เช็กวงจรปิดล่าแม่ใจร้ายทิ้งศพเด็กชายย่านนางลิ้นจี่

เช็กวงจรปิดล่าแม่ใจร้ายทิ้งศพเด็กชายย่านนางลิ้นจี่

ตำรวจเร่งเช็กกล้องวงจรปิดล่าแม่ใจร้ายทิ้งศพทารกแรกเกิดเพศชายย่านนางลิ้นจี่

ร.ต.อ.มงคล ไพรศูนย์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ รับแจ้งเหตุพบศพเด็กทารกแรกเกิดภายในตึกแถวซอยนางลิ้นจี่ 5/1 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.ณรงค์ ยิ้มปั่น รอง ผกก. (สอบสวน) สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถวปลูกติดเรียงกัน 9 คูหา สูง 4 ชั้น บริเวณระเบียงกันสาดชั้นลอยชั้นที่ 2 ของตึกแถวเลขที่ 309/18 พบศพทารกแรกเกิดเพศชาย อายุครรภ์ประมาณ 9 เดือน สภาพร่างกายสมบูรณ์มีอวัยวะครบถ้วนซึ่งมีสายรกติดอยู่ที่สะดือ สภาพนอนตะแคงขวา มีบาดแผลถลอกที่แผ่นหลัง ใกล้กันพบกางเกงยีนส์ขาสั้นแบบผู้หญิงโดยมีคราบเลือดติดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนนายสายัณห์ สนแก้ว อายุ 39 ปี ชาวจ.เชียงราย กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไปมานานกว่า 10 ปีโดยพักอาศัยอยู่ภายในตึกแถวเลขที่ 309/118 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของตึกแถวจุดเกิดเหตุ โดยก่อนเกิดเหตุเมื่อเวลา 15.30 น. นางมาลี ทิพย์มัจฉาชัย อายุ 61 ปี ได้ว่าจ้างให้ตนไปวัดหน้าต่างเพื่อเตรียมเปลี่ยนใหม่ที่ชั้นลอยบริเวณชั้นที่ 2 ของตึกแถวเลขที่ 309/19 ซึ่งอยู่ติดกันกับจุดพบศพเด็กทารก โดยตนได้ใช้บันไดไม้ไผ่พาดไปที่ระเบียงชั้นลอยของตึกแถวเลขที่ 309/18 ซึ่งอยู่ติดกันเพื่อเตรียมตัวปีนขึ้นไปวัดขนาดหน้าต่าง เนื่องจากตึกแถวที่นางมาลีพักอาศัยอยู่นั้นไม่สามารถนำบันไดไม้ไผ่พาดได้ เพราะติดกันสาด เมื่อปีนขึ้นไปยังด้านบนกลับพบวัตถุบางอย่างคล้ายตุ๊กตา แต่มองไปได้สักระยะกลับพบกลุ่มแมลงวันมาลุมตอมจนแน่ชัดว่าเป็นศพเด็กทารก ด้วยความตกใจจึงรีบลงมาก่อนตัดสินใจแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว ทั้งนี้ในระแวกที่ตนพักอาศัยก็ไม่มีหญิงสาวตั้งครรภ์จึงไม่สามารถสรุปยืนยันได้ว่าเป็นบุตรของผู้ใด

ด้านพ.ต.ท.ณรงค์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องรอผลสรุปการตรวจจากทางแพทย์อีกครั้งเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและเสียชีวิตมาแล้วอย่างน้อยกี่ชั่วโมง ก่อนประสานให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ทุ่งมหาเมฆ ลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุและใกล้เคียงพร้อมทั้งสอบสวนพยานผู้เห็นเหตุการณ์เพื่อติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป