นักวัฒนธรรม มข.บุกมมส จี้ฟันผช.อธิการฯ ปมหมิ่นศิลปินแห่งชาติ
กู้ศักดิ์ศรี "ราชินีหมอลำ"! นักวัฒนธรรม มข. บุก มมส จี้ฟันผู้ช่วยอธิการบดี ปมหมิ่น "ดร.ฉวีวรรณ" ศิลปินแห่งชาติ ด้านรองอธิการฯแจงโทรขอโทษในนามมหา'ลัยแล้ว
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 21 พ.ค.2560 ที่สำงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส) กลุ่มเครือข่ายศิลปวัฒนธรรมอีสาน กลุ่มลูกศิษย์ที่มีความเคารพนับถือหมอลำฉวีวรรณ และกลุ่มเครื่อข่ายผู้ที่มีความรักความหวงแหนชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยมหาสารคาม กว่า 20 คน ได้เข้ายื่นหนังสือถึง ศ.ดร.สัมพันธ์ ฤทธิเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาสารคาม เพื่อให้ตรวจสอบจริยธรรมของ ผศ.ดร.ปฐมพงศ์ ณ จัมปาศักดิ์ ผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายกิจการพิเศษ และนักวิชาการศิลปวัฒนธรรมอีสาน
จากกรณี นำบทสัมภาษณ์ของ ดร.ฉวีวรรณ พันธุ หรือ ฉวีวรรณ ดำเนิน ที่ให้สัมภาษณ์ในเว็ปไซต์หนังสือพิมพ์ “คมชัดลึก” เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของวงการหมอลำกับสังคมไทย โดย ผศ.ดร.ปฐมพงษ์ ได้นำไปโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับข้อความที่แสดงถึงการไม่เห็นด้วยกับการให้สัมภาษณ์ของ ดร.ฉวีวรรณ พร้อมทั้งได้ให้ความเห็นถึงความจำเป็นที่หมอลำต้องเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย รวมทั้งเพศและวัยของผู้ฟัง
ซึ่งภายหลังจากที่ ผศ.ดร.ปฐมพงศ์ โพสต์ข้อความดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก ได้มีสมาชิกเข้ามาแสดงความเห็นในคอมเม้นใต้โพสต์ดังกล่าว ซึ่งมีบางช่วงที่ ผศ.ดร.ปฐมพงศ์ ได้พิมพ์ข้อความวิจารณ์ ดร.ฉวีวรรณ และมีการเชื่อมโยงไปถึงโพสต์ที่มีการชื่นชมศิลปินหมอลำรุ่นใหม่ “ลำไย ไหทองคำ” พร้อมกับมีการพูดคุยกับคนที่เข้ามาสนทนาด้วย โดยมีข้อความที่ไม่เหมาะสม เช่น “เต่าพันปี” , “ปะสา ดร. จับสลาก” , “ป้าโนเบล” และยังมีข้อความที่แสดงถึงการไม่เคารพผู้อาวุโส จนทำให้ผู้ที่พบเห็นต่างนำไปวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม และไม่ให้เกียรติของครูหมอลำที่เป็นผู้อาวุโสกว่า และเป็นศิลปินแห่งชาติด้วย
โดยการยื่นหนังสือครั้งนี้มีการอ่านหนังสือเรียกร้องด้วย โดยมีนายวรศักดิ์ วรยศ นักวัฒนธรรม สำนักวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเป็นหนึ่งในลูกศิษย์คุณแม่ฉวีวรรณ ดำเนิน ได้เดินทางไปร่วมยื่นหนังสือในครั้งนี้ด้วย และได้เป็นตัวแทนอ่านหนังสือร้องเรียนว่า การแสดงความเห็นที่แตกต่างเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมวิชาการ ที่ทางกลุ่มให้เกียรติและรับฟัง แต่ความเห็นในบางประเด็นที่บุคลากรคนดังกล่าวได้โพสต์ลงนั้น ค่อนข้างล้ำเส้น ไม่เหมาะสม เข้าข่ายการดูถูกดูหมิ่นเหยียดหยามเกียรติและศักดิ์ศรีส่วนบุคคล ตลอดจนศักดิ์และสิทธิ์แห่งปริญญาของสถาบัน เช่น ข้อความที่โพสต์ว่า “ปะสา ดร. จับสลาก”(ก็แค่ด็อกเตอร์จับสลาก)
ถึงแม้ผู้โพสต์จะโพสต์ในหน้ากระดานส่วนตัวและไม่ได้ระบุชื่อผู้ถูกอ้างถึงเฉพาะ แต่จากที่ได้วิเคราะห์ข้อมูลและเชื่อมโยงบริบทประเด็นในการสนทนาในหน้ากระดาน Facebook ของบุคลากรคนดังกล่าวแล้ว ย่อมปรากฎชัดว่า ข้อความของผู้โพสต์ได้เชื่อมโยงถึงหมอลำฉวีวรรณ ดำเนิน ซึ่งเป็นผู้ได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม
“คำพูดสั้นๆ ที่ปรากฎนั้น กลุ่มเรามีความเห็นว่าเป็นคำพูดที่มาจากบุคคลที่ได้ชื่อว่าเป็นครูบาอาจารย์ เป็นนักวิชาการ เป็นผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยที่กำกับดูแลด้านศิลปวัฒนธรรมของมหาวิทยาลัยอีกด้วย นับว่าเป็นอันตรายต่อศิลปวัฒนธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งของภาคอีสาน ซึ่งการส่งเสริม สนับสนุน วิจัยก็เป็นหนึ่งในบทบาทหน้าที่ของมหาวิทยาลัย หากมุมมองของนักวิชาการคนนี้ยังมีท่าทีดูถูก เหยียดหยาม บุคคลอื่น โดยเฉพาะบุคลากรในแวดวงศิลปวัฒนธรรมด้วยกันจะเป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวงมากยิ่งขึ้นในการโพสต์ คำว่า “ปะสา ดร จับสลาก” ถ้อยคำดังกล่าว สร้างความไม่สบายใจอย่างยิ่งต่อบรรดาลูกศิษย์และผู้ที่เคารพนับถือในคุณแม่หมอลำฉวีวรรณ ดำเนิน ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่มีจิตใจรักและหวงแหนศิลปวัฒนธรรมอีสาน ถือเป็นการดูหมิ่นเกียรติและศักดิ์ศรีปูชนียบุคคล และชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย ตลอดจนสถาบันสำคัญของชาติที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน” นายวรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ทางกลุ่มฯ ได้เรียกร้องให้อธิการบดี มมส ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยตามระเบียบข้าราชการ พนักงานมหาวิทยาลัยมหาสารคาม ดำเนินการตรวจสอบจริยธรรม จรรยาบรรณของบุคลากรคนดังกล่าว ขอให้พิจารณาว่าบุคลากรดังกล่าวยังมีความเหมาะสมที่จะมีหน้าที่ความรับผิดชอบในการสนับสนุน ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม อยู่อีกต่อไปหรือไม่ และหากผลการดำเนินการเป็นเช่นไร ขอให้แจ้งให้ทางกลุ่มฯทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ตลอดจนสาธารณชน และสื่อมวลชนได้รับทราบภายในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ.2560 หากทางมหาวิทยาลัยยังเพิกเฉย ทางกลุ่มฯ จะมีมาตรการดำเนินการในระดับเข้มข้นต่อไป
ขณะที่ รศ.ดร.ประยุกต์ ศรีวิไล รองอธิการบดีฝ่ายแผนและกิจการพิเศษ มมส กล่าวว่า มหาวิทยาลัยมหาสารคาม รู้จักกับแม่ฉวีวรรณ ดำเนิน มาตลอดระยะเวลาหลายปี เนื่องจากแม่ฉวีวรรณได้เข้ามาทำนุบำรุงและช่วยเหลืองานของมหาวิทยาลัยเป็นประจำทุกปี เช่น งานปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่ทุกรุ่น และการให้ความรู้เรื่องการเรียนการสอนต่อนักศึกษาวิทยาลัยดุริยางคศิลป์ ซึ่งทุกคนต่างก็รักและเคารพแม่ฉวีวรรณมาตลอด สิ่งที่เกิดขึ้นหากมองดูแล้วอาจเป็นเรื่องความเห็นส่วนตัวในเฟซบุ๊ก และมีเรื่องคอมเม้นต์ที่ตามมา ซึ่งทำให้ศิษย์และคนที่รักเคารพในตัวแม่ฉวีวรรณไม่พอใจ ซึ่งเรื่องนี้ทางมหาวิทยาลัยก็ได้รับหนังสือจากกลุ่มลูกศิษย์ไว้แล้ว โดยหลังจากนี้จะนำข้อเสนอแนะ และสิ่งที่กลุ่มลูกศิษย์เป็นห่วงไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการสอบข้อเท็จจริงต่อไป
“เพื่อให้ทุกๆ ท่านสบายใจ อยากเรียนให้ทราบว่า สถาบันของเรายังรักและเคารพในตัวแม่ฉวีวรรณมาโดยตลอด และจะยังรักเคารพไม่เสื่อมคลาย แต่เนื่องจากมีคอมเม้นต์ส่วนตัวที่ค่อนข้างอ่อนไหว ทำให้คนที่ทราบเกิดความไม่สบายใจ ซึ่งบุคลากรที่เป็นผู้ถูกร้องเรียนก็มีความเกี่ยวข้องและดูแลในเรื่องศิลปวัฒนธรรม ก็ควรจะใช้ถ้อยคำที่เหมาะสม และให้เกียรติท่านในฐานะที่แม่ฉวีวรรณก็เป็นทั้งครู และปูชนียบุคคลของภาคอีสานและของประเทศ รวมทั้งการเป็นศิลปินแห่งชาติที่ทุกคนต่างให้การยอมรับ” รศ.ดร.ประยุกต์ กล่าว
รศ.ดร.ประยุกต์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้จะเป็นส่วนของการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งหากผลเป็นอย่างไรก็จะแจ้งให้ทางกลุ่มลูกศิษย์ฯ ได้ทราบ ซึ่งโดยส่วนตัว ตนเองก็จะโทรศัพท์ติดต่อไปหาแม่ฉวีวรรณ เพื่อขอโทษท่านในนามของมหาวิทยาลัยและส่วนตัว ที่ทำให้แม่ฉวีวรรณไม่สบายใจ เพราะตนเองก็รู้จักกับแม่ฉวีวรรณเป็นอย่างดี ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะเป็นไปตามกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ให้รอการตรวจสอบก่อน




