


“ศรีวราห์” มั่นใจหลักฐาน ดีเอ็นเอ-อสุจิ เอาผิด 4 ทรชน รุมโทรม-ฆ่าอำพราง สาวหนองแค
เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่สภ.หนองแค จ.สระบุรี พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) ลงพื้นที่ สอบปากคำ นายสันติ หรือ ลาภ ทิพมล อายุ 23 ปี ,นายศุภกร หรือ กอล์ฟ โสภา อายุ 23 ปี ,นายอธิพัชร์ หรือ ก้อง อภิญญากุล อายุ 23 ปี แฟนหนุ่มของ น.ส.นิศากร พุ่มพงษ์ หรือบุ๋ม อายุ 24 ปี ผู้เสียชีวิต และนายนันทพร หรือ โอ๊ต บุญมาก ที่ถูกออกหมายจับในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่น ,ย้ายหรือทำลายศพเพื่อปิดบังสาเหตุการตาย และร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราลักษณะโทรมหญิง หลังตกเป็นผู้ต้องหาก่อเหตุฆาตกรรม น.ส.นิศากร และถูกจับกุมได้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตำรวจได้ดำเนินการแสดงหมายจับต่อ 4 ผู้ต้องหาโดยทั้งหมดยอมรับว่าเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง รวมถึงมีการตั้งทนายความขึ้นมา 1 คน จากนั้นได้คุมตัวค้นหาทั้งหมดไปให้พยานซึ่งเป็นเพื่อนและครอบครัวของผู้ตายชี้ตัว ว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริงหรือไม่ และเป็นการยืนยันคำให้การของพยาน โดยพยานยืนยันใบหน้า ผู้ต้องกาเพียง2คน เท่านั้นที่อยู่ในวันเกิดเหตุ
พล.ต.อ.ศรีวราห์ เปิดเผยว่าจากการสอบปากคำผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการรุมโทรมหญิงและฆาตกรรม แต่ทางตำรวจยืนยันว่ามีพยานหลักฐานชัดเจนในที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นดีเอ็นเอบนร่างกายของศพ รอยแผล ขนเพชร อสุจิ และยังพบดีเอ็นเอของผู้ต้องหาบางคนบนวัตถุที่ใช้สำหรับผูกคอ รวมถึงข้อความบนโซเชียลมีเดียที่มีการส่งถึงกันในวันเกิดเหตุ ขณะที่ผู้ตายมีการดื่มแอลกอฮอลล์ในปริมาณหนึ่ง อย่างไรก็ตามต้องรอสอบปากคำผู้เชี่ยวชาญประกอบ ทั้งนี้ยังมีหลักฐานคำให้การของพยานอีก 25 ปาก จนสามารถออกหมายจับได้ จึงยืนยันว่าจะสามารถเอาผิดผู้ต้องหาทั้งหมดได้ ส่วนสาเหตุจูงใจเชื่อได้ว่าการก่อเหตุรุมโทรมเป็นชนวนเหตุที่ทำให้เกิดการฆาตกรรม ซึ่งเป็นไปได้ว่ากลุ่มผู้ต้องหาเกรงผู้ตายจะเอาเรื่อง
พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวยืนยันว่า ขอให้ทางครอบครัวผู้ตายสบายใจ โดยยืนยันว่าตำรวจดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และไม่มีการกดดันจากผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รวมถึงสั่งการให้ทางภูธรจังหวัดสระบุรี เรียกตำรวจที่เป็นบิดาของหนึ่งในผู้ต้องหาพบ เพื่อทำบันทึกกำชับไม่ให้เข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดี ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้จะทำการสอบปากคำผู้ต้องหาทำประวัติพิมพ์ลายนิ้วมือ ก่อนจะนำตัวขออำนาจศาลจังหวัดสระบุรีฝากขังในวันพรุ่งนี้(6 ก.ย.) พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเรงว่าจะหลบหนี อย่างไรก็ตาม หากพบหลักฐานว่ามีผู้เกี่ยวข้องหรือให้การสนับสนุนเพิ่มเติมจะถูกดำเนินคดีทั้งหมด โดยสั่งการขยายผลแล้ว ตามที่ทนายเชื่อว่าน่าจะมีคนร่วม สั่งการเกี่ยวข้องอีก
ด้านครอบครัวของผู้ตายได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเร่งรัดคดีจนสามารถจับกุมได้ และพอใจในการผลการทำคดี และขอให้ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา

