เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 19 มิถุนายน ตำรวจสภ.หาดใหญ่ รับแจ้งได้เกิดเหตุยิงกันตายและได้รับบาดเจ็บขึ้นที่บ้านบ้านเลขที่ 26/29 ถนนราษฎร์ยินดี หรือถนนสามสิบเมตร เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นบ้านทาวเฮ้าส์ 5 ชั้น จุดเกิดเหตุอยู่บนห้องนอนชั้นที่ 5 โดยมี พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ พร้อม พ.ต.ท.ธนวัต เส้งสุย รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ฉัตรชัย บำรุงกรณ์ รอง ผกก.(สอบสวน) ไปร่วมกันตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ พบร่าง นายอำพล ชลภักดี อายุ 61 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 11 มม. เข้าที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายทะลุท้ายทอย ได้รับบาดเจ็บสาหัสนอนหายใจรวยรินอยู่หน้าห้องน้ำ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่ต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ใกล้กันภายในห้องน้ำมีศพของ นายวัชระ ชลภักดี อายุ 30 ปี หรือปาล์ม ซึ่งเป็นลูกชายของ นายอำพล ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่กลางหน้าอก 1 นัด ข้างตัวมีปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายวัชระ มีปากเสียงกับ นายอำพล ผู้เป็นพ่อ เรื่องที่จะนำสุนัขพันธุ์พิตบูลมาเลี้ยงในบ้าน เนื่องจากภายในบ้านยังมีลูกวัย 5 ขวบ อีก 1 คน ที่เกิดจากภรรยาใหม่อยู่ด้วย ฝ่ายพ่อเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงเกิดการโต้เถียงและชกต่อยกันขึ้น และสิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ นายวัชระ หยิบเอาปืนในลิ้นชักออกมาจ่อยิงพ่อของตัวเองเข้าที่บริเวณหน้าผากล้มลมกับพื้น ก่อนสำนึกผิดหันปากกระบอกปืนเล็งเข้าที่หน้าออกลั่นไกฆ่าตัวตาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่เจ้าหน้าที่เข้าตรวจที่เกิดเหตุยังมีสุนัขพันธุ์พิตบูลนั่งเฝ้าศพของนายวัชระ อยู่ใกล้ๆ ต้องให้ญาติช่วยนำลงไปผูกไว้ยังชั้นที่ 2 ของบ้านหลังเกิดเหตุ
ทั้งนี้ นายวัชระ เคยก่อเหตุบุกเดี่ยวจี้ชิงร้านทองทรัพย์ไปไพศาล ย่านซีกิมหยง กลางเมืองหาดใหญ่ ได้ทองหนัก 50 บาท มูลค่า 8 แสนบาท เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2552 แต่ก็ถูกตำรวจจับกุมได้ ก่อนสารภาพว่าสาเหตุที่ลงมือเนื่องจากเป็นหนี้พนันฟุตบอล และพ้นโทษออกมาได้ประมาณปีกว่า ส่วน นายอำพล ผู้เป็นพ่อก็เป็นนักธุรกิจที่มีฐานะ มีกิจการหลายอย่าง เช่น เป็นเจ้าของร้านอาหารริมบึง ซึ่งเป็นร้านอาหารชื่อดังใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
