ดญ.วัย14ดับปริศนา ตร.-แม่-เพื่อนไม่เชื่อตายเพราะเหล็กดัดฟัน

ดญ.วัย14ดับปริศนา ตร.-แม่-เพื่อนไม่เชื่อตายเพราะเหล็กดัดฟัน

โต้ข่าวโซเชียล! เหตุดญ.วัย14ดับปริศนา ด้าน "ตร.-แม่-เพื่อน" ไม่เชื่อตายเพราะเหล็กดัดฟันหลุดเข้าไปในลำคอ คาดถูกฆาตกรรม

ร.ต.อ.เสถียรพงษ์ อ่อนสีทอง รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวถึงกรณีมีเพจข่าวท้องถิ่นชื่อดัง เผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับเด็กหญิงสาววัย 14 ปี นอนเสียชีวิตอย่างปริศนาบนที่นอนภายในบ้านพักว่า “#จัดฟันแฟชั่นโคตรอันตรายเหล็กหลุดลงคอขวางหลอดลมทำให้ตายได้” จนมีสื่อบางสำนักนำไปตีแพร่เผยแพร่ต่อผ่านทางเวปไซต์นั้นว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงของเด็กหญิงรายดังกล่าวว่าเกิดขึ้นจากสาเหตุใด

แต่หลังจากทางแพทย์ รพ.บ้านโพธิ์ เดินทางเข้าไปร่วมชันสูตรพลิกศพแล้ว และได้ทำการล้วงเข้าไปยังภายในลำคอของเด็กสาว กลับไม่พบอะไรหลุดลงไปติดยังที่ลำคอ นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุและตามร่างกายของผู้ตายยังพบสิ่งผิดปกติ ที่น่าสงสัยอีกหลายประการ ทั้งร่องรอยกองเลือด ที่นอกจะพบตรงบริเวณบนที่นอนจุดที่พบศพของผู้ตายแล้ว ยังไปพบอีกจุดตรงที่บริเวณมุมห้องห่างจากจุดแรกอีกประมาณ 2.5 เมตร ที่พื้นห้องมีรอยคราบเลือดอีกหลายจุด ผ้าปูที่นอนถูกถลกขึ้น มาวางไว้อยู่ใต้ศพ

และยังพบร่องรอยคล้ายกับถูกเส้นลวดขนาดเล็กรัดที่ลำคอจนขาดอากาศหายใจ และเป็นรอยเขียวช้ำขนาดเท่ากับเส้นลวดเล็กๆ รอบลำคอ ที่ข้างจมูกและบริเวณใต้ตาซ้ายพบรอยข่วนจนมีแผลเป็นทางยาว นอกจากนี้ยังพบมีรอยเขียวช้ำที่บริเวณใต้ลิ้นปี่ และหัวไหล่ทั้งสองข้างอีก 2 จุด

ส่วนสภาพแวดล้อมที่เกิดเหตุยังพบความผิดปกติ ในขณะที่มารดามาพบศพของผู้ตาย ยังพบว่าผู้ตายนั้นนอนกลับหัวจากปกติที่เคยนอนหันศีรษะไปทางด้านทิศตะวันออก แต่ในขณะพบศพนั้นกลับพบว่าผู้ตายนั้นนอนหันศีรษะไปทางทิศตะวันตก ตลอดจนยังพบว่าประตูบ้านไม่ได้ล็อกกลอนตลอดทั้งคืนจนถึงช่วงรุ่งสาง ก่อนที่ผู้เป็นมารดาจะเดินทางกลับเข้าบ้านมาพบกับศพของผู้เสียชีวิตอีกด้วย

"ขณะนี้ได้ส่งศพไปชันสูตรยังที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ และได้ให้กองพิสูจน์หลักฐานเก็บลายนิ้วมือแฝงบนคราบเลือด และดีเอ็นเอแฝงตามรอยขีดข่วนตามร่างกาย ตลอดจนเนื้อเยื่อบนเล็บมือของผู้ตาย และตรวจภายในเพื่อหาคราบอสุจิ ในการหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป" ร.ต.อ.เสถียรพงษ์ กล่าว

ด้านนางเจนจิรา แสงเกิด อายุ 44 ปี ชาวต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา มารดาของผู้เสียชีวิต คือ เด็กหญิงบงกช แสงเกิด อายุ 14 ปี 7 เดือน 26 วัน นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกัน เล่าว่า หลังจากปล่อยให้บุตรสาวอยู่บ้านแต่เพียงลำพังคนเดียวจนเกือบตลอดทั้งคืนนั้น เมื่อกลับเข้ามาถึงบ้านในช่วงเวลาประมาณ 04.00 น. ได้พบกับความผิดปกติเกิดขึ้นภายในบ้าน คือ บุตรสาวไม่ได้ล็อกใส่กลอนประตูบ้าน ซึ่งโดยปกติแล้วบุตรสาวจะทำการล็อกประตูบ้านไว้อยู่ตลอดเวลาในขณะที่อยู่บ้านแต่เพียงลำพัง

และยังพบความผิดปกติอีกประการหนึ่ง คือ บุตรสาวนั้นนอนคว่ำหน้ากลับหัว จากปกติที่บุตรสาวจะนอนหันศีรษะไปทางหน้าต่างที่ด้านทิศตะวันออกของตัวบ้าน แต่ในขณะที่เข้ามาพบศพกลับพบว่าบุตรสาวนั้นนอนหันศีรษะมาทางด้านทิศตะวันตก จึงได้ร้องเรียกถามไปยังบุตรสาวว่า “ทำไม่ถึงนอนหันหัวมาทางนี้” แต่บุตรสาวไม่ตอบ จนเมื่อเข้ามาดูจึงพบว่าบุตรสาวนั้นเสียชีวิตไปแล้ว

ซึ่งปกติบุตรสาวนั้นชอบใส่เหล็กจัดฟันแฟชั่น ที่ซื้อมาใส่เองเมื่อประมาณ 2 ปีเศษแล้ว ซึ่งตนก็ได้เคยเตือนอยู่เป็นประจำว่าไม่ควรใส่ แต่บุตรสาวชอบ และก็มักจะถอดเปลี่ยนใส่เข้าออก และดูแลอย่างดีอยู่เป็นประจำ จึงไม่น่าจะทำหลุดลงเข้าไปในลำคอได้ และเมื่อทางพี่ชายของตนมาทดลองล้วงคอของบุตรสาวพร้อมด้วยแพทย์ที่มาร่วมชันสูตรก็ไม่พบว่ามีอะไรหลุดเข้าไปติดอยู่ในลำคอ

ขณะนี้จึงยังต้องรอผลจากการชันสูตรของทางแพทย์สถาบันนิติเวช มายืนยันอีกครั้ง โดยทางญาติเชื่อว่าอาจจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่า เนื่องจากพบกองเลือดหลายจุด และพบร่องรอยเขียวช้ำอยู่ที่ใต้ไหปลาร้า และรอยเขียวที่ลำคอบนศพบุตรสาวด้วย นางเจนจิรา กล่าว

ขณะเดียวกัน ด.ญ.ฝน และ ด.ญ.รัตน์ เพื่อนร่วมชั้นเรียนกล่าวว่า เมื่อทราบข่าวถึงการเสียชีวิตของเพื่อนร่วมห้องรายนี้ เพื่อนในห้องก็ต่างพากันตกใจและมีคนสอบถามกันมามาก เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมายังได้พูดคุยกันจนถึงช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. ผ่านทางการแชทกลุ่มโลกโซเชียลอยู่เลย ซึ่งปกติตนและผู้ตายจะสนิทสนมกันมาก และมักจะไปมาหาสู่กันอยู่เป็นประจำ

โดยเป็นเพื่อนเล่นกันมาโดยตลอด ที่ผ่านมาพวกตนก็ยังเข้าไปเล่นอยู่ด้วยกันเป็นประจำภายในบ้านหลังที่เกิดเหตุนี้ ซึ่งตนไม่เชื่อว่าเพื่อนนั้นจะตายด้วยเหล็กจัดฟัน เพราะเชื่อว่าคงไม่มีโอกาสที่จะเป็นไปได้ เนื่องจากหากเหล็กจัดฟันหลุดก็จะหลุดออกมาหมดทั้งแผง เพราะเป็นเหล็กชิ้นเดียว ส่วนเกล็ดสะท้อนแสงที่ติดประดับมาบนเหล็กจัดฟันนั้น ก็เป็นเพียงแผ่นเล็กๆ กลมๆ เท่านั้น ถ้าหากหลุด หรือผลุบลงเข้าไปในลำคอก็จะตกลงไปอยู่ภายในท้องได้เลย เพราะชิ้นมันเล็กมากจนไม่สามารถที่จะไปติดคาอยู่ในลำคอได้

สำหรับเรื่องส่วนตัวนั้น ผู้ตายก็ไม่เคยเล่าเรื่องความผิดปกติอะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตให้ฟังมาก่อน แต่ได้มีเพื่อนชายต่างโรงเรียนในวัยเดียวกัน ได้เข้ามาแอบชอบพอกับผู้ตายอยู่บ้างเท่านั้น แต่ยังไม่ได้เข้ามาคบหากันเป็นแฟนแต่อย่างใด เด็กสาวทั้งสองคนระบุ