กุญแจความสำเร็จ 3 ดอกของ “เชลซี”
คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2016-2017 ไปแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับ “เชลซี” หลังจากบุกเอาชนะเวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ไป 1-0 เมื่อวันศุกร์ที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา
ทำให้ทีมสิงห์โตน้ำเงินครามทำแต้มขาดแม้จะเหลือเกมอีก 2 นัด มี 87 คะแนน จาก 36 นัด ซึ่งเป็นแชมป์ลีกสูงสุดสมัยที่ 6 ของทีมอีกด้วย
ลองมาดูกันว่าองค์ประกอบและกุญแจความสำเร็จที่ทำให้เชลซีคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้มีอะไรกันบ้าง
“อันโตนิโอ คอนเต้” กุนซือที่ใช่
หลังจากจบฤดูกาลที่แล้วด้วยอันดับ 10 การเข้ามาของกุนซือชาวอิตาเลียน ถือว่าเข้ามาเติมเต็มความคาดหวังของทั้งทีมบริหาร แฟนบอลหรือแม้กระทั่งนักเตะได้เป็นอย่างดี เพราะอย่างที่ทราบกันว่า “คอนเต้” ไม่ใช่กุนซือโนเนมแต่อย่างใด พกความสำเร็จมามากมายกับยูเวนตุส ทั้งแชมป์ซีเรีย อา มาสามสมัย บอลถ้วยอีกสองครั้ง อีกทั้งเคยคุมทีมชาติอิตาลี มาด้วย ดังนั้นการคัดเลือกคอนเต้ เข้ามาทำทีมจึงไม่มีข้อกังขาต่อความสามารถ
โดยอดีตกุนซือทีมชาติอิตาลี ใช้งบทุ่มซื้อผู้เล่นไปร้อยกว่าล้านปอนด์ ดึงตัวเอ็นโกโล่ ก็องเต้, ดาวิด ลุยซ์, มิชี่ บัตชูอายี่, และมาร์กอส อลอนโซ่ แต่เมื่อหักลบกับการขายผู้เล่น(โดยเฉพาะการปล่อยตัวออสก้า ให้เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี) ผลาญเงินไปแค่ 18 ล้านปอนด์เท่านั้น
ช่วงแรกในการคุมทีมของคอนเต้ต้องเจอกับความลำบากไม่น้อย แม้จะเอาชนะ 3 เกมแรก แต่จากนั้นอีกสามนัดหลังไม่สามารถเอาชนะใครได้เลย ด้วยผลงาน เสมอสวอนซี 2-2 ,แพ้ลิเวอร์พูล 1-2 ,แพ้อาร์เซน่อล 0-3 กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเพราะทำให้ต้องปรับรุปแบบการเล่นใหม่เป็น 3-4-3 และด้วยแผนการเล่นนี้ทำให้เชลซีติดลมบน
ตั้งแต่นัดที่ 7-19 หรือก็คือ 1 ต.ค. - 31 ธ.ค. เชลซี รวม 13 นัด ทีมสิงห์โตน้ำเงินครามเก็บชัยชนะรวดคว้า 39 คะแนนเต็ม แม้ช่วงหลังปีใหม่ 2017 ฟอร์มจะสะดุดไปบ้าง แต่ก็ยังมีมาตรฐานเพียงพอประคองตัวจนคว้าแชมป์ในที่สุด ซึ่งต้องให้เครดิตต่อมันสมองของคอนเต้ ที่ทำการปรับรูปแบบการเล่นครั้งนี้
โดยคอนเต้กลายเป็นโค้ชอิตาเลียน คนที่ 4 ที่ได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ต่อจาก คาร์โล อันเชลล็อตติ, โรแบร์โต มันชินี่ และ เคลาดิโอ รานิเอรี
ความยอดเยี่ยมของ “อาซาร์-ก็องเต้”
“เอเด็น อาซาร์” ถูกวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นอย่างหนักในฤดูกาล 2015-2016 ทั้งการทำเกมที่ผิดพลาด การทำประตู (ทำไปแค่ 4 ประตูในลีก) ที่สำคัญคือความมุ่งมั่นในการเล่น
จนถูกตั้งคำถามว่าหมดไฟในฟุตบอลอังกฤษแล้วหรือไม่หลังจากคว้าแชมป์ได้ในปี 2014-2015 รวมถึงกวาดรางวัลใหญ่สามรางวัลอย่าง ดาวรุ่งยอดเยี่ยม,นักฟุตบอลยอดเยี่ยมทั้งของนักฟุตบอลอาชีพและสมาคมผู้สื่อข่าว จนมีข่าวลือในช่วงหน้าร้อนก่อนฤดูกาล 2016-2017 ว่าอาจจะขอย้ายทีมออกไป
แต่ฤดูกาลนี้ ดาวเตะชาวเบลเยียมก็สยบข่าวลือทั้งหมด ก่อนจะระเบิดฟอร์มอุดปากบรรดานักวิจารณ์ ทำไปแล้ว 15 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ อีกทั้งเป็นผู้เล่นที่มีเรตติ้งโดยรวมสูงสุดในพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
ขณะที่ “เอ็นโกโล่ ก็องเต้” ที่ย้ายจากเลสเตอร์ มาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ถือได้ว่าเป็นราคาที่ถูกอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะการเข้ามาของก็องเต้ เข้ามาเติมเต็มระบบการเล่น 3-4-3 ได้อย่างสมบูรณ์แบบ คว้ารางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมสองสถาบัน ในฤดูกาลนี้ได้อย่างสง่างาม ที่สำคัญถือดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสยังจะได้ลูถ้วยพรีเมียร์ลีกติดต่อกันสองปีซ้อนหลังจากที่ฤดูกาลที่แล้วคว้าแชมป์กับเลสเตอร์
โปรแกรมที่เอื้ออำนาย
การที่เชลซี ไม่ต้องเปลืองแรงเปลืองสมาธิในเกมฟุตบอลยุโรปเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดที่ทำให้มีผลงานยอดเยี่ยมในซีซั่นนี้ ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นส่วนที่ช่วยสนับสนุนจริงๆ คู่แข่งสำคัญอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และอาร์เซนอล ต้องเล่นในรายการยูฟ่าแชมเปี้ยนสลีก ส่วนท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แม้ว่าจะตกรอบแบ่งกลุ่มแชมเปี้ยสลีกอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังมีโปรแกรมในฟุตบอล ยูฟ่า ยูโรปาลีก เช่นเดียวกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ทะลุไปถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูโรปา ลีก
อย่างไรก็ตาม ต้องไม่ลืมว่าเชลซีอาจจะไม่มีเกมฟุตบอลยุโรป ก็จริงแต่นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้วยอดทีมจากสแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ยังมีโปรแรกมฟุตบอลเอฟเอคัพที่สามารถฝ่าฟันจนมาถึงรอบชิงชนะเลิศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหารหักด่านสำคัญในรอบ 8 ทีมสุดท้ายที่ต้องเจอกับ แมนฯยูไนเต็ด และรอบรองชนะเลิศกับสเปอร์ ก่อนที่จะเตรียมเข้าชิงนะเลิศกับอาร์เซนอล วันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เพื่อลุ้นการเป็นดับเบิลแชมป์
ฤดูกาลนี้พลพรรคสิงห์โตน้ำเงินครามและคอนเต้ จะสามารถคว้าดับเบิลแชมป์เป้นสมัยที่สองของทีมได้สำเร็จหรือไม่ วันที่ 27 พฤษภาคมนี้คงได้รู้กัน
แต่ตอนนี้บรรดาแฟนบอลต่างมองข้ามช็อตไปถึงฤดูกาลหน้าแล้วว่า ผลงานของเชลซีจะเป็นอย่างไรเมื่อมีโปรแกรมฟุตบอลยุโรปเข้ามา
รวมไปถึงกาซื้อตัวผู้เล่นจะเป็นอย่างไรเพราะขณะนี้หากพิจารณาตามกฎผู้เล่นท้องถิ่น(Homegrown) หากตัดจอห์น เทอร์รี่ ที่ประกาศเลิกเล่น ตอนนี้ในทีมชุดใหญ่ของเชลซีเหลือเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น







