จับหนุ่มลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ขายผ่านทางเฟซบุ้ก ส่วนใหญ่มาจากป่าดงดิบทางใต้ “นกเค้าใหญ่พันธุ์สุมาตรา” นำเข้าจากอินโดนีเซีย มีตัวเดียวในไทย
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 กรกฎาคม พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี รองผบช.น. พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.4 บก.สส.บช.น. ดร.ดาญจนา นิตยะ ผอ.สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ นายภิราเดช ปาละสุวรรณ เจ้าหน้าที่ บก.ปทส.บช.ก. และชุดเหยี่ยวดง ร่วมแถลงข่าว จับกุม น.ส.วชิรากรณ์ หมู่เจริญ อายุ 21 ปี ที่บ้านเลขที่ 148/1350 ซ.รามคำแหง 190 แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง ตัวนาคเล็กเล็บสั้น 8 ตัว นางอาย 2 ตัว นกเค้าจุด 2 ตัว พร้อมกรงขังและกล่องพลาสติก และจับกุมนายพนม ชุ่มอนงค์ อายุ 31 ปี ที่บ้านเลขที่95 ถนนพระราม2 ซอย 20 แขวงบางมด เขตจอมทอง กรุงเทพฯ พร้อมของกลาง นางอาย 1 ตัว นกเค้าใหญ่พันธุ์สุมาตรา 1 ตัว นกแก๊ก หรือนกแกง 1 ตัว นกขุนทอง 1 ตัว
พล.ต.ต.สุธีร์ เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีการลักลอบค้าสัตว์ป่าคุ้มครอง ผ่านสื่อออนไลน์เฟซบุ๊ก จึงได้บูรณาการเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบว่ามีการนำสัตว์ป่ามาเลี้ยงขังกรงไว้จริง จึงได้จับกุมพร้อมทั้งตรวจสอบแหล่งที่มาของสัตว์ป่าทั้งหมด
ด้าน พ.ต.อ.ธีระชัย เปิดเผยว่า สัตว์ป่าดังกล่าวส่วนใหญ่อาศัยอยู่ที่ป่าดงดิบ ทางจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีการลำเลียงขึ้นมายังพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยใส่กล่องมัดมือมัดเท้าและขนส่งโดยใช้รถทัวร์ ซึ่งพบว่ามีกระบวนการดังกล่าวเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามหากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนิดคดีในข้อหาลักลอบค้าสัตว์ป่า ตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า
จากการตรวจสอบพบว่า สัตว์ป่าทั้งหมดมีราคาในท้องตลาดแตกต่างกันไป อาทิ นางอาย ราคาตัวละ 2,500 บาท นกเงือก ราคา 7,500 บาท นกเค้าใหญ่พันธุ์สุมาตรา ซึ่งเป็นนกที่มีเพียงตัวเดียวในประเทศไทยโดยนำเข้ามาจากประเทศอินโดนิเซีย ขายในราคา 11,000 บาท เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองรายพร้อมแจ้งข้อหา มีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2534 ส่วนสัตว์ป่าที่ยึดได้จะนำส่งกรมอุทยานเพื่อดูแลพักฟื้นก่อนปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
“การลักลอบค้าสัตว์ป่าและเลี้ยงสัตว์ป่า เป็นสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตามพ.ร.บ.คุ้มครองสัตว์ป่า ปี 2534. มีอัตราโทษจำคุกไม่เกินสี่ปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่น หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ใดพบเห็นพฤติกรรมดังกล่าวสามารถแจ้งได้ที่เบอร์ 1362 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตลอดเวลา” พล.ต.ต.สุธีร์ กล่าว