เริ่มแล้ว! เทศกาลส้มโอเวียงแก่นกระตุ้นท่องเที่ยว

เริ่มแล้ว! เทศกาลส้มโอเวียงแก่นกระตุ้นท่องเที่ยว

เปิดแล้ว! เทศกาลส้มโอ และของดีเวียงแก่น ประจำปี 2560 เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว เป็นส้มโอปลอดสารแหล่งเดียวในประเทศที่ส่งออกไปยัง "ตลาดอียู" นานกว่า 13 ปี สร้างรายได้ปีละไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท

วันนี้ (9ก.ย.60) ที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดงานเทศกาลส้มโอ และของดีอำเภอเวียงแก่น ประจำปี 2560 ซึ่งทางอำเภอเวียงแก่นจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมกระตุ้นการท่องเที่ยว และเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ส้มโอเวียงแก่น ซึ่งเป็นส้มโอปลอดสารเคมีแหล่งเดียวของประเทศที่สามารถออกตลาดยุโรป หรือตลาดอียูมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2547 ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคเพื่อสร้างตลาดใหม่แก่เกษตรกร โดยมีนายสิทธิศักดิ์ แย้มพรายภิรมย์ นายอำเภอเวียงแก่น นำหัวหน้าส่วนราชการ เกษตรชาวสวน และประชาชนเข้าร่วมงานกว่า 2,000 คน

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า งานเทศกาลส้มโอและของดีอำเภอเวียงแก่น ครั้งนี้จัดขึ้นติดต่อกันเป็นครั้งที่ 20 โดยจะจัดขึ้นที่ลานหน้าที่ว่าการอำเภอเวียงแก่น ระหว่างวันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 กันยายน 2560 ซึ่งปีนี้จัดขึ้นเป็นพิเศษกว่าทุกปีที่ผ่านมา มีการรำบวงสรวงเจ้าเวียงแก่นโดยกลุ่มแม่บ้านกว่า 1,000 คน ขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่ด้วยขบวนชนเผ่า 9 ชนเผ่า และการประกวดธิดาส้มโอ ประกวดอาหารแปรรูปจากส้มโอ และประกวดผลผลิตส้มโอ ยังมีการเปิดตัวส้มโอ “ทับทิมล้านนา” เป็นส้มโอพันธุ์ใหม่ที่เพิ่งให้ผลผลิตเป็นปีแรก ซึ่งมีเนื้อในเป็นสีชมพูเข้มคล้ายสีทับทิม ให้นักท่องเที่ยวที่ไปในงานได้ชิมด้วย

ซึ่งภายในงานนักท่องเที่ยวสามารถเลือกชิมฟรีและซื้อส้มโอพันธุ์ทองดี พันธุ์ขาวใหญ่ และพันธุ์เซลเลอร์ปลอดสารเคมี ราคาถูกโดยตรงจากชาวสวนและสามารถเข้าไปเที่ยวชมสวนส้มโอด้วย สำหรับอำเภอเวียงแก่นปัจจุบันมีพื้นที่ปลูกส้มโอกว่า 5,500 ไร่ ปีนี้ให้ผลผลิตกว่า 10,000 ตัน สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวสวนส้มโอในอำเภอวียงแก่นปีละกว่า 400 ล้านบาท ผลผลิต 80% ส่งออกขายตลาดอียู และตลาดเอเชีย อย่าง จีน เวียดนาม ฮ่องกง และญี่ปุ่น ส่วนอีก 20 % ขายในประเทศ การจัดงานเทศกาลส้มโอและของดีอำเภอเวียงแก่น ถือเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่สามารถเปิดให้มีการเจรจาการจำหน่ายส้มโอ ระหว่างเกษตรกรและพ่อค้าคนกลางด้วย คาดจะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจนชาวลาวจากเมืองห้วยทราย และเมืองปากทา จากแขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ฝั่งตรงข้ามอำเภอเวียงแก่นมาร่วมงานนับหมื่นคน