เปิดผลงานดาวยิงหมายเลข 9 ทีมปีศาจแดง

ความเคลื่อนไหวการเสริมทัพของ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” ช่วงนี้อยู่ที่การควานหาตัวศูนย์หน้าของทีมรายใหม่
ระหว่างที่เขียนบทความชิ้นนี้ทีมปีศาจแดงกำลังข่าวว่ากำลังตกลงเรื่องค่าตัวและใกล้ที่จะได้ “โรเมลู ลูกากู” จากเอฟเวอร์ตันมาร่วมทีม หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวต่อเนื่องกับ “อัลบาโร โมราตา” ศูนย์หน้าชาวสเปนิช ของเรอัล มาดริด มาต่อเนื่องมากกว่า
แต่ไม่ว่าแมนฯยูไนเต็ดจะได้ตัวลูกากูหรือไม่ ตำแหน่งศูนย์หน้าก็เป็นเรื่องที่บรรดาเรดเดวิลล์จับตา นั่นก็เพราะเบอร์เสื้อ “หมายเลข 9” ของทีมกำลังว่างลง หลังจากที่”ซลาตัน อิบราฮิโมวิช” ดาวยิงตัวเก่งของทีมและเป็นเจ้าของหมายเลขเสื้อตัวนี้อำลาทีมไป ซึ่งที่ผ่านมาก็มีนักเตะหลายคนที่มาสวมเสื้อหมายเลข 9 นี้ ซึ่งมีทั้งประสบความสำเร็จและล้มเหลว
ไบรอัน แมคแคลร์
อเล็กซ์ เฟอร์กูสันซื้อตัวอดีตศูนย์หน้าทีมชาติสก็อตแลนด์รายนี้มาจากกลาสโกว์ เซลติก ในปี 1987 ด้วยค่าตัว 8.5 แสนปอนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ฟุตบอลอังกฤษยังไม่มีการปักชื่อและระบุเบอร์เสื้อให้นักเตะชัดเจน ซึ่งเบอร์เสื้อหลายคนก็สลับเบอร์ใส่ไปเรื่อย จนช่วงปลายฤดูกาล 1992-1993 จึงจะมีการกำหนดเรื่องดังกล่าว แมคแคลร์ ก็ได้สวมหมายเลข 9 ให้กับทีม (ก่อนจะเปลี่ยนเป็น 13) โดยตลอด 11 ซีซั่นทีมรับใช้แมนฯยูไนเต็ด ชอคซี่ ทำไป 127 ประตู จาก 471 นัด คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกไป 4 ครั้ง เอฟเอคัพ 3 ครั้ง และลีกคัพ,คัพวินเนอร์ส คัพ รวมถึง ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ อย่างละสมัย
แอนดี้ โคล
โคล ย้ายจากนิวคาสเซิลมาแมนฯยูไนเต็ด ในเดือนมกราคม ปี 1995 ด้วยค่าตัว 7 ล้านปอนด์เป็นสถิติของเกาอังกฤษเวลานั้น โดยแรกเริ่มใส่เสื้อหมายเลข 17 ก่อนที่ในฤดูกาล 1996-1997 จะเปลี่ยนมาสวมเป็นหมายเลข 9 แม้ว่าจะถูกวิจารณ์เรื่องจังหวะการจบสกอร์ที่ผิดพลาดบ่อย แต่คิงโคลก็จัดได้ว่าเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งในอังกฤษ ยิงให้ทีมปีศาจแดงไป 121 ประตูจาก 275 นัด พ่วงด้วยเกียรติประวัติ แชมป์พรีเมียร์ลีก 5 ครั้ง แชมป์เอฟเอคัพ,ยูฟ่า แชมเปี้ยนสลีก และสโมสรโลก อีกอย่างละหนึ่งครั้ง รวมถึงเป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกสูงสุดตลอดกาลอันดับที่สามที่ 187 ประตู อีกด้วย
หลุยส์ ซาฮา
ฤดูกาล 2003-2004 แมนฯยูไนเต็ด เหลือศูนย์หน้าที่ฝากความหวังไว้ได้แค่รุด ฟานนิสเตลรอยคนเดียว โดยโอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ บาดเจ็บบ่อยครั้งขณะที่ อลัน สมิธ และ ดีเอโก้ ฟอร์ลัน ก็ทำผลงานไม่ได้ดังคาดหวัง
ทำให้ช่วงครึ่งฤดูกาลหลังทีมต้องไปดึงตัว หลุยส์ ซาฮา ศูนย์หน้าฟอร์มแรงจากฟูแลม มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 12.8 ล้านปอนด์ อย่างไรก็ตามแม้ว่าฟอร์มการเล่นของศูนย์หน้าชาวฝรั่งเศสจะไม่ได้ขี้เหร่อะไร และทำประตูได้เป็นระยะ รวมถึงอยู่ในทีมชุดประสบความสำเร็จหลายรายการได้แชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง ลีกคัพและยูฟ่าแชมเปี้ยนสลีกอีกอย่างละสมัย แต่ด้วยที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเสมอจึงฝากผลงานทำประตูไว้แค่ 42 ประตู จา 124 เกม ตลอด 4 ซีซั่นครึ่งในสีเสื้อทีมปีศาจแดง
ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ
เจ้าของค่าตัว 30.75 ล้านปอนด์ที่แมนฯยูไนเต็ด จ่ายให้กับท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในฤดูกาล 2008-2009 มาประสานงานร่วมกับ คริสเตียนโน่ โรนัลโด้,เวย์น รูนี่ย์ และคาร์ลอส เตเบส ยิ่งทำให้ทีมปีศาจแดงมีแนวรุกอันเป็นที่ครั่นคร้ามไปทั่วยุโรปในเวลานั้น ศูนย์หน้าชาวบัลแกเรียทำไป 56 ประตู จาก 149 เกม คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 ครั้ง ลีก คัพและสโมสรโลก อีกอย่างละสมัย อีกทั้งฝากประตูที่สวยๆที่อยู่ในความทรงจำมากมาย หนึ่งในนั้นคือการทำแฮตทริคได้ ในเกมที่แมนฯยูไนเต็ด เอาชนะลิเวอร์พูลไป 3-2 ในปี 2010
ราดาเมล ฟัลเกา
ฤดูกาล 2014-2015 ที่ หลุยส์ ฟานกัล กุนซือชาวดัชต์เข้ามาทำทีมปีศาจแดงมีการทุ่มเงินซื้อตัวผู้เล่นเสริมทีมหลายคน เพื่อหวังจะพาทีมประสบความสำเร็จให้ได้ หนึ่งในนั้นคือการยืมตัว “ราดาเมล ฟัลเกา” กองหน้าทีมชาติโคลอมเบียมาจาก โมนาโก โดยทุ่มด้วยค่าเหนื่อย 2.65 แสนปอนด์ พร้อมออปชั่นซื้อขาด
แต่อย่างไรก็ตามอดีตดาวซัลโว ลา ลีกา ไม่สามารถรับมือเกมที่รวดเร็ว และสภาพสนามที่ชื้นแฉะของเกาะอังกฤษได้ ทำได้แค่ 4 ประตูจากการลงเล่นให้ 29 นัด ก่อนที่จะมาตอกย้ำความล้มเหลวในอังกฤษอีกครั้งเมื่อฤดูกาลถัดมาย้ายไปเล่นให้เชลซีก็ทำได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น กลายเป็นอีกหนึ่งนักเตะอเมริกาใต้ ที่เอาชื่อมาทิ้งไว้บนเกาะอังกฤษอีกคน
อองโตนี่ มาร์กซิยาล
บางคนอาจจะลืมไปแล้วว่าเมื่อครั้งที่มาร์กซิยาล ย้ายจากโมนาโกมาแมนฯยูไนเต็ด ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 36 ล้านปอนด์ ได้สวมเบอร์ 9 ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเบอร์ 11 ซึ่งในฤดูกาลแรกที่มาอยู่กับทีมก็สำแดงฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยมเป็นความหวังให้กับสโมสรและทีมชาติฝรั่งเศสเลยทีเดียว โดยทำไป 17 ประตู ให้กับทีม แต่พอซีซั่นต่อมาเมื่อเปลี่ยนเบอร์เสื้อเป็น 11 ฟอร์มการเล่นของมาร์กซิยาล เหมือนโดนพรากไปพร้อมกับเบอร์ 9 ได้ลง 28 นัดแต่ต้องเป็นตัวสำรองถึง 14 นัด ทำไป 8 ประตู ซึ่งหลายคนก็หวังว่าซีซั่นที่กำลังจะมาถึงนี้ดาวเตะฝรั่งเศสจะสามารถกลับมางัดฟอร์มเก่งได้
ซลาตัน อิบราฮิโมวิช
คงไม่ต้องบรรยายความอยดเยี่ยมของดาวยิงชาวสวีเดนคนนี้ ถือว่าเป็นส่วนสำคัญสำหรับความสำเร็จสองรายการของทีมทั้งยูโรป้า ลีก และเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา พร้อมทั้งคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของทีมทำไป 28 ประตู จาก 41 นัด ว่ากันว่าหากอิบราฮิโมวิช ไม่บาดเจ็บไป ตำแหน่งในลีกของทีมปีศาจแดงเมื่อซีซั่นที่แล้วอาจจะสูงกว่าที่หกก็ได้ ซึ่งอาการบาดเจ็บที่เอ็นหัวเข่าก็ทำให้เส้นทางของเขากับแมนฯยูไนเต็ด ต้องพรากจากกัน แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือซลาตันจะยังมีไฟเล่นฟุตบอลต่อไปหรือไม่เพราะกว่าจะหายจากอาการบาดเจ็บคือปี 2018 ซึ่งทำให้เขาอายุย่าง 37 ปีแล้วนั่นเอง
นอกจากเบอร์เสื้อหมายเลข 9 แล้วที่แฟนบอลแมนฯยูไนเต็ดอยากรู้ว่าจะเป็นใคร ผลงานจะดีหรือไม่ แต่กระนั้นต้องไม่ลืมว่าอีกหนึ่งเบอร์สำคัญก็อาจจะว่างลงเช่นกันในซีซั่นที่จะถึงนี้นั่นคือเบอร์ 10 ของเวย์น รูนี่ ไม่แน่ว่าศูนย์หน้ารายใหม่ของทีมอาจจะเลือกเบอร์นี้แทนก็ได้







