ยโสธรทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ เป็นที่นิยมผลิตไม่ทันขาย

ยโสธรทอผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติ เป็นที่นิยมผลิตไม่ทันขาย

กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโนนยาง ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ชาวบ้านได้รวมตัวกัน ก่อตั้งเป็นกลุ่มเพื่อทอผ้าไหมส่งจำหน่าย โดยใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านแบบดั้งเดิม ที่เคยปฏิบัติสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ

เริ่มต้นก่อตั้งกลุ่มครั้งแรกเมื่อปี 2524 ดำเนินการทอผ้าด้วยมือและย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งวัตถุดิบที่นำมาทำเป็นสีย้อมผ้า ก็จะได้จากต้นไม้ใบไม้ที่มีอยู่ในละแวกชุมชน อย่างเช่น เปลือกไม้ใบไม้ชนิดต่างๆที่มีอยู่ในท้องถิ่นนำไปต้มน้ำให้เดือดเพื่อจะได้สีต่างๆ ตามสีของเปลือกไม้ใบไม้แต่ละชนิด เช่น สีแดง ได้จากดอกคำฝอย รากยอ ครั่ง สีน้ำเงินได้จากต้นคราม สีเหลืองได้จากแก่นขนุน ขมิ้นชัน ดอกดาวเรือง แก่นแข รากต้นสะกือ ใบสาบเสือ ใบสมอและเหมือแอ่ สีดำได้จากลูกกระจาย ลูกมะเกลือ สีชมพูได้จากต้นมหากาฬและต้นฝาง สีน้ำตาลได้จากฝักคูณ สีม่วงอ่อนได้จากลูกหว้าสีเขียวได้จากใบดอกแก้วและสบู่เลือด ฯลฯ แต่ที่กลุ่มทอผ้าไหมบ้านโนนยางนิยมทำกันมากคือสีเขียวอ่อนที่ได้จากใบดอกแก้วและสบู่เลือด

ส่วนเส้นไหมที่เป็นวัตถุดิบหลักในการนำไปย้อมสีธรรมชาติ ก่อนนำไปทอเป็นผ้าไหม ชาวบ้านจะพากันปลูกหม่อนเลี้ยงไหมกันเองภายในชุมชน และสาวไหมด้วยมือก่อนที่จะนำเส้นไหมไปย้อมสีธรรมชาติ ตามขั้นตอนและนำไปทอมือจนได้ผ้าไหมสีธรรมชาติ ส่งจำหน่ายเรื่อยมาจนเป็นที่รู้จัก และเริ่มมีผู้สนใจเข้าไปติดต่อรับซื้อผ้าไหมย้อมสีธรรมชาติเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

สำหรับขั้นตอนการย้อมสีธรรมชาติเริ่มจากหาวัตถุดิบที่มีอยู่ใบไม้ชนิดต่างๆ ที่เราต้องการสีธรรมชาตินำไปสับเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปโขกให้ละเอียดกรองเอาแต่น้ำ แล้วนำไปน้ำที่ได้ไปต้มให้เดือด จึงนำเส้นไหมที่ฟอกทำความสะอาดลงย้อมนานประมาณ 30 นาที ก่อนนำขึ้นรอให้เย็นจึงนำไปล้างด้วยน้ำอุ่นและล้างอีกรอบด้วยน้ำเย็น แล้วนำไปทำการกระตุกเพื่อให้เส้นไหมตรงและเส้นกลมแน่น ตากลมให้แห้งก็จะได้เส้นไหมย้อมสีธรรมชาติตามที่ต้องการ จากนั้นจึงนำเส้นไหมไปทอด้วยมือเป็นผ้าไหมที่สวยงามส่งจำหน่ายเป็นรายได้ต่อไป

โดยจะจำหน่ายอยู่ที่ผืนละ 700-1,000 บาท สำหรับผ้าขาวม้า แต่ถ้าเป็นผ้าถุง หรือผ้าพื้น ราคาอยู่ที่ผืนละ 1,500 - 1,800 บาท ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม สนับสนุนงบประมาณบางส่วน ในการว่างจ้างวิทยากรเข้าไปให้ความรู้ต่อยอดเพิ่มเติม เกี่ยวกับวิธีการย้อมสีธรรมชาติและการพัฒนาลายของผ้าไหม พร้อมกับจัดซื้อกี่กระตุกเพิ่มเติมให้กับกลุ่มเพื่อที่จะสามารถทอผ้าไหมให้ทันตามความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันกลุ่มทอผ้าไหมด้วยมือย้อมสีธรรมชาติบ้านโนนยาง มีสมาชิก 43 คน มีการทอผ้าไหมส่งจำหน่ายทุกวัน ส่วนตลาดการส่งออกจะมีทั้งในจังหวัดยโสธรเอง และต่างจังหวัดที่มีการสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนทางกลุ่มไม่สามารถทอผ้าส่งให้ได้ทัน เนื่องจากการทอผ้าด้วยมือและย้อมสีธรรมชาติมีขั้นตอนยุ่งยาก ต้องใช้เวลาค่อนข้างมากในการผลิตชิ้นงานแต่ละชิ้น ซึ่งชิ้นงานที่ผลิตออกมาประกอบด้วย ผ้าขาวม้า ผ้าถุงและผ้าพื้น เป็นที่ต้องการของลูกค้า ส่งผลทำให้มีเงินหมุนเวียนภายในกลุ่มสูงถึงเดือนละไม่ต่ำกว่า 350,000 บาท โดยสมาชิกกลุ่มที่ช่วยกันทอผ้าย้อมสีธรรมชาติจะได้ค่าแรงเมตรละ 100 - 150 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของลายผ้าเฉลี่ยแล้วสมาชิกกลุ่มจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 5,000 บาทต่อคน เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างดี หลังจากที่ว่างเว้นจากการทำนาซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวบ้าน 

นางคำนาง โรมพันธ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 37 หมู่ 10 บ้านโนนยาง ตำบลพระเสาร์ อำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ประธานกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโนนยาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโนนยาง มีสมาชิกทั้งหมด 43 คน ซึ่งนอกจากจะทอผ้าไหมแล้วยังมีการทอผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติอีกด้วย เพื่อส่งจำหน่ายเป็นรายได้ ในแต่ละวันก็จะมีสมาชิกที่ว่างเว้น ผลัดเปลี่ยนกันไปทอผ้าย้อมสีธรรมชาติทุกวัน เนื่องจากขณะนี้มีผู้สนใจต้องการผ้าทอมือย้อมสีธรรมชาติเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีออเดอร์สั่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนทางกลุ่มไม่สามารถส่งจำหน่ายให้ได้ทันตามความต้องการของลูกค้า ส่วนตลาดจะมีทั้งในจังหวัดยโสธรและต่างจังหวัด โดยภายในกลุ่มจะมีเงินหมุนเวียนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 350,000 บาท ส่วนสมาชิกก็จะมีรายได้ตกเดือนละไม่ต่ำกว่า 5,000 บาท ต่อคนแล้วแต่ว่าสมาชิกคนใดขยันทำงานมากกว่ากัน ใครขยันมากก็จะมีรายได้มากตามไปด้วย สิ้นปีก็จะมีการปันผลให้กับสมาชิกด้วย 

ล่าสุดทางสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดยโสธร ได้รับงบประมาณส่วนหนึ่งเข้าไปดำเนินการต่อยอด ให้กับกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโนนยางแห่งนี้ ภายใต้โครงการการท่องเที่ยวสู่สากลด้วยวัฒนธรรมใหม่ เพื่อให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวโดยการใช้วิธีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม เป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชม และเลือกซื้อสินค้าผ้าไหม กระตุ้นเศรษฐกิจเข้าสู่ชุมชน