษฎรทั้งอ.เมือง อ.นาคู และอ.นามน ขระที่เส้นทางคมนาคมได้รับผลกระทบเสียหายหลายเส้นทางโดยเฉพาะถนนสายหลักกาฬสินธุ์- อ.นามนถนนช่วงต่อเชื่อมกับสะพานถูกน้ำซัดจนขาดความยาวกว่า 15 เมตร จนต้องปิดการจราจรและให้ประชาชนใช้เส้นทางเลี่ยงอื่นแทน ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายชนิพนธ์สงวนสัตย์นายอำเภอนามนทางหลวงชนบท จ.กาฬสินธุ์แขวงการทางจ.กาฬสินธุ์ เข้าซ่อมแซมและเฝ้าระวังบริการประชาชนในพื้นที่ โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังรักษาความสงบและความเรียบร้อย จ.กาฬสินธุ์เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน
นอกจากนี้ที่บ้านส่วนป่า ต.นาจารย์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์นายเกรียงไกรกิริวรรณานายอำเภอเมือง จ.กาฬสินธุ์ ได้สั่งการให้นายสมนึกคำรัศมีนายก ทต.นาจารย์อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์เข้าสำรวจความเสียหายและความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุทกซูรีที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนจนพังเสียหายจำนวน 10 หลังคาเรือน นอกจากนี้ยังมีโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เสียหายอีกจำนวนมากโดยได้นำถุงยังชีพจากเหล่ากาชาดจ.กาฬสินธุ์ข้าวสารอาหารแห้งและน้ำดื่มบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน
นายบุญถิ่นกมลนครอายุ 67 ปี บ้านเลขที่ 50 ม. 1 บ้านสวนป่า ต.นาจารย์อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์กล่าวว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นครั้งนี้มาในลักษณะน้ำป่าช่วงกลางดึกประมาณ 6 ทุ่มที่ผ่านมาโดยเสียงน้ำและน้ำได้ไหลหลากเข้าท่วมบ้านอย่างรวดเร็วความรุนแรงของกระแสน้ำยังทำให้บ้านพังเสียหายคอกวัว คอกสัตว์เลี้ยงถูกน้ำพัดพาเสียหายไปทั้งหมด เป็นภาพที่น่ากลัวอย่างมากไม่เคยพบเจอมาก่อน น้ำจากที่สูงไหลหลงมายังหมู่บ้านแบบนี้ในบ้านก็เต็มไปด้วนโคลนตมและสยังมีต้นไม้หักทับบ้านพังอีกจำนวนมาก
ด้านายสุวิทย์คำดีผู้ว่าราชการจ.กาฬสินธุ์กล่าวว่าสถานการณ์ในพื้นที่จ.กาฬสินธุ์มีฝนตกหนักมากโดยเฉพาะที่อ.ห้วยผึ่งมีปริมาณฝนสูงสุดที่ 235 มิลลิเมตร รองลงมาคืออ.นาคู 180 มิลลิเมตร อ.สหัสขันธ์ 152 มิลลิเมตร รวมถึงอ.สมเด็จ และอ.นามนที่เป้นพื้นที่ติดต่อในแนวเขตเทือกเขาภูพานทำให้เกิดปัญหาน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร อ.นามน 20 หลังคาเรือน อ.นาคู 15 หลังคาเรือน และอ.เมืองกาฬสินธุ์อีก 10 หลังคาเรือนและนอกจากนี้ยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมแต่ที่เสียหายหนักคือถนนสายกาฬสินธุ์ - นามน ถนนเชื่อมต่อระหว่างสะพานพังเสียหายความยาวกว่า 15 เมตรจากน้ำป่าที่ซัดจนพังทลายไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ต้องปิดเส้นทางและให้ประชาชนได้ใช้ทางเลี่ยงแทนซึ่งได้สั่งการให้ทางแขวงการทาง จ.กาฬสินธุ์กรมทางหลวงชนบท ได้นำสะพานแบร์ริ่ง ความยาวกว่า 51 เมตร จากศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 2 ขอนแก่น กรมทางหลวง มาติดตั้งที่จะเริ่มติดตั้งทันทีในวันพรุ่งนี้และคาดว่าน่าจะสามารถเปิดเส้นทางจราจรได้ภายใน 15.00 น. วันที่ 17 ก.ย.นี้ โดยทางจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้บูรณาการคณะกรรมการทุกฝ่ายเข้าแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนตามภารกิจโดยยึดคำสั่งจากคณะรัฐมนตรีที่จะต้องบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนภายใน 48 ชม. อย่างไรก็ตามสถานการณ์น้ำเขื่อนลำปาวยังไม่น่าห่วงในช่วงนี้ โดยปัจจุบันเขื่อนลำปาวมีปริมาณน้ำร้อยละ 80 หรือ 1581 ล้าน ลบ.ม. มีการระบายน้ำที่ 13 ล้าน ลบ.ม. โดยพื้นที่ 5 อำเภอที่ยังประสบน้ำท่วมขัง ยังไม่ได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากพายุทกซูรี
ขณะที่จากการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่อ.เขาวง อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์ โดยช่วงนี้ในพื้นได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ“ทกซูรี”ส่งผลให้มีฝนตกหนักตลอดทั้งวันทั้งคืนในทุกพื้นที่และมีลมกันโชกแรงในบางพื้นที่ซึ่งตอนนี้พบว่าผลกระทบจากพายุ“ทกซูรี”ที่ทำให้ฝนตกตลอดทั้งวันทั้งคืนนั้นทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยยางที่ไหลลงมาจากเทือกเขาภูพานไหลบ่าท่วมถนนทางหลวงหมายเลข2291อำเภอห้วยผึ้ง-อำเภอนาคูช่วงบริเวณหน้าวัดบ้านวังเวียงไปจนถึงหน้าสหกรณ์การเกษตรอำเภอนาคูจึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนผู้ที่สัญจรไปมาบนถนนทางหลวงหมายเลข2291ใช้ความระมัดระวังในการเดินทางเนื่องจากปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้เกิดน้ำท่วมถนนสายห้วยผึ้ง-นาคูจนปิดช่องทางเดินรถทั้งหมด
เช่นเดียวกับถนนทางหลวงชนบทหมายเลข2101บ้านภูแล่นช้าง-บ้านโนนศิวิลัยก็ได้ผลกระทบจากพายุ“ทกซูรี”ทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยลำพะยังตอนบนสมทบกับน้ำจากลำห้วยยางที่มาจากเทือกเขาภูพานทำให้ประมาณน้ำในลำห้วยลำพะยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและทะลักออกท่วมถนนทางหลวงชนบทหมายเลข2101บ้านภูแล่นช้าง -บ้านโนนศิวิลัยจนปิดช่องจราจรทั้งหมดรถเล็กไม่สามารถผ่านได้เพราะกระเเสน้ำที่ไหลเชี่ยวตั้งแต่บริเวณบ้านเมืองภูหมู่9จนถึงทางเข้าบ้านโพนสวางหมู่6จึงฝากเตือนพี่น้องประชาชนที่สัญจรบนถนนทางหลวงชนบท